"ทิสโก้"สบช่องยิลด์บอนด์ไทยพุ่งส่งกองพันธบัตรจับลูกค้าเสี่ยงต่ำ

บลจ.ทิสโก้ เข็นกองพันธบัตรในประเทศเอาใจลูกค้าชอบความเสี่ยงต่ำ ชูจุดเด่นจ่ายผลตอบแทนอย่างสม่ำเสมอทุก 6 เดือน ระหว่างวันนี้ถึง 11 ก.ค.51 พร้อมระบุผลตอบแทนพันธบัตรภายในประเทศเริ่มปรับตัวดีขึ้น ก่อนอัตราดอกเบี้ยจะดีดตัวตามคาดการณ์

นายธีรนาถ รุจิเมธาภาส รองกรรมการผู้จัดการ หัวหน้าธุรกิจกองทุนรวมและกองทุนส่วนบุคคล บริษัทจัดการกองทุน(บลจ.) ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า ทางบริษัทได้เตรียมที่จะเสนอขาย "กองทุนเปิด ทิสโก้ พันธบัตร" (TISCO Sovereign Bond Fund) ในระหว่างวันที่ 4-11 ก.ค.นี้ เพื่อตอบสนองความต้องการของนักลงทุนที่มองหาทางเลือกการลงทุนที่เปิดโอกาสรับผลตอบแทนมากกว่าการฝากเงินในธนาคารพาณิชย์

สำหรับกองทุนนี้มีมูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท และมีระยะเวลาการลงทุน 1 ปี 7 เดือน โดยจะเน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลไทยและตั๋วเงินคลัง นอกจากนี้กองทุนยังจะมีการจ่ายผลตอบแทนอย่างสม่ำเสมอทุกระยะเวลาประมาณ 6 เดือน

"ผลตอบแทนที่คาดไว้จะสูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝากประจำ และเป็นกองทุนที่เหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการโอกาสรับผลตอบแทนสูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝากประจำ และไม่ต้องการแบกรับความเสี่ยง เพราะกองนี้ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลไทยและตั๋วเงินคลังที่ความเสี่ยงต่ำมาก และที่สำคัญคือผลตอบแทนที่ได้ไม่ต้องเสียภาษีบุคคลธรรมดาอีกด้วย"นายธีรนาถกล่าว

ด้าน นางสาวธีรินทร์ สุวรรณเตมีย์ หัวหน้าการตลาดธุรกิจกองทุนรวมและกองทุนส่วนบุคคล บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) ทิสโก้ จำกัด กล่าวว่า กองทุนพันธบัตรรัฐบาลน่าจะเป็นอีกทางเลือกที่ดีสำหรับนักลงทุน โดยปัจจุบันผลตอบแทนของการลงทุนพันธบัตรภายในประเทศเริ่มปรับตัวเพิ่มขึ้นแล้ว หลังจากที่มีการคาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยจะปรับขึ้น เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในปัจจุบัน

“ยิลด์ของตลาดพันธบัตรในประเทศมันปรับตัวขึ้นมาได้ 2 สัปดาห์แล้ว และความจริงก่อนหน้านั้นมันก็ปรับขึ้น เพราะตลาดพันธบัตรมักจะปรับไปล่วงหน้า ตามที่คาดการณ์เสมอ ซึ่งส่วนใหญ่นักลงทุนจะเป็นสถาบัน และมันจะรีเฟล็กซ์ไปตามนั้น”นางสาวธีรินทร์กล่าว

ทั้งนี้ การลงทุนในพันธบัตรจะไม่ลงทุนในระยะเวลาหนึ่งปีตามอายุโครงการ แต่จะมีการปรับไปตามสถานการณ์ แล้วแต่ผู้จัดการกองทุนจะพิจารณาทำให้ หากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยอยู่ในช่วงขาขึ้น การลงทุนในกองทุนนี้จะไม่เสียโอกาสด้านผลตอบแทนที่อาจเพิ่มขึ้นจากอัตราดอกเบี้ย

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่ากองทุนนี้จะเหมาะสำหรับนักลงทุนรับความเสี่ยงได้ต่ำ แต่ผลตอบแทนที่ได้จะสูงกว่าเงินฝาก นอกจากนี้ยังทำการจ่ายผลตอบแทนทุก 6 เดือน ซึ่งเป็นผลดีต่อนักลงทุน ส่วนการที่ไม่ทำให้เป็นกองเปิด เนื่องจากเกรงว่าจะทำให้เกิดความผันผวน ด้านมูลค่าเอ็นเอวี และจะทำให้นักลงทุนบางท่านไม่เข้าใจในเรื่องนี้ได้

“กองทุนนี้เน้นให้ลูกค้าได้รับผลตอบแทนสม่ำเสมอทุก 6 เดือน ซึ่งที่ต้องให้เป็นกองปิดตามอายุโครงการเนื่องจาก ลูกค้าบางคนไม่เข้าใจเอ็นเอวี ในส่วนของมาร์กทูมาร์เก็ต ซึ่งกลัวว่าจะเป็นปัญหา ส่วนอายุของกองทุนจะไม่เกี่ยวกับพันธบัตรที่จะลง เพราะดูเรชั่นจะขึ้นอยู่กับผู้จัดการกองทุนจะตัดสินใจ”นางสาวธีรินทร์กล่าว

อนึ่ง ภาวะการซื้อขายในตลาดตราสารหนี้ไทย ณ วันที่ 2 กรกฏาคม การซื้อขายสูงสุดยังเป็นพันธบัตร ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) และนักลงทุนหลักของวันจะเป็น ดีลเลอร์ซื้อขายกับกลุ่มกองทุนรวม โดยเน้นซื้อขายพันธบัตร ธปท. อายุคงเหลือสั้นที่มีประมูลเป็นหลัก

โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวลดลงในบางช่วงอายุ แต่อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรอายุคงเหลือระยะยาวมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นบ้างเล็กน้อย