ช่วงต้นปีที่ผ่านมา กระแสการลงทุนในกลุ่มประเทศเกิดใหม่ โดยเฉพาะประเทศบราซิล รัสเซีย อินเดียและจีน หรือที่คุ้นหูกันว่า กลุ่ม BRIC ได้รับความสนใจจากนักลงทุนมากพอสมควร ซึ่งในช่วงนั้น มีการคาดหมายว่าเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศ BRIC มีแนวโน้มขยายตัวสูง แต่จากการเทขายหุ้นเพื่อนำมาชดเชยผลกระทบจากปัญหาซับไพรม์ ทำให้ที่ผ่านมา การลงทุนในกลุ่มประเทศ BRIC ได้รับผลกระทบหนักพอสมควร
แต่ในวิกฤตที่เกิดขึ้น หลายคนมองเห็นเป็นโอกาส เพราะแน่นอนว่าย่อมได้ลงทุนในราคาที่ถูกกว่า ซึ่งหลังจากปัญหาซับไพรม์เริ่มคลี่คลายไประดับหนึ่งแล้ว หลายคนเริ่มมั่นใจมากขึ้นว่า หลังจากนี้น่าจะเป็นช่วงที่ตลาดหุ้นกลุ่มประเทศเหล่านี้ปรับขึ้นได้อีกครั้ง...ล่าสุด บลจ.เอ็มเอฟซี จึงส่งกองทุนรวมเอ็มเอฟซี อินเตอร์เนชั่นแนล บริค รีคัฟเวอรี่ (I-BRIC Recovery) ลุยตลาดหุ้น 4 ประเทศใหญ่ทั้ง บราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน...ไปดูกันว่า กองทุนนี้มีความน่าสนใจอย่างไรบ้าง
พิชิต อัคราทิตย์ กรรมการผู้จัดการ บลจ. เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) บอกว่า กองทุนรวมเอ็มเอฟซี อินเตอร์เนชั่นแนล บริค รีคัฟเวอรี่ หรือ I-BRIC Recovery เป็นกองทุนรวมผสมแบบไม่กำหนดสัดส่วนการลงทุนในตราสารทุน ลงทุนได้ทั้งตราสารทุนและตราสารหนี้ ประเภทไม่รับซื้อคืนหน่วยลงทุน อายุ 1 ปี มูลค่าโครงการ 600 ล้านบาท ซึ่ง เป็นกองทุนที่สนองตอบความต้องการลงทุนในกองทุนที่ตั้งเป้าหมายผลตอบแทน โดยกองทุนตั้งเป้าหมายผลตอบแทนที่ 10%
จุดเด่นของกองทุนรวม I-BRIC Recovery คือ เน้นลงทุนในหุ้นที่มีพื้นฐานดีของประเทศบราซิล รัสเซีย อินเดียและจีน หรือกลุ่ม BRIC ซึ่งเป็นกลุ่มประเทศที่ยังคงมีอัตราการเติบโตสูงเมื่อเทียบกับประเทศในแถบภูมิภาคอื่นๆ แม้ในช่วงนี้ตลาดหุ้นของกลุ่มประเทศดังกล่าวจะปรับตัวลดลง แต่ถือเป็นจังหวะที่ดีสำหรับการเข้าลงทุน เพื่อมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่ดีต่อไป โดยกองทุนจะเน้นลงทุนในหุ้นที่มีสภาพคล่องสูง เพื่อสามารถปรับเปลี่ยนพอร์ตการลงทุนตามสภาวการณ์ตลาดได้ทันท่วงที นอกจากนี้กองทุนยังมีความยืดหยุ่นสูง โดยสามารถปรับสัดส่วนการลงทุนได้เมื่อคาดว่าราคาหลักทรัพย์มีแนวโน้มจะลดลง และมีการบริหารความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนตามภาวะของตลาดอีกด้วย
นอกจากนี้ กองทุนรวม I-BRIC Recovery ยังสามารถเลิกกองทุนทันทีไม่ต้องรอครบอายุกองทุน เมื่อมูลค่าหน่วยลงทุนไม่ต่ำกว่า 11.30 บาท เป็นเวลา 5 วันทำการติดต่อกัน หรือทรัพย์สินของกองทุนเป็นเงินสดทั้งหมดในสกุลเงินบาท ณ วันทำการใดๆ และมูลค่าหน่วยลงทุนที่คืนผู้ถือหน่วยลงทุนต้องไม่ต่ำกว่า 11 บาท หรืออีกนัยหนึ่งคือเลิกกองทุนเมื่อผู้ถือหน่วยลงทุนได้รับผลตอบแทนไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 ของเงินทุน ซึ่งผู้ถือหน่วยลงทุนรายย่อยจะได้รับการยกเว้นภาษีของกำไรส่วนเกินมูลค่าหน่วยลงทุน
กองทุนรวม I-BRIC Recovery เหมาะสำหรับผู้ที่คาดหวังโอกาสได้รับผลตอบแทนจากมูลค่าเพิ่มของการลงทุน (Capital Gain) ผู้ที่ต้องการกระจายความเสี่ยงในการลงทุนโดยกองทุนจะเน้นลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูงของต่างประเทศ สามารถรับความเสี่ยงจากการลงทุนได้ในระดับปานกลางถึงสูง และต้องการโอกาสได้รับผลตอบแทนสูงจากการลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศ
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในกลุ่มประเทศ BRIC ที่มีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดี เนื่องจาก บราซิล เป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในกลุ่มประเทศลาติน อเมริกา และ S&P และ Fitch ปรับเพิ่ม rating ตลาดหลักทรัพย์บราซิลจาก BB+ เป็น BBB- ทำให้ตราสารของ บราซิลอยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้ นอกจากนี้ ตลาดหลักทรัพย์ของบราซิลอาจจะเข้าสู่ระดับต่ำสุด และเริ่มปรับตัวสูงขึ้นในช่วงนี้ ทำให้น่าลงทุน รัสเซีย ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ตั้งแต่ต้นปีแม้จะปรับตัวลดลง แต่ก็ยังคงอยู่ในระดับสูงกว่าทุกดัชนี และยังคงน่าลงทุนอยู่ และค่า PE ยังคงอยู่ในระดับต่ำทำให้ดึงดูดนักลงทุนให้เข้ามาลงทุนมากขึ้น นอกจากนี้รัฐบาลมีนโยบายชัดเจนในการบริหารอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น และปรับปรุงระดับภาษีเพื่อลดภาระทางภาษีของประชาชน ทำให้เศรษฐกิจภายในประเทศขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
ส่วนใน อินเดีย ปีหน้าจะมีการเลือกตั้ง ทำให้คาดว่าจะมีเงินสะพัดภายในประเทศ ซึ่งทำให้เศรษฐกิจขยายตัว และอัตราการเติบโตของอินเดียแม้จะชะลอตัว แต่ยังคงอยู่ในระดับสูงที่ร้อยละ 8 เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ซึ่งมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ร้อยละ 4 และปัญหาเงินเฟ้อใน จีน คาดว่าจะทุเลาลงในครึ่งปีหลัง ทำให้คนมีอำนาจในการซื้อมากขึ้น และส่งผลให้เศรษฐกิจโดยรวมในประเทศดีขึ้น และอุปสงค์ภายในประเทศยังขยายตัวได้อย่างต่อเนื่องและอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจจีนยังคงอยู่ในระดับสูงที่ร้อยละ 10 (จากข้อมูล Bloomberg ณ กรกฎาคม 2551)
นักลงทุนที่สนใจลงทุนในกองทุนรวมเอ็มเอฟซี อินเตอร์เนชั่นแนล บริค รีคัฟเวอรี่ (I-BRIC Recovery) สามารถลงทุนขั้นต่ำได้ตั้งแต่ 10,000 บาท โดยติดต่อขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่บลจ. เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) โทรศัพท์ 0-2649-2000 ติดต่อฝ่ายวางแผนการลงทุน กด 2 หรือ Contact Center กด 0 หรือที่ www.mfcfund.com
แต่ในวิกฤตที่เกิดขึ้น หลายคนมองเห็นเป็นโอกาส เพราะแน่นอนว่าย่อมได้ลงทุนในราคาที่ถูกกว่า ซึ่งหลังจากปัญหาซับไพรม์เริ่มคลี่คลายไประดับหนึ่งแล้ว หลายคนเริ่มมั่นใจมากขึ้นว่า หลังจากนี้น่าจะเป็นช่วงที่ตลาดหุ้นกลุ่มประเทศเหล่านี้ปรับขึ้นได้อีกครั้ง...ล่าสุด บลจ.เอ็มเอฟซี จึงส่งกองทุนรวมเอ็มเอฟซี อินเตอร์เนชั่นแนล บริค รีคัฟเวอรี่ (I-BRIC Recovery) ลุยตลาดหุ้น 4 ประเทศใหญ่ทั้ง บราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน...ไปดูกันว่า กองทุนนี้มีความน่าสนใจอย่างไรบ้าง
พิชิต อัคราทิตย์ กรรมการผู้จัดการ บลจ. เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) บอกว่า กองทุนรวมเอ็มเอฟซี อินเตอร์เนชั่นแนล บริค รีคัฟเวอรี่ หรือ I-BRIC Recovery เป็นกองทุนรวมผสมแบบไม่กำหนดสัดส่วนการลงทุนในตราสารทุน ลงทุนได้ทั้งตราสารทุนและตราสารหนี้ ประเภทไม่รับซื้อคืนหน่วยลงทุน อายุ 1 ปี มูลค่าโครงการ 600 ล้านบาท ซึ่ง เป็นกองทุนที่สนองตอบความต้องการลงทุนในกองทุนที่ตั้งเป้าหมายผลตอบแทน โดยกองทุนตั้งเป้าหมายผลตอบแทนที่ 10%
จุดเด่นของกองทุนรวม I-BRIC Recovery คือ เน้นลงทุนในหุ้นที่มีพื้นฐานดีของประเทศบราซิล รัสเซีย อินเดียและจีน หรือกลุ่ม BRIC ซึ่งเป็นกลุ่มประเทศที่ยังคงมีอัตราการเติบโตสูงเมื่อเทียบกับประเทศในแถบภูมิภาคอื่นๆ แม้ในช่วงนี้ตลาดหุ้นของกลุ่มประเทศดังกล่าวจะปรับตัวลดลง แต่ถือเป็นจังหวะที่ดีสำหรับการเข้าลงทุน เพื่อมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่ดีต่อไป โดยกองทุนจะเน้นลงทุนในหุ้นที่มีสภาพคล่องสูง เพื่อสามารถปรับเปลี่ยนพอร์ตการลงทุนตามสภาวการณ์ตลาดได้ทันท่วงที นอกจากนี้กองทุนยังมีความยืดหยุ่นสูง โดยสามารถปรับสัดส่วนการลงทุนได้เมื่อคาดว่าราคาหลักทรัพย์มีแนวโน้มจะลดลง และมีการบริหารความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนตามภาวะของตลาดอีกด้วย
นอกจากนี้ กองทุนรวม I-BRIC Recovery ยังสามารถเลิกกองทุนทันทีไม่ต้องรอครบอายุกองทุน เมื่อมูลค่าหน่วยลงทุนไม่ต่ำกว่า 11.30 บาท เป็นเวลา 5 วันทำการติดต่อกัน หรือทรัพย์สินของกองทุนเป็นเงินสดทั้งหมดในสกุลเงินบาท ณ วันทำการใดๆ และมูลค่าหน่วยลงทุนที่คืนผู้ถือหน่วยลงทุนต้องไม่ต่ำกว่า 11 บาท หรืออีกนัยหนึ่งคือเลิกกองทุนเมื่อผู้ถือหน่วยลงทุนได้รับผลตอบแทนไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 ของเงินทุน ซึ่งผู้ถือหน่วยลงทุนรายย่อยจะได้รับการยกเว้นภาษีของกำไรส่วนเกินมูลค่าหน่วยลงทุน
กองทุนรวม I-BRIC Recovery เหมาะสำหรับผู้ที่คาดหวังโอกาสได้รับผลตอบแทนจากมูลค่าเพิ่มของการลงทุน (Capital Gain) ผู้ที่ต้องการกระจายความเสี่ยงในการลงทุนโดยกองทุนจะเน้นลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูงของต่างประเทศ สามารถรับความเสี่ยงจากการลงทุนได้ในระดับปานกลางถึงสูง และต้องการโอกาสได้รับผลตอบแทนสูงจากการลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศ
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในกลุ่มประเทศ BRIC ที่มีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดี เนื่องจาก บราซิล เป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในกลุ่มประเทศลาติน อเมริกา และ S&P และ Fitch ปรับเพิ่ม rating ตลาดหลักทรัพย์บราซิลจาก BB+ เป็น BBB- ทำให้ตราสารของ บราซิลอยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้ นอกจากนี้ ตลาดหลักทรัพย์ของบราซิลอาจจะเข้าสู่ระดับต่ำสุด และเริ่มปรับตัวสูงขึ้นในช่วงนี้ ทำให้น่าลงทุน รัสเซีย ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ตั้งแต่ต้นปีแม้จะปรับตัวลดลง แต่ก็ยังคงอยู่ในระดับสูงกว่าทุกดัชนี และยังคงน่าลงทุนอยู่ และค่า PE ยังคงอยู่ในระดับต่ำทำให้ดึงดูดนักลงทุนให้เข้ามาลงทุนมากขึ้น นอกจากนี้รัฐบาลมีนโยบายชัดเจนในการบริหารอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น และปรับปรุงระดับภาษีเพื่อลดภาระทางภาษีของประชาชน ทำให้เศรษฐกิจภายในประเทศขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
ส่วนใน อินเดีย ปีหน้าจะมีการเลือกตั้ง ทำให้คาดว่าจะมีเงินสะพัดภายในประเทศ ซึ่งทำให้เศรษฐกิจขยายตัว และอัตราการเติบโตของอินเดียแม้จะชะลอตัว แต่ยังคงอยู่ในระดับสูงที่ร้อยละ 8 เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ซึ่งมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ร้อยละ 4 และปัญหาเงินเฟ้อใน จีน คาดว่าจะทุเลาลงในครึ่งปีหลัง ทำให้คนมีอำนาจในการซื้อมากขึ้น และส่งผลให้เศรษฐกิจโดยรวมในประเทศดีขึ้น และอุปสงค์ภายในประเทศยังขยายตัวได้อย่างต่อเนื่องและอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจจีนยังคงอยู่ในระดับสูงที่ร้อยละ 10 (จากข้อมูล Bloomberg ณ กรกฎาคม 2551)
นักลงทุนที่สนใจลงทุนในกองทุนรวมเอ็มเอฟซี อินเตอร์เนชั่นแนล บริค รีคัฟเวอรี่ (I-BRIC Recovery) สามารถลงทุนขั้นต่ำได้ตั้งแต่ 10,000 บาท โดยติดต่อขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่บลจ. เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) โทรศัพท์ 0-2649-2000 ติดต่อฝ่ายวางแผนการลงทุน กด 2 หรือ Contact Center กด 0 หรือที่ www.mfcfund.com
