เปิดผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือน กองทุนภายใต้การบริหาร “บลจ.ไทยพาณิชย์” กองตราสารหนี้ทุกกองยิลด์ชนะเกณฑ์มมาตรฐาน สวนทางกองทุนหุ้นที่ผลตอบแทนร่วงตามภาวะตลาดหุ้นที่ดิ่งลงอย่างต่อเนื่อง ขั้นต่ำ – 11.53% เช่นเดียวกับกองผสม
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.)ไทยพาณิชย์ จำกัด รายงานถึงผลตอบแทนกองทุนรวมภายใต้การบริหารจัดการ ประจำวันที่ 15 ก.ค. ว่า ผลดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือนของกองทุนตราสารแห่งหนี้ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์สะสมทรัพย์ตราสารหนี้ (SCBSFF) มีผลตอบแทนสูงสุด 2.32% ขณะที่กองทุนเปิดไทยพาณิชย์เกษียณสุข (SCBRF) มีผลตอบแทน 1.79%
ด้านกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ ประเภทลงทุนในตราสารแห่งนี้ของบริษัท พบว่า กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ตราสารหนี้ระยะสั้นเพี่อการเลี้ยงชีพ (SCBRM1) มีผลตอบแทนย้อนหลัง 3เดือนสูงสุด 1.21% ขณะที่กองทุนเปิดไทยพาณิชย์พันธบัตรรัฐบาลเพื่อการเลี้ยงชีพ (SCBRM ) มีผลตอบแทน -0.23% โดยทั้งหมดให้ผลตอบแทนย้อนหลังสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานตราสารหนี้ที่มี -9.79% และมีผลดำเนินงานโดยรวมกองทุนตราสารหนี้ของบริษัทอยู่ที่ 2.21%
สำหรับกองทุนตราสารแห่งทุนนั้น ทุกกองทุนของบริษัทมีผลดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือนติดลบ ซึ่งเป็นไปตามภาวะการณ์ปรับตัวลดลงของดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย ที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ ทำให้ผลดำเนินงานรวมของกองทุนตราสารแห่งทุน 3 เดือนย้อนหลังของบริษัทอยู่ที่ -16.80%
โดยกองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นทุนปันผล (SCBDV) มีผลตอบแทนย้อนหลังสูงสุดที่ – 11.53% ถัดมาได้แก่ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ธนอนันต์ (SCBDA) -15.89% ,กองทุนเปิดไทยมั่นคง (SCBMF) ให้ผลตอบแทน -16.22% ,กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ทวีทรัพย์ (SCBTS) -16.44%
ขณะที่ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์มั่นคง 4 (SCBMF4) ให้ผลตอบแทน -16.59% ,กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ทวีทรัพย์ 2 (SCBTS2) มีผลตอบแทน -16.61%, กองทุนเปิดไทยพาณิชย์มั่นคง 2 (SCBMF2) ผลตอบแทน -16.63% ,กองทุนเปิดไทยพาณิชย์มั่นคง5 (SCBMF 5)ผลตอบแทน -16.66%
นอกจากนี้ พบว่า มี 3 กองทุนให้ผลตอบแทนเท่ากัน ได้แก่ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์เซ็ท อินเด็กซ์ ฟันด์ (SCBSET) ให้ผลตอบแทน -16.83% เช่นเดียวกับกองทุนเปิดไทยพาณิชย์มั่นคง 3 (SCBMF3) และกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ทวีทรัพย์ 3 (SCBTS 3) ส่วนกองทุนที่มีผลตอบแทนย้อนหลังต่ำสุด คือ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์เพิ่มผลมั่นคง (SCBPMO) มีผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือน – 22.49% จากเกณฑ์มาตรฐานกองทุนที่ -15.26%
ทั้งนี้ ภายในรายงานผลตอบแทนย้อนหลังของบลจ.ไทยพาณิชย์ ระบุว่า สำหรับกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (แอลทีเอฟ) ซึ่งมีผลดำเนินงานรวม และเกณฑ์มาตรฐานเดียวกันกับกองทุนตราสารแห่งทุนนั้น พบว่า กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นสะสมระยะยาวสมาร์ท (SCBLTS) ให้ผลตอบแทนสูงสุด -6.64% อันดับ 2 ได้แก่ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ หุ้นระยะยาวปันผล 70/30 (SCBLT1) -13.87% ,อันดับ3. กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นระยะยาวอินเตอร์(SCBLT4) -21.73% อันดับ4.กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ หุ้นระยะยาวทาร์เก็ต(SCBTT) -22.43% และอันดับสุดท้าย กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นระยะยาว (SCBLT3) ให้ผลตอบแทนต่ำสุดที่ -23.12%
ส่วนกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ ที่มีนโยบายลงทุนในตราสารแห่งทุน นั่นคือ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ (SCBRM4) ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือน -14.33%
ขณะเดียวกัน กองทุนผสมแบบยืดหยุ่นของบริษัท ก็ให้ผลตอบแทนติดลบและลดลงมากกว่าเกณฑ์มาตรฐาน โดยกองทุนเปิดปฐมไทยพาณิชย์ มีผลตอบแทนย้องหลัง -10.25% ขณะที่กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ปฐมก้าวหน้า (SCBPG) ให้ผลตอบแทน -10.87% อีกทั้งกองทุนเปิดไทยพาณิชย์เฟล็กซ์ซิเบิ้ล ฟันด์เพื่อการเลี้ยงชีพ ซึ่งเป็นกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ ที่ลงทุนแบบยืดหยุ่นให้ผลตอบแทน -10.04% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐาน -9.60% และทำให้กองทุนประเภทนี้มีผลดำเนินงานรวมอยู่ที่ -9.60%
สำหรับกองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศ พบว่า กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ แพลทตินัม โกลบอล ฟันด์ (SCBPGF) ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือน 8.20% ส่วนกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ แพลทตินัม ยูโร ฟันด์ ให้ผลตอบแทน -9.18%
อนึ่ง รายงานส่วนแบ่งการตลาด (มาร์เกตแชร์) ล่าสุด ณ วันที่ 27 มิถุนายน 2551 พบว่า บลจ.ไทยพาณิชย์ ยังครองมาร์เกตแชร์เป็นอันดับ 1 ด้วยสินทรัพย์รวมทั้งสิ้น 281,717.76 ล้านบาท ซึ่งลดลงพอสมควรจากสินทรัพย์รวมประมาณ 301,494.43 ล้านบาทในช่วงปลายปีที่แล้ว หรือคิดเป็นเงินลงทุนที่ลดลงประมาณ 19,776.67 ล้านบาท และบลจ.กสิกรไทย ที่มีมาร์เกตแชร์เป็นอันดับ 2 มีสินทรัพย์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดย 6 เดือนแรกมีเงินลงทุนในกองทุนรวมอยู่ที่ 253,502.86 ล้านบาท เพิ่มขึ้นประมาณ 21,623.73 ล้านบาท จากสินทรัพย์รวม 231,879.13 ล้านบาทในเดือนธันวาคมปีที่แล้ว
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.)ไทยพาณิชย์ จำกัด รายงานถึงผลตอบแทนกองทุนรวมภายใต้การบริหารจัดการ ประจำวันที่ 15 ก.ค. ว่า ผลดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือนของกองทุนตราสารแห่งหนี้ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์สะสมทรัพย์ตราสารหนี้ (SCBSFF) มีผลตอบแทนสูงสุด 2.32% ขณะที่กองทุนเปิดไทยพาณิชย์เกษียณสุข (SCBRF) มีผลตอบแทน 1.79%
ด้านกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ ประเภทลงทุนในตราสารแห่งนี้ของบริษัท พบว่า กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ตราสารหนี้ระยะสั้นเพี่อการเลี้ยงชีพ (SCBRM1) มีผลตอบแทนย้อนหลัง 3เดือนสูงสุด 1.21% ขณะที่กองทุนเปิดไทยพาณิชย์พันธบัตรรัฐบาลเพื่อการเลี้ยงชีพ (SCBRM ) มีผลตอบแทน -0.23% โดยทั้งหมดให้ผลตอบแทนย้อนหลังสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานตราสารหนี้ที่มี -9.79% และมีผลดำเนินงานโดยรวมกองทุนตราสารหนี้ของบริษัทอยู่ที่ 2.21%
สำหรับกองทุนตราสารแห่งทุนนั้น ทุกกองทุนของบริษัทมีผลดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือนติดลบ ซึ่งเป็นไปตามภาวะการณ์ปรับตัวลดลงของดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย ที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ ทำให้ผลดำเนินงานรวมของกองทุนตราสารแห่งทุน 3 เดือนย้อนหลังของบริษัทอยู่ที่ -16.80%
โดยกองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นทุนปันผล (SCBDV) มีผลตอบแทนย้อนหลังสูงสุดที่ – 11.53% ถัดมาได้แก่ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ธนอนันต์ (SCBDA) -15.89% ,กองทุนเปิดไทยมั่นคง (SCBMF) ให้ผลตอบแทน -16.22% ,กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ทวีทรัพย์ (SCBTS) -16.44%
ขณะที่ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์มั่นคง 4 (SCBMF4) ให้ผลตอบแทน -16.59% ,กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ทวีทรัพย์ 2 (SCBTS2) มีผลตอบแทน -16.61%, กองทุนเปิดไทยพาณิชย์มั่นคง 2 (SCBMF2) ผลตอบแทน -16.63% ,กองทุนเปิดไทยพาณิชย์มั่นคง5 (SCBMF 5)ผลตอบแทน -16.66%
นอกจากนี้ พบว่า มี 3 กองทุนให้ผลตอบแทนเท่ากัน ได้แก่ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์เซ็ท อินเด็กซ์ ฟันด์ (SCBSET) ให้ผลตอบแทน -16.83% เช่นเดียวกับกองทุนเปิดไทยพาณิชย์มั่นคง 3 (SCBMF3) และกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ทวีทรัพย์ 3 (SCBTS 3) ส่วนกองทุนที่มีผลตอบแทนย้อนหลังต่ำสุด คือ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์เพิ่มผลมั่นคง (SCBPMO) มีผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือน – 22.49% จากเกณฑ์มาตรฐานกองทุนที่ -15.26%
ทั้งนี้ ภายในรายงานผลตอบแทนย้อนหลังของบลจ.ไทยพาณิชย์ ระบุว่า สำหรับกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (แอลทีเอฟ) ซึ่งมีผลดำเนินงานรวม และเกณฑ์มาตรฐานเดียวกันกับกองทุนตราสารแห่งทุนนั้น พบว่า กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นสะสมระยะยาวสมาร์ท (SCBLTS) ให้ผลตอบแทนสูงสุด -6.64% อันดับ 2 ได้แก่ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ หุ้นระยะยาวปันผล 70/30 (SCBLT1) -13.87% ,อันดับ3. กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นระยะยาวอินเตอร์(SCBLT4) -21.73% อันดับ4.กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ หุ้นระยะยาวทาร์เก็ต(SCBTT) -22.43% และอันดับสุดท้าย กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นระยะยาว (SCBLT3) ให้ผลตอบแทนต่ำสุดที่ -23.12%
ส่วนกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ ที่มีนโยบายลงทุนในตราสารแห่งทุน นั่นคือ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ (SCBRM4) ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือน -14.33%
ขณะเดียวกัน กองทุนผสมแบบยืดหยุ่นของบริษัท ก็ให้ผลตอบแทนติดลบและลดลงมากกว่าเกณฑ์มาตรฐาน โดยกองทุนเปิดปฐมไทยพาณิชย์ มีผลตอบแทนย้องหลัง -10.25% ขณะที่กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ปฐมก้าวหน้า (SCBPG) ให้ผลตอบแทน -10.87% อีกทั้งกองทุนเปิดไทยพาณิชย์เฟล็กซ์ซิเบิ้ล ฟันด์เพื่อการเลี้ยงชีพ ซึ่งเป็นกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ ที่ลงทุนแบบยืดหยุ่นให้ผลตอบแทน -10.04% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐาน -9.60% และทำให้กองทุนประเภทนี้มีผลดำเนินงานรวมอยู่ที่ -9.60%
สำหรับกองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศ พบว่า กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ แพลทตินัม โกลบอล ฟันด์ (SCBPGF) ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือน 8.20% ส่วนกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ แพลทตินัม ยูโร ฟันด์ ให้ผลตอบแทน -9.18%
อนึ่ง รายงานส่วนแบ่งการตลาด (มาร์เกตแชร์) ล่าสุด ณ วันที่ 27 มิถุนายน 2551 พบว่า บลจ.ไทยพาณิชย์ ยังครองมาร์เกตแชร์เป็นอันดับ 1 ด้วยสินทรัพย์รวมทั้งสิ้น 281,717.76 ล้านบาท ซึ่งลดลงพอสมควรจากสินทรัพย์รวมประมาณ 301,494.43 ล้านบาทในช่วงปลายปีที่แล้ว หรือคิดเป็นเงินลงทุนที่ลดลงประมาณ 19,776.67 ล้านบาท และบลจ.กสิกรไทย ที่มีมาร์เกตแชร์เป็นอันดับ 2 มีสินทรัพย์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดย 6 เดือนแรกมีเงินลงทุนในกองทุนรวมอยู่ที่ 253,502.86 ล้านบาท เพิ่มขึ้นประมาณ 21,623.73 ล้านบาท จากสินทรัพย์รวม 231,879.13 ล้านบาทในเดือนธันวาคมปีที่แล้ว
