xs
xsm
sm
md
lg

SCBAM Planning Orderเพื่อโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีในอนาคต

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


หลังจากที่ผู้จัดการกองทุนรวม ได้นำเสนอการออมรูปแบบใหม่ แทนการออมเงินแบบเดิมหรือที่เรียกว่า เซฟวิ่งเเเพลน มาหลายสัปดาห์ติดต่อกันแล้วนั้น มาวันนี้ถึงคิวของบลจ.ที่มีส่วนแบ่งทางการตลาดมากที่สุดในอุตสาหกรรมกองทุนรวม อย่าง บลจ.ไทยพาณิชย์ นั่นเอง และที่สำคัญไม่นานมานี้เอง ทางบลจ.ได้มีการแถลงข่าวเปิดตัวผู้บริหารหนุ่มไฟแรงอย่าง ดร.เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ที่จะขับเคลื่อนสินทรัพย์จาก 300,000 ล้านบาท เป็น 1,000,000 ล้านบาท

ดังนั้นเรามาดูกันว่าโปรเเกรมการออมรูปแบบใหม่ของบลจ.ค่ายนี้ มีอะไรกันบ้าง พัชรินทร์ เตชะเคหะกิจ รองกรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.)ไทยพาณิชย์ จำกัด กล่าวว่า ตอนนี้เวลาลูกค้าเดินไปที่ไทยพาณิชย์ เราจะวางเเผนการลงทุนให้กับลูกค้าเลยว่าถ้าเงินที่ใช้เป็นสภาพคล่องควรจะลงทุนในอะไร รับความเสี่ยงจากการลงทุนได้มากน้อยเเค่ไหน อยากจะลงทุนในกองทุนนานเท่าไร เเละที่สำคัญคือมีเป้าหมายในการลงทุนเพื่ออะไร เมื่อเป็นลูกค้าสามารถตอบโจทย์ดังกล่าวได้เเล้ว เราจะเเนะนำต่อว่าควรจะลงทุนกองทุนอะไร อย่างเช่น ช่วงเวลานี้ควรเเบ่งเงินไปลงทุนในกองทุนที่ลงทุนในตราสารหนี้ เพื่อรับผลตอบแทนที่ดีในช่วงที่ดอกเบี้ยปรับตัวเพิ่มขึ้น เป็นต้น

หลังจากนั้นบริษัทจะดูความเสี่ยงว่าลูกค้าสามารถรับความเสี่ยงได้มากขึ้นหรือไม่ ถ้ารับความเสี่ยงได้มากขึ้นเราก็จะเเนะนำกองทุนอื่นๆให้กับลูกค้า เช่นกองทุนที่ลงทุนในหุ้น หรือ เอสซีบีเซท ที่ ณ วันนี้เรามีสินทรัพย์ 1,700 กว่าล้านบาทและไม่ต้องเสียภาษี เหมือนกับกองทุนหุ้นระยะยาว (LTF) เเละกองทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ที่สามารถนำไปลดหย่อนได้ นอกจากนั้นเรายังมีกองทุนที่ลงทุนในทองคำที่เปิดขายเเละประสบความสำเร็จ ด้วยตัวเลขสินทรัพย์ที่มีอยู่ 2,000 ล้านในเพียงช่วงเวลาไม่นาน

สำหรับโปรเเกรมเซฟวิ่งเเเพลนของบลจ.ไทยพาณิชย์ มีชื่อเรียกว่า เพลนนิ่ง ออเดอร์ โดยเริ่มมีตั้งเเต่ต้นปี 51 ซึ่งส่วนมากลูกค้าที่เข้ามานั้นจะสนใจกองทุน LTFเเละRMF มากที่สุด เพราะบางรายไม่อยากตัดจ่ายซื้อตอนปลายปี จึงใช้โปรเเกรมเพลนนิ่ง ออเดอร์นี้ เพื่อเป็นการออมเเละการลงทุนอย่างมีวินัย ซึ่งทุกวันที่นี้ระบบบัญชีธนาคารจะตัดโดยอัตโนมัติ นักลงทุนสามารถลงทุนขั้นต่ำเพียง 1,000 บาท ทำให้ตอนนี้บริษัทมีลูกค้าที่สนใจเพลนนิ่ง ออเดอร์ กว่า 700 รายเเล้ว ขณะที่ยอดของผู้ให้ตัดบัญชีสูงสุดที่ 40,000 บาทต่อเดือน นอกจากนี้ โปรเเกรม เพลนนิ่ง ออเดอร์ ไม่ได้ใช้กับเเค่กองทุนLTFเเละRMF เท่านั้น เเต่ยังสามารถใช้โปรเเกรมดังกล่าวได้กับกองทุนภายในบลจ.ไทยพาณิชย์เช่นกัน

ลงทุนแบบ Dollar Cost Averaging

พัชรินทร์ อธิบายว่า การลงทุน แบบ Dollar Cost มีประโยชน์ คือ ไม่เป็นในทันทีทันใด หรือสร้างภาระให้แก่ผู้ลงทุน ก็เหมือนกับทุกเดือนที่เรามีรายได้ออกมา เราต้องแบ่งอยู่แล้วว่าเรามีค่าใช้จ่ายเท่าไร แล้วมีการออมเท่าไร แต่แทนที่จะออมแบบธรรมดา เช่นการฝากประจำไว้กับธนาคาร ลูกค้าก็อาจเปลี่ยนการออมมาเป็นแบ่งส่วนหนึ่ง หรืออาจจะเปลี่ยนมาออมแบบ Dollar Cost ทั้งหมดก็ได้ นอกจากนี้ การออมแบบ Dollar Cost ยังได้สิทธิทางภาษีอีกด้วย ซึ่งสามารถหักลบภายในปีนั้นและได้คืนภาษีภายในปีนั้นอีกด้วย ทำให้มีรายได้เพิ่มในปีนั้น ไม่เป็นภาระกับลูกค้าแต่อย่างใด

“Dollar Cost เป็นการกระจายต้นทุน ดูได้จากดัชนีปีนี้ ต้นทุนของดัชนีเคยขึ้นไป 880 จุด คนที่ลงทุน 700 กว่าจุดเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ทุกคนอาจสบายใจ เพราะว่าซื้อถูก แต่วันนี้ลงไป 600 กว่าจุดแล้ว ดังนั้นถ้าทำ Dollar Cost สิ่งที่เขาทราบคือ เขาจะมีต้นทุนเฉลี่ยบางเดือนซื้อถูก บางเดือนซื้อในราคาสูงหน่อย ทยอยสะสมกันมาก็จะได้ต้นทุนเฉลี่ยที่ถูกว่าเดิม”

นอกจากนี้ การลงทุนแบบ Dollar Cost ยังช่วยลดปัญหาการซื้อหน่วยลงทุนตอนปลายปีของกองทุน LTFเเละRMF โดยไม่เป็นภาระให้กับผู้ถือหน่วย สำหรับของกำนัลที่ทำชักชวนลูกค้าให้มาซื้อตอนปลายปีนั้น ทางบลจ.ไทยพาณิชย์ ได้จัดให้ลูกค้าตั้งแต่ต้นปี แล้วแต่เวลาแคมเปญนั้นจะเป็นอย่างไร ที่สำคัญเรามีทางเลือกให้กับลูกค้าโดยไม่จำกัด

กองทุนที่เข้าร่วมโปรแกรม Planning Order

กองทุนภายในบลจ.ไทยพาณิยช์สามารถใช้โปรแกรม Planning Order ได้ทุกกอง ทั้งกองทุนที่ลงทุนในตราสาหนี้และตราสารทุน แต่วันนี้ทางทีมงานผู้จัดการกองทุนรวม ขอหยิบรายชื่อกองทุนที่ลงทุนในตราสารทุนมาแนะนำ ดังนี้ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ (SCBRM4) กองทุนเปิดไทยพาณิชย์เฟล็กซิเบิ้ล ฟันด์เพื่อการเลี้ยงชีพ (SCBRM3) ทางด้านกองทุนLTF ได้แก่ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นระยะยาวปันผล 70/30 (SCBLT1) กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นระยะยาว พลัส (SCBLT2) กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นระยะยาว เอ็มเอไอ (SCBLT3) กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นระยะยาวอินเตอร์ (SCBLT4) กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นระยะยาวสมาร์ท (SCBLTS) และกองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นระยะยาวทาร์เก็ต (SCBLTT)

สำหรับกองทุนตราทุนทั่วไปได้แก่ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์เซ็ท อินเด็กซ์ ฟันด์ (SCBSET) กองทุนเปิดไทยพาณิชย์มั่นคง (SCBMF) กองทุนเปิดไทยพาณิชย์มั่นคง 2 (SCBMF2) กองทุนเปิดไทยพาณิชย์มั่นคง 3 (SCBMF3) กองทุนเปิดไทยพาณิชย์มั่นคง 4 (SCBMF4) กองทุนเปิด ไทยพาณิชย์มั่นคง 5 (SCBMF5) กองทุนเปิดไทยพาณิชย์เพิ่มผลมั่นคง (SCBPMO) กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ทวีทรัพย์ (SCBTS) กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ทวีทรัพย์ 2 (SCBTS2) กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ทวีทรัพย์ 3 (SCBTS3) กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ธนอนันต์ (SCBDA) และกองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นทุนปันผล (SCBDV)

ขั้นตอนและเงื่อนไขการสมัคร

เงื่อนไขในการสมัครใช้โปรแกรม Planning Order นั้น สามารถทำได้โดยเปิดบัญชีกองทุนขั้นต่ำของกองทุน LTFเเละRMF อยู่ที่ 5,000 บาท โดยสามารถหักบัญชีเงินฝากตั้งแต่1,000 บาทขึ้นไป ส่วนกองทุนอื่นๆนั้นการเปิดบัญบีกองทุนครั้งแรกขึ้นอยู่กับจำนวนเงินลงทุนที่ระบุไว้ในหนังสือชี้ชวน และสามารถหักบัญชีเงินฝากตั้งแต่1,000 บาทขึ้นไปเช่นกัน ทั้งนี้การหักบัญชีเงินฝากนั้น ต้องเป็นบัญชีเงินฝาก ออมทรัพย์ ของธนาคารไทยพาณิชย์เท่านั้น แต่การตัดเงินจากบัญชีนี้

ลูกค้าจะไม่เสียค่าธรรมเนียมใดๆทั้งสิ้น

นอกจากนี้ พัชรินทร์ ทิ้งท้ายว่า เราได้คุยกับธนาคารว่า ผู้ที่มีบัญชีธนาคารและผู้ที่มีบัญชีกองทุน กว่า 300,000 ราย นั้นสามารถทำโปรแกรม Planning Order ได้หมด เพียงแค่พนักงานขายเสนอไปว่า ลูกค้าพร้อมหรือไม่ที่ทุกเดือนจะเอาเงินมาแพลนใส่กองทุน LTFเเละRMF ซึ่งจะเป็นประโยชน์ให้กับลูกค้า ขณะเดียวกันโปรแกรม Planning Order เป็นการส่งเสริมทางการตลาดให้กับ บลจ. เช่นกัน นอกจากนี้ ลูกค้าไทยพาณิชย์ยังสามารถใช้บัตรเครดิตไทยพาณิชย์ ซื้อหน่วยลงทุนได้อีกด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น