บลจ. ทิสโก้ เผย “กองทุนเปิด ทิสโก้ ไชน่า ลิ้งค์ ฟันด์ 3” กองสตรัคเจอร์โน้ตอิงดัชนีหุ้นจีน HSCEI กระแสตอบรับดีตามคาด ลูกค้าทยอยซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ด้านผู้จัดการกองทุนเชื่อมั่น ตลาดหุ้นจีนลงแรงและมี Upside สูง เสนอเป็นทางเลือกเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนชนะเงินเฟ้อได้ ผู้สนใจยังซื้อได้ในช่วงไอพีโอโค้งสุดท้ายถึง 31 ก.ค. นี้
นายธีรนาถ รุจิเมธาภาส รองกรรมการผู้จัดการ ธุรกิจกองทุนรวมและกองทุนส่วนบุคคล บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากเปิดตัว “กองทุนเปิด ทิสโก้ ไชน่า ลิ้งค์ ฟันด์ 3” กองทุนสตรัคเจอร์โน้ตซีรียส์ต่อเนื่องกองที่ 3 ตั้งแต่วันที่ 11 กรกฎาคมที่ผ่านมา พบว่ามีกระแสตอบรับที่ดี และมีคำสั่งซื้อเข้ามามากพอสมควร เนื่องจากลูกค้าส่วนใหญ่เคยลงทุนรวมถึงรู้จัก “กองทุนเปิด ทิสโก้ ไชน่า ลิ้งค์ คุ้มครองเงินต้น” และ “กองทุนเปิด ทิสโก้ ไชน่า ลิ้งค์ คุ้มครองเงินต้น 2” สองกองแรกของทิสโก้อยู่แล้ว ซึ่งที่ผ่านมากองทุนทั้งสองสามารถสร้างผลตอบแทนได้อย่างน่าพอใจ
“ในช่วงนี้ตลาดหุ้นจีนตกลงมาค่อนข้างมาก จากข้อมูลของ Bloomberg หากดูสถิติย้อนหลังของดัชนี HSCEI จะพบว่าให้ผลตอบแทนสูงถึง 93.99% ในปี 2549 และ 55.94% ในปี 2550 แต่สำหรับปี 2551 พบว่าดัชนี HSCEI ได้ลดลงมากว่า -23.68% (ข้อมูล ณ วันที่ 11 ก.ค. 51) ซึ่งการปรับตัวลดลงอย่างมากนี้ทำให้มี Upside สูง หากดัชนีหุ้นจีนดีดกลับขึ้นมาอีกครั้ง ผู้ลงทุนก็น่าจะได้รับผลตอบแทนที่ดี ประกอบกับคาดการณ์อัตราการเติบโตของ GDP ของประเทศจีนในปีนี้ที่คาดว่าสูงถึง 10.0% เราจึงเชื่อว่ากองทุนนี้จะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่สามารถเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนชนะเงินเฟ้อได้
ทั้งนี้ จุดเด่นของ กองทุนเปิด ทิสโก้ ไชน่า ลิ้งค์ ฟันด์ 3 คือลูกค้าไม่ต้องกังวลกับเงินต้น เนื่องจากเป็นกองทุนที่ลงทุนในตั๋วสัญญาใช้เงินธนาคารขนาดใหญ่ ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือ A- ขึ้นไป โดยตราสารที่เรานำเงินไปลงทุนนั้นมีการระบุไว้ว่าผู้ออกตราสารต้องชำระคืนเงินต้นเต็มจำนวนให้แก่กองทุนเมื่อครบอายุตราสาร และจ่ายผลตอบแทนลอยตัวอ้างอิงกับค่าเฉลี่ยของอัตราการเปลี่ยนแปลงของดัชนี HSCEI ณ วันทำการสุดท้ายของเดือนของแต่ละสัญญาเทียบกับวันที่เริ่มต้นกำหนดดัชนี คูณด้วยอัตราส่วนร่วม (Participation Rate) ที่กำหนดโดยคู่สัญญาหรือผู้ออกตราสาร
"การลงทุนในสตรัคเจอร์โน้ตที่อิงกับดัชนีหุ้น HSCEI มีข้อดีคือความเสี่ยงต่ำ เพราะตราสารที่กองทุนนำเงินไปลงทุนนั้นเป็นตั๋วสัญญาใช้เงินธนาคารขนาดใหญ่ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือ A- ขึ้นไป และมีการระบุไว้ว่าผู้ออกตราสารต้องชำระคืนเงินต้นเมื่อครบอายุตราสารเป็นสกุลเงินบาท ลูกค้าจึงไม่ต้องกังวลกับเงินต้น” นายธีรนาถ กล่าว
ก่อนหน้านี้ นายธีรนาถกล่าวว่า ประเทศจีนยังคงมีศักยภาพในการเติบโตที่ดี แม้ราคาหุ้นจะมีการปรับตัวลดลงมามากพอสมควร แต่ก็ถือว่ายังมีระดับ P/E ที่ต่ำมากคือ 11 เท่า เมื่อเทียบกับ 21 เท่าในอดีต ดังนั้นหากดัชนีหุ้นจีนดีดกลับขึ้นมาอีกครั้ง ผู้ลงทุนก็น่าจะได้รับผลตอบแทนที่ดี เนื่องจากเรามองว่าอัตราเงินเฟ้อที่ปัจจัยลบต่อการลงทุนน่าจะคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้นในช่วงปลายไตรมาส 3-4 นี้ ดังนั้น กองทุนเปิด ทิสโก้ ไชน่า ลิ้งค์ ฟันด์ 3 จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งเพื่อเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนชนะเงินเฟ้อได้
สำหรับกองทุนเปิด ทิสโก้ ไชน่า ลิ้งค์ ฟันด์ 3” เป็นกองทุนที่ลงทุนในตั๋วสัญญาใช้เงิน (สตรัคเจอร์โน้ต) ที่อิงผลตอบแทนตามการเพิ่มขึ้นของดัชนี Hang Seng China Enterprise (HSCEI) ซึ่งเป็นดัชนีของกลุ่มหลักทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่ของจีนที่มีมูลค่าตลาดสูงและจดทะเบียนในตลาดฮั่งเส็งประเทศฮ่องกง โดยนักลงทุนที่สนใจยังสามารถซื้อได้ในช่วงไอพีโอจนถึงวันที่ 31 ก.ค. 51 นี้ ลงทุนขั้นต่ำ 20,000 บาท ระยะเวลาลงทุน 2 ปี 15 วัน
นายธีรนาถ รุจิเมธาภาส รองกรรมการผู้จัดการ ธุรกิจกองทุนรวมและกองทุนส่วนบุคคล บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากเปิดตัว “กองทุนเปิด ทิสโก้ ไชน่า ลิ้งค์ ฟันด์ 3” กองทุนสตรัคเจอร์โน้ตซีรียส์ต่อเนื่องกองที่ 3 ตั้งแต่วันที่ 11 กรกฎาคมที่ผ่านมา พบว่ามีกระแสตอบรับที่ดี และมีคำสั่งซื้อเข้ามามากพอสมควร เนื่องจากลูกค้าส่วนใหญ่เคยลงทุนรวมถึงรู้จัก “กองทุนเปิด ทิสโก้ ไชน่า ลิ้งค์ คุ้มครองเงินต้น” และ “กองทุนเปิด ทิสโก้ ไชน่า ลิ้งค์ คุ้มครองเงินต้น 2” สองกองแรกของทิสโก้อยู่แล้ว ซึ่งที่ผ่านมากองทุนทั้งสองสามารถสร้างผลตอบแทนได้อย่างน่าพอใจ
“ในช่วงนี้ตลาดหุ้นจีนตกลงมาค่อนข้างมาก จากข้อมูลของ Bloomberg หากดูสถิติย้อนหลังของดัชนี HSCEI จะพบว่าให้ผลตอบแทนสูงถึง 93.99% ในปี 2549 และ 55.94% ในปี 2550 แต่สำหรับปี 2551 พบว่าดัชนี HSCEI ได้ลดลงมากว่า -23.68% (ข้อมูล ณ วันที่ 11 ก.ค. 51) ซึ่งการปรับตัวลดลงอย่างมากนี้ทำให้มี Upside สูง หากดัชนีหุ้นจีนดีดกลับขึ้นมาอีกครั้ง ผู้ลงทุนก็น่าจะได้รับผลตอบแทนที่ดี ประกอบกับคาดการณ์อัตราการเติบโตของ GDP ของประเทศจีนในปีนี้ที่คาดว่าสูงถึง 10.0% เราจึงเชื่อว่ากองทุนนี้จะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่สามารถเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนชนะเงินเฟ้อได้
ทั้งนี้ จุดเด่นของ กองทุนเปิด ทิสโก้ ไชน่า ลิ้งค์ ฟันด์ 3 คือลูกค้าไม่ต้องกังวลกับเงินต้น เนื่องจากเป็นกองทุนที่ลงทุนในตั๋วสัญญาใช้เงินธนาคารขนาดใหญ่ ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือ A- ขึ้นไป โดยตราสารที่เรานำเงินไปลงทุนนั้นมีการระบุไว้ว่าผู้ออกตราสารต้องชำระคืนเงินต้นเต็มจำนวนให้แก่กองทุนเมื่อครบอายุตราสาร และจ่ายผลตอบแทนลอยตัวอ้างอิงกับค่าเฉลี่ยของอัตราการเปลี่ยนแปลงของดัชนี HSCEI ณ วันทำการสุดท้ายของเดือนของแต่ละสัญญาเทียบกับวันที่เริ่มต้นกำหนดดัชนี คูณด้วยอัตราส่วนร่วม (Participation Rate) ที่กำหนดโดยคู่สัญญาหรือผู้ออกตราสาร
"การลงทุนในสตรัคเจอร์โน้ตที่อิงกับดัชนีหุ้น HSCEI มีข้อดีคือความเสี่ยงต่ำ เพราะตราสารที่กองทุนนำเงินไปลงทุนนั้นเป็นตั๋วสัญญาใช้เงินธนาคารขนาดใหญ่ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือ A- ขึ้นไป และมีการระบุไว้ว่าผู้ออกตราสารต้องชำระคืนเงินต้นเมื่อครบอายุตราสารเป็นสกุลเงินบาท ลูกค้าจึงไม่ต้องกังวลกับเงินต้น” นายธีรนาถ กล่าว
ก่อนหน้านี้ นายธีรนาถกล่าวว่า ประเทศจีนยังคงมีศักยภาพในการเติบโตที่ดี แม้ราคาหุ้นจะมีการปรับตัวลดลงมามากพอสมควร แต่ก็ถือว่ายังมีระดับ P/E ที่ต่ำมากคือ 11 เท่า เมื่อเทียบกับ 21 เท่าในอดีต ดังนั้นหากดัชนีหุ้นจีนดีดกลับขึ้นมาอีกครั้ง ผู้ลงทุนก็น่าจะได้รับผลตอบแทนที่ดี เนื่องจากเรามองว่าอัตราเงินเฟ้อที่ปัจจัยลบต่อการลงทุนน่าจะคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้นในช่วงปลายไตรมาส 3-4 นี้ ดังนั้น กองทุนเปิด ทิสโก้ ไชน่า ลิ้งค์ ฟันด์ 3 จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งเพื่อเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนชนะเงินเฟ้อได้
สำหรับกองทุนเปิด ทิสโก้ ไชน่า ลิ้งค์ ฟันด์ 3” เป็นกองทุนที่ลงทุนในตั๋วสัญญาใช้เงิน (สตรัคเจอร์โน้ต) ที่อิงผลตอบแทนตามการเพิ่มขึ้นของดัชนี Hang Seng China Enterprise (HSCEI) ซึ่งเป็นดัชนีของกลุ่มหลักทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่ของจีนที่มีมูลค่าตลาดสูงและจดทะเบียนในตลาดฮั่งเส็งประเทศฮ่องกง โดยนักลงทุนที่สนใจยังสามารถซื้อได้ในช่วงไอพีโอจนถึงวันที่ 31 ก.ค. 51 นี้ ลงทุนขั้นต่ำ 20,000 บาท ระยะเวลาลงทุน 2 ปี 15 วัน