ผู้ถือหน่วย TFUND ลงมติเห็นด้วย 62.76% ไฟเขียวอนุมัติเปลี่ยนผู้จัดการกองทุนจากบลจ.ไอเอ็นจี เป็น บลจ.บัวหลวง พร้อมมีมติแก้ไขโครงการจัดการลงทุน ลดระยะเวลาบอกกล่าวเป็นลายลักษรณ์อักษรล่วงหน้าจาก 60 วัน เป็น 5 วันทำการ
นายมาริษ ท่าราบ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะบริษัทจัดการของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทคอน (TFUND) เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากการขอมติผู้ถือหน่วยลงทุนของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทคอน ครั้งที่ 2/2551 เพื่อพิจารณาการเปลี่ยนบริษัทจัดการและนายทะเบียน และการแก้ไขเพิ่มเติมโครงการจัดการลงทุนและพิจารณาแก้ไขโครงการจัดการลงทุนเรื่องเงื่อนไขการเปลี่ยนบริษัทจัดการ ซึ่งกำหนดให้ผู้ถือหน่วยลงมติกลับมาภายในวันที่ 13 มิถุนายน 2551 นั้น
ทั้งนี้ ปรากฎว่ามีผู้ถือหน่วยลงทุนได้ส่งหนังสือแสดงมติกลับมายังบริษัทจัดการ จำนวนทั้งสิ้น 303 ราย นับเป็นจำนวนหน่วยลงทุนได้ทั้งสิ้น 395,450,365 หน่วย คิดเป็นร้อยละ 69.99 ของจำนวนหน่วยลงทุนที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของกองทุนรวม
โดยในวาระที่ 1 เรื่องการพิจารณาบริษัทจัดการจากบลจ.ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) เป็นบลจ.บัวหลวง และเปลี่ยนนายทะเบียนจากบลจ. ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) เป็นธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) รวมไปถึงการแก้ไขเพิ่มเติมโครงการจัดการลงทุนนั้น ผลปรากฎว่ามีผู้ถือหน่วยลงทุนมีมติเห็นชอบจำนวน 354,581,888 หน่วย คิดเป็นร้อยละ 62.76 ของจำนวนหน่วยลงทุนที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดจำนวน 565,000,000 หน่วย ขณะที่มีผู้ถือหน่วยลงทุนออกเสียงไม่อนุมัติและงดออกเสียงจำนวน 40,868,477 หน่วย คิดเป็นร้อยละ 7.23 ของจำนวนหน่วยลงทุนที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด
สำหรับวาระที่ 2 เรื่องการพิจารณาแก้ไขโครงการจัดการลงทุนเรื่องเงื่อนไขการเปลี่ยนบริษัทจัดการ จากกำหนดเดิมที่ให้ต้องบอกกล่าวล่วงหน้าเป็นลายลักษณ์อักษรให้บริษัทจัดการทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 60 วัน เป็นต้องบอกกล่าวล่วงหน้าเป็นลายลักษณ์อักษรให้บริษัทจัดการทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 5 วันทำการ ผลการลงมติปรากฎว่ามีผู้ถือหน่วยลงทุนของกองทุนรวมพิจารณาเห็นชอบอนุมัติให้แก้ไขโครงการจัดการลงทุนเรื่องเงื่อนไขการเปลี่ยนบริษัทจัดการ เรื่องการลดระยะเวลาบอกกล่าวล่วงหน้าแก่บริษัทจัดการ จำนวน 354,698,088 หน่วย คิดเป็นร้อยละ 62.78 ของจำนวนหน่วยลงทุนที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดซึ่งมีจำนวนทั้งสิ้น 565,000,000 หน่วย โดยมีผู้ถือหน่วยลงทุนออกเสียงไม่อนุมัติและงดออกเสียงจำนวน 40,752,277 หน่วย คิดเป็นร้อยละ 7.21 ของจำนวนหน่วยลงทุนที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด
รายงานข่าวระบุว่าหนังสือชี้ชวนของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทคอนได้กำหนดไว้แล้วว่าภายในระยะเวลา 5 ปี ถ้ามีเหตุให้ต้องมีการเปลี่ยนแปลงบริษัทจัดการโดยที่บริษัทจัดการเดิมไม่ได้ทำความเสียหาย กองทุนจะต้องจ่ายเงินค่าบริหารจัดการเต็มจำนวนระยะเวลา 5 ปี ซึ่งในส่วนของบลจ.ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) ได้บริหารจัดการ TFUND มาเป็นระยะเวลาประมาณ 3 ปี คงเหลือระยะเวลาตามกำหนดอีกประมาณ 2 ปีที่กองทุนจะต้องจ่ายเงินค่าบริหารจัดการให้แก่บลจ.คิดเป็นวงเงินประมาณ 16 ล้านบาท
ก่อนหน้านี้นางวรวรรณ ธาราภูมิ กรรมการผู้จัดการ บลจ.บัวหลวง กล่าวยืนยันว่า ในส่วนของค่าปรับที่ทางบลจ.ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จะต้องได้รับในกรณีที่กองทุนจะทำการเปลี่ยนแปลงบริษัทจัดการก่อนกำหนดนั้น บริษัทจะจ่ายเงินให้แทนกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทคอน และขอยืนยันว่าผู้ถือหน่วยจะไม่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงผู้จัดการกองทุนแต่อย่างใด
“สำหรับกรณีนี้ บลจ.บัวหลวง ขอยืนยันว่า บริษัทฯ จะจ่ายเงินค่าปรับเรื่องการเปลี่ยนแปลงบริษัทจัดการกองทุนแทน TFUND ตามเงื่อนไขการเปลี่ยนแปลงบริษัทจัดการที่ระบุไว้ในโครงการ และขอให้คำมั่นว่าผู้ถือหน่วยลงทุน TFUND จะไม่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงผู้จัดการกองทุนแต่อย่างใด โดยเฉพาะเรื่องเงินค่าปรับที่ บลจ.บัวหลวง ยินดีจ่ายเงินแทนให้” นางวรวรรณ กล่าว
นายมาริษ ท่าราบ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะบริษัทจัดการของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทคอน (TFUND) เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากการขอมติผู้ถือหน่วยลงทุนของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทคอน ครั้งที่ 2/2551 เพื่อพิจารณาการเปลี่ยนบริษัทจัดการและนายทะเบียน และการแก้ไขเพิ่มเติมโครงการจัดการลงทุนและพิจารณาแก้ไขโครงการจัดการลงทุนเรื่องเงื่อนไขการเปลี่ยนบริษัทจัดการ ซึ่งกำหนดให้ผู้ถือหน่วยลงมติกลับมาภายในวันที่ 13 มิถุนายน 2551 นั้น
ทั้งนี้ ปรากฎว่ามีผู้ถือหน่วยลงทุนได้ส่งหนังสือแสดงมติกลับมายังบริษัทจัดการ จำนวนทั้งสิ้น 303 ราย นับเป็นจำนวนหน่วยลงทุนได้ทั้งสิ้น 395,450,365 หน่วย คิดเป็นร้อยละ 69.99 ของจำนวนหน่วยลงทุนที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของกองทุนรวม
โดยในวาระที่ 1 เรื่องการพิจารณาบริษัทจัดการจากบลจ.ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) เป็นบลจ.บัวหลวง และเปลี่ยนนายทะเบียนจากบลจ. ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) เป็นธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) รวมไปถึงการแก้ไขเพิ่มเติมโครงการจัดการลงทุนนั้น ผลปรากฎว่ามีผู้ถือหน่วยลงทุนมีมติเห็นชอบจำนวน 354,581,888 หน่วย คิดเป็นร้อยละ 62.76 ของจำนวนหน่วยลงทุนที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดจำนวน 565,000,000 หน่วย ขณะที่มีผู้ถือหน่วยลงทุนออกเสียงไม่อนุมัติและงดออกเสียงจำนวน 40,868,477 หน่วย คิดเป็นร้อยละ 7.23 ของจำนวนหน่วยลงทุนที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด
สำหรับวาระที่ 2 เรื่องการพิจารณาแก้ไขโครงการจัดการลงทุนเรื่องเงื่อนไขการเปลี่ยนบริษัทจัดการ จากกำหนดเดิมที่ให้ต้องบอกกล่าวล่วงหน้าเป็นลายลักษณ์อักษรให้บริษัทจัดการทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 60 วัน เป็นต้องบอกกล่าวล่วงหน้าเป็นลายลักษณ์อักษรให้บริษัทจัดการทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 5 วันทำการ ผลการลงมติปรากฎว่ามีผู้ถือหน่วยลงทุนของกองทุนรวมพิจารณาเห็นชอบอนุมัติให้แก้ไขโครงการจัดการลงทุนเรื่องเงื่อนไขการเปลี่ยนบริษัทจัดการ เรื่องการลดระยะเวลาบอกกล่าวล่วงหน้าแก่บริษัทจัดการ จำนวน 354,698,088 หน่วย คิดเป็นร้อยละ 62.78 ของจำนวนหน่วยลงทุนที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดซึ่งมีจำนวนทั้งสิ้น 565,000,000 หน่วย โดยมีผู้ถือหน่วยลงทุนออกเสียงไม่อนุมัติและงดออกเสียงจำนวน 40,752,277 หน่วย คิดเป็นร้อยละ 7.21 ของจำนวนหน่วยลงทุนที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด
รายงานข่าวระบุว่าหนังสือชี้ชวนของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทคอนได้กำหนดไว้แล้วว่าภายในระยะเวลา 5 ปี ถ้ามีเหตุให้ต้องมีการเปลี่ยนแปลงบริษัทจัดการโดยที่บริษัทจัดการเดิมไม่ได้ทำความเสียหาย กองทุนจะต้องจ่ายเงินค่าบริหารจัดการเต็มจำนวนระยะเวลา 5 ปี ซึ่งในส่วนของบลจ.ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) ได้บริหารจัดการ TFUND มาเป็นระยะเวลาประมาณ 3 ปี คงเหลือระยะเวลาตามกำหนดอีกประมาณ 2 ปีที่กองทุนจะต้องจ่ายเงินค่าบริหารจัดการให้แก่บลจ.คิดเป็นวงเงินประมาณ 16 ล้านบาท
ก่อนหน้านี้นางวรวรรณ ธาราภูมิ กรรมการผู้จัดการ บลจ.บัวหลวง กล่าวยืนยันว่า ในส่วนของค่าปรับที่ทางบลจ.ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จะต้องได้รับในกรณีที่กองทุนจะทำการเปลี่ยนแปลงบริษัทจัดการก่อนกำหนดนั้น บริษัทจะจ่ายเงินให้แทนกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทคอน และขอยืนยันว่าผู้ถือหน่วยจะไม่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงผู้จัดการกองทุนแต่อย่างใด
“สำหรับกรณีนี้ บลจ.บัวหลวง ขอยืนยันว่า บริษัทฯ จะจ่ายเงินค่าปรับเรื่องการเปลี่ยนแปลงบริษัทจัดการกองทุนแทน TFUND ตามเงื่อนไขการเปลี่ยนแปลงบริษัทจัดการที่ระบุไว้ในโครงการ และขอให้คำมั่นว่าผู้ถือหน่วยลงทุน TFUND จะไม่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงผู้จัดการกองทุนแต่อย่างใด โดยเฉพาะเรื่องเงินค่าปรับที่ บลจ.บัวหลวง ยินดีจ่ายเงินแทนให้” นางวรวรรณ กล่าว