บลจ.กสิกรไทย เลื่อนออก “เค หยวนลิงก์” อิงผลตอบแทนค่าเงินแดนมังกร หลังถูกอัตราดอกเบี้ย และแคมเปญเงินฝาก บังความน่าสนใจ เหตุผลตอบแทนที่ได้ยังไม่ตายตัว แต่ยังมั่นใจเศรษฐกิจจีนยังเติบโตต่อเนื่อง ขณะเดียวกันส่งกองบอนด์โสมกระตุ้นนักลงทุนต่อเนื่อง 19-25 สิงหาคมนี้ หลัง 23 กองแรกเก็บกวาดยอดไปแล้วกว่า 5 หมื่นล้านบาท
นางเสาวณีย์ ศรีสุวรรณกิจ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า สาเหตุที่บริษัทจำเป็นที่จะต้องเลื่อนกำหนดขายกองทุนเปิด เค หยวน ลิงก์ ออกไประยะหนึ่งก่อน เนื่องจากขณะนี้ ธนาคารพาณิชย์ มีการแข่งขันด้านแคมเปญอัตราดอกเบี้ยออกมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผลตอบแทนของกองทุนนี้มีความน่าสนใจลดน้อยลง
อย่างไรก็ตาม การเลื่อนออกกองทุนนี้ มิได้เกี่ยวข้องกับแนวโน้มด้านค่าเงิน หรือเศรษฐกิจของประเทศจีนแต่อย่างใด โดยเศรษฐกิจของประเทศจีนน่าจะขยายตัวได้ตาที่เราคาดการณ์ไว้ แต่ผลตอบแทนที่ได้จะเป็นตัวแปรสำคัญในการออกขายกองทุนนี้มากกว่า
“ผลตอบแทนมันไม่ตายตัว คือจะคำนวณว่าหากค่าเงินหยวนแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินดอลล่าร์สหรัฐฯ น้อยกว่า 9 เดือนจาก 12 เดือน ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนสุทธิขั้นต่ำประมาณ 1.50% แต่หากเงินหยวนแข็งค่าขึ้นตั้งแต่ 9 เดือน จาก 12 เดือน ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนสุทธิขั้นสูงประมาณ 5.50% ซึ่งเมื่อเทียบกับแคมเปญดอกเบี้ยแล้ว ความน่าสนใจมันเลยลดลง”นางเสาวณีย์กล่าว
นางเสาวณีย์ กล่าวอีกว่า การเปิดขาย กองทุน เค หยวน ลิงก์ จะยังคงต้องรอดูสถานการณ์อีกครั้งว่าจะทำการเปิดขายได้อีกเมื่อไร ซึ่งจะต้องอยู่ในเงื่อนไขตามระยะเวลาของ คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์
ทั้งนี้ นอกจากกองทุนใหม่ๆ ที่บริษัทกำลังพิจารณาอยู่ เชื่อว่า กองทุน พันบัตร เกาหลี ที่มีการทยอยเปิดออกมาอย่างต่อเนื่อง และได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน น่าจะยังเหมาะสมกับสถาการณ์การลงทุนในขณะนี้
โดยบริษัทจะทำการเปิดขายกองทุนนี้เพิ่มเติมอีกได้แก่ กองทุนเปิดเค พันธบัตรเกาหลี เอ็กซ์ อายุโครงการ 1 ปีในระหว่างวันที่ 19-25 สิงหาคมนี้ ซึ่งกองทุนพันธบัตรเกาหลีถือได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดีในช่วงที่ผ่านมา และมียอดลงทุนรวมกว่า 50,395.65 ล้านบาท จากทั้งหมด 23 กองทุน
สำหรับกองทุนพันธบัตรเกาหลีมีมูลค่าโครงการ 1,100 ล้านบาท โดยมีนโยบายการลงทุนที่มุ่งลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลของประเทศเกาหลีใต้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยเงินส่วนที่เหลือ อาทิ เงินที่สำรองไว้สำหรับการดำเนินงานรอการลงทุน หรือรักษาสภาพคล่องของกองทุน จะนำมาลงทุนในหลักทรัพย์ที่เสนอขายในประเทศ อาทิ เงินฝาก ตราสารทางการเงิน และตราสารแห่งหนี้ รวมถึงหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่นที่ไม่ขัดต่อกฎหมายก.ล.ต.
อนึ่ง ผลตอบแทนที่คาดการณ์ไว้ในกองทุนพันธบัตร เกาหลีใต้ ซึ่งออกไปก่อนหน้านี้จะอยู่ที่ประมาณ 4.3% หลังหักค่าใช้จ่ายด้านต่างๆ โดยการที่ผลตอบแทนของพันธบัตรภายในประเทศอายุ 1 ปีมีการปรับตัวเพิ่มมากขึ้นก็ถือเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลให้นักลงทุนมองการลงทุนในต่างประเทศมีความเสี่ยงมากกว่า หากผลตอบแทนได้ใกล้เคียงกัน ซึ่งขณะนี้ส่วนต่างๆ จะอยู่ที่ประมาณ 0.7-0.8% เท่านั้น
ทั้งนี้ นายชัชชัย สฤษดิ์อภิรักษ์ ผู้จัดการกองทุนอาวุโส ฝ่ายจัดการกองทุนตราสารหนี้ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) กสิกรไทย จำกัด เคยกล่าวว่า “แนวโน้มการลงทุนในพันธบัตรเกาหลีเชื่อว่ายังเป็นจังหวะที่เหมาะสมในการลงทุน แต่ในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ทางบริษัทอาจจะต้องพิจารณากองทุนในลักษณะอื่นเข้ามาทดแทนกองทุนประเภทนี้เช่นกัน”
นางเสาวณีย์ ศรีสุวรรณกิจ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า สาเหตุที่บริษัทจำเป็นที่จะต้องเลื่อนกำหนดขายกองทุนเปิด เค หยวน ลิงก์ ออกไประยะหนึ่งก่อน เนื่องจากขณะนี้ ธนาคารพาณิชย์ มีการแข่งขันด้านแคมเปญอัตราดอกเบี้ยออกมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผลตอบแทนของกองทุนนี้มีความน่าสนใจลดน้อยลง
อย่างไรก็ตาม การเลื่อนออกกองทุนนี้ มิได้เกี่ยวข้องกับแนวโน้มด้านค่าเงิน หรือเศรษฐกิจของประเทศจีนแต่อย่างใด โดยเศรษฐกิจของประเทศจีนน่าจะขยายตัวได้ตาที่เราคาดการณ์ไว้ แต่ผลตอบแทนที่ได้จะเป็นตัวแปรสำคัญในการออกขายกองทุนนี้มากกว่า
“ผลตอบแทนมันไม่ตายตัว คือจะคำนวณว่าหากค่าเงินหยวนแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินดอลล่าร์สหรัฐฯ น้อยกว่า 9 เดือนจาก 12 เดือน ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนสุทธิขั้นต่ำประมาณ 1.50% แต่หากเงินหยวนแข็งค่าขึ้นตั้งแต่ 9 เดือน จาก 12 เดือน ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนสุทธิขั้นสูงประมาณ 5.50% ซึ่งเมื่อเทียบกับแคมเปญดอกเบี้ยแล้ว ความน่าสนใจมันเลยลดลง”นางเสาวณีย์กล่าว
นางเสาวณีย์ กล่าวอีกว่า การเปิดขาย กองทุน เค หยวน ลิงก์ จะยังคงต้องรอดูสถานการณ์อีกครั้งว่าจะทำการเปิดขายได้อีกเมื่อไร ซึ่งจะต้องอยู่ในเงื่อนไขตามระยะเวลาของ คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์
ทั้งนี้ นอกจากกองทุนใหม่ๆ ที่บริษัทกำลังพิจารณาอยู่ เชื่อว่า กองทุน พันบัตร เกาหลี ที่มีการทยอยเปิดออกมาอย่างต่อเนื่อง และได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน น่าจะยังเหมาะสมกับสถาการณ์การลงทุนในขณะนี้
โดยบริษัทจะทำการเปิดขายกองทุนนี้เพิ่มเติมอีกได้แก่ กองทุนเปิดเค พันธบัตรเกาหลี เอ็กซ์ อายุโครงการ 1 ปีในระหว่างวันที่ 19-25 สิงหาคมนี้ ซึ่งกองทุนพันธบัตรเกาหลีถือได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดีในช่วงที่ผ่านมา และมียอดลงทุนรวมกว่า 50,395.65 ล้านบาท จากทั้งหมด 23 กองทุน
สำหรับกองทุนพันธบัตรเกาหลีมีมูลค่าโครงการ 1,100 ล้านบาท โดยมีนโยบายการลงทุนที่มุ่งลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลของประเทศเกาหลีใต้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยเงินส่วนที่เหลือ อาทิ เงินที่สำรองไว้สำหรับการดำเนินงานรอการลงทุน หรือรักษาสภาพคล่องของกองทุน จะนำมาลงทุนในหลักทรัพย์ที่เสนอขายในประเทศ อาทิ เงินฝาก ตราสารทางการเงิน และตราสารแห่งหนี้ รวมถึงหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่นที่ไม่ขัดต่อกฎหมายก.ล.ต.
อนึ่ง ผลตอบแทนที่คาดการณ์ไว้ในกองทุนพันธบัตร เกาหลีใต้ ซึ่งออกไปก่อนหน้านี้จะอยู่ที่ประมาณ 4.3% หลังหักค่าใช้จ่ายด้านต่างๆ โดยการที่ผลตอบแทนของพันธบัตรภายในประเทศอายุ 1 ปีมีการปรับตัวเพิ่มมากขึ้นก็ถือเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลให้นักลงทุนมองการลงทุนในต่างประเทศมีความเสี่ยงมากกว่า หากผลตอบแทนได้ใกล้เคียงกัน ซึ่งขณะนี้ส่วนต่างๆ จะอยู่ที่ประมาณ 0.7-0.8% เท่านั้น
ทั้งนี้ นายชัชชัย สฤษดิ์อภิรักษ์ ผู้จัดการกองทุนอาวุโส ฝ่ายจัดการกองทุนตราสารหนี้ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) กสิกรไทย จำกัด เคยกล่าวว่า “แนวโน้มการลงทุนในพันธบัตรเกาหลีเชื่อว่ายังเป็นจังหวะที่เหมาะสมในการลงทุน แต่ในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ทางบริษัทอาจจะต้องพิจารณากองทุนในลักษณะอื่นเข้ามาทดแทนกองทุนประเภทนี้เช่นกัน”