เหตุผลหนึ่งที่ทำให้การลงทุนผ่านกองทุนรวมในช่วงหลายปีที่ผ่านมาไม่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนมากนัก เพราะหลายคนมองว่าเป็นการลงทุนที่ยุ่งยาก "ซื้อไม่ง่าย ขายไม่คล่อง" จะทำธุรกรรมแต่ละครั้งต้องไปที่สาขาหรือตัวแทนจำหน่ายของแต่ละบริษัท ไม่เหมือนกับการฝากเงินกับธนาคารที่สามารถถอนเงินจากตู้ ATM ได้ตลอดเวลา 24 ชม. แต่ปัจจุบันบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) หลายแห่งได้ตระหนักถึงข้อด้อยดังกล่าวและพยายามหาวิธีที่จะเพิ่มความสะดวกกับลูกค้า
โดยหนึ่งในวิธีที่ถูกหยิบยกมาช่วยแก้ปัญหาดังกล่าวคือ การเปิดให้ทำธุรกรรมผ่าน ATM ซึ่งช่วยในการเพิ่มความสะดวกไม่ว่าลูกค้าจะอยู่ที่มุมใดของเมือง วันนี้ "ผู้จัดการรายวัน" จึงขอรวบรวมแนวทางการบริการดีๆ ของ 3 บลจ.ยักษ์ใหญ่มาตีแผ่กัน
เริ่มต้นกันที่ บลจ.ทหารไทย ซึ่งได้เปิดให้บริการ FUNDLINK ATMเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ถือหน่วยลงทุน โดยลูกค้าของบลจ.จะได้รับบัตรกองทุนและรหัสเฉพาะ 4 หลัก ซึ่งสามารถใช้สั่งซื้อขายหรือสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนผ่านตู้ ATM ของธนาคารทหารไทยเหมือนไปทำรายการด้วยตัวเองที่ธนาคารหรือตัวแทนทุกแห่งโดยไม่ต้องยื่นคำขอใช้บริการใดๆ เพิ่มเติม
นอกจากนี้ บลจ.ทหารไทยยังได้เปิดให้บริการใหม่ คือ บัตร TMBAM Extra Cash ซึ่งทำขึ้นเพื่อใช้สำหรับผู้ถือหน่วยกองทุนเปิดทหารไทยธนบดีโดยเฉพาะ เนื่องจากบัตรดังกล่าวมีคุณสมบัติในการสอบถามยอด เปลี่ยนรหัสประจำตัว และเบิกถอนเงินสดได้ทันทีจากตู้ ATM ของธนาคารพาณิชย์ทุกแห่งทั่วประเทศ แต่ไม่ต้องสั่งขายกองทุนล่วงหน้า 1 วันเหมือนที่ผ่านมา ซึ่งนับเป็น บลจ. รายแรกและรายเดียวที่นำเสนอนวัตกรรมการให้บริการรูปแบบดังกล่าว ซึ่งเป็นการผสานธุรกิจจัดการลงทุนเข้ากับการให้บริการแบบธนาคารพาณิชย์ ภายใต้การสนับสนุนด้านระบบจากธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน)
ทั้งนี้บัตร TMBAM Extra Cash สามารถถอนได้ตามวงเงินลงทุนที่มีอยู่ อาทิ วงเงินลงทุนต่ำกว่า 3 ล้านบาท จะเบิกถอนได้ไม่เกิน 10,000 บาทต่อวัน วงเงินลงทุนไม่เกิน 10 ล้านบาท ถอนได้ 20,000 บาทต่อวัน วงเงินลงทุนไม่เกิน 40 ล้านบาท ถอนได้ 30,000 บาทต่อวัน และวงเงินลงทุนมากกว่า 40 ล้านบาทขึ้นไป ถอนได้ 40,000 บาทต่อวัน ส่วนลูกค้าที่มีเงินอยู่ในกองทุนเปิดทหารไทยธนบดีไม่ถึง 12,500 บาท สามารถถอนได้ประมาณ 80% ของมูลค่าเงินลงทุนที่เหลือ โดยลูกค้าไม่ต้องเสียค่าบริการใดๆทั้งสิ้นทั้งการสมัครเพื่อขอใช้บริการบัตร ตลอดจนค่าธรรมเนียมในการถอนเงิน
ณฤดี จันทร์แจ่มจรัส ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายพัฒนาและวางแผนกลยุทธ์ บลจ.ทหารไทย กล่าวอย่างภาคภูมิใจถึงความสำเร็จของการให้บริการซื้อขายและสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนผ่านระบบ ATM ว่าในช่วงแรกของการให้บริการลูกค้ายังไม่ได้ให้ความสนใจมากนัก แต่นับตั้งแต่ปี 2550 เป็นต้นมาที่บริษัทได้เปิดให้บริการ TMBAM Extea Cash ซึ่งเป็นบัตรที่เพิ่มความสะดวกในการลูกค้าของกองทุนเปิดทหารไทยธนบดี ทำให้สภาพคล่องของกองทุนมีความคล้ายคลึงกับการฝากเงินเป็นอย่างมาก จึงทำให้มีลูกค้าที่เลือกทำธุรกรรมผ่านระบบ ATM เพิ่มมากขึ้น
"ยอดการใช้บริการผ่าน ATM และ TMBAM Extra Cash ในไตรมาส 1 ปี 2551 มีจำนวนถึง 7.36% ของจำนวน Transactions ทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากอย่างมากจากปี 2544 ที่มียอดการใช้บริการผ่าน ATM และ TMBAM Extra Cash เพียง1.12% ของจำนวน Transactions ทั้งหมด"
ด้าน บลจ.กสิกรไทย ได้เพิ่มช่องทางในการให้บริการแก่ผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีบัญชีเงินฝาก กับธนาคารกสิกรไทยและมีบัตร ATM ซึ่งผู้ลงทุนสามารถทำรายการที่เกี่ยวข้อง โดยมีขอบเขตการให้บริการในขณะนี้ประกอบไปด้วย การซื้อหน่วยลงทุนและขายหน่วยลงทุน แต่ในอนาคตจะมีการเพิ่มเติมในการให้บริการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุน , สอบถามมูลค่าหน่วยลงทุน และสอบถามยอดคงเหลือในบัญชี
อย่างไรก็ตามการให้บริการซื้อขายผ่าน ATM ของบลจ.กสิกรไทยในปัจจุบันยังคงจำกัดอยู่เฉพาะกองทุนที่บริษัทจัดการได้กำหนดไว้ ซึ่งประกอบไปด้วย กองทุนเปิดเค สตาร์หุ้นทุนคืนกำไร , เค หุ้นทุน , เค หุ้นทุนบริพัตร , เค SET 50 , รวงข้าว2 , รวงข้าว3 , รวงข้าวหุ้นทุน , รวงข้าวหุ้นทุนปันผล , รวงข้าวทวีผล , รวงข้าวทวีผล 2 , รวงข้าว4 และเค หุ้นปันผล สามารถซื้อหน่วยลงทุนได้ทุกวันทำการ ตั้งแต่ 8.30-15.30 น. และสามารถขายคืนได้ทุกวันทำการ ทุกกองทุน ยกเว้น KESET 50 ตั้งแต่ 8.30-15.30 น.
กองทุนเปิดรวงข้าวดุลทรัพย์ , รวงข้าวทุนวิภาค , รวงข้าวตราสารหนี้ , รวงข้าวบริหารเงิน , รวงข้าวตราสารหนี้ปันผล , รวงข้าวบริหารเงินปันผล , เค หุ้นกู้ และรวงข้าวตราสารมั่นคง สามารถซื้อและขายหน่วยลงทุนได้ทุกวันทำการ ตั้งแต่ 8.30-15.30 น. ขณะที่ เค พันธบัตรเพื่อการเลี้ยงชีพ , เค ตราสารหนี้เพื่อการเลี้ยงชีพ , เค บาลานซ์เพื่อการเลี้ยงชีพ , เค หุ้นทุนบริพัตรเพื่อการเลี้ยงชีพ , เค บริหารเงินเพื่อการเลี้ยงชีพ และ เค หุ้นทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ สามารถซื้อหน่วยลงทุนได้ทุกวันทำการ ตั้งแต่ 8.30-15.30 น. รวมทั้งสามารถสับเปลี่ยนได้ทุกวันทำการ ตั้งแต่ 8.30-15.30 น.
ขณะที่กองทุนเปิดเค หุ้นระยะยาว , เค หุ้นระยะยาวปันผล , เค หุ้นระยะยาว 70 : 30 ปันผล สามารถซื้อหน่วยลงทุนได้ทุกวันทำการ ตั้งแต่ 8.30-15.30 น. และสามารถสับเปลี่ยนได้ระหว่างวันที่ 16-30 เมษายน และ 16-31 ตุลาคมของทุกปีตั้งแต่ 8.30-15.30 น. ส่วนเค 20 ซีเล็คท์หุ้นระยะยาวปันผล และเค โกรท หุ้นระยะยาวปันผล สามารถซื้อหน่วยลงทุนได้ทุกวันทำการ ตั้งแต่ 8.30-15.30 น. และสามารถสับเปลี่ยนได้ระหว่างวันที่ 2-16 มกราคม และ 2-16 กรกฎาคมของทุกปีตั้งแต่ 8.30-15.30 น.
ขณะเดียวกันกองทุนเปิดเค ตราสารรัฐระยะสั้น , รวงข้าวตราสารรัฐระยะสั้น พลัส , เค ตลาดเงิน , เค ไลฟ์สไตล์ 2500 , เค ไลฟ์สไตล์ 2510 , เค ไลฟ์สไตล์ 2520 , เค ไลฟ์สไตล์ 2530 , เค โกลบอล อีเมอร์จิ้ง มาร์เก็ต บอนด์ และเค โกลบอล อิควิตี้ สามารถซื้อและขายหน่วยลงทุนได้ทุกวันทำการ ตั้งแต่ 8.30-15.30 น.
สุดท้ายบลจ.บัวหลวง เป็นอีกหนึ่งบลจ.ที่มีการเปิดให้บริการกทำธุรกรรมผ่าน ATM เช่นเดียวกัน โดยกองทุนที่เปิดให้บริการซื้อ ขาย สับเปลี่ยนหน่วยลงทุนประกอบไปด้วย กองทุนเปิดหุ้นทุน ได้แก่ กองทุนเปิดบัวแก้ว , บัวแก้ว 2 , บัวแก้วปันผล , ทรัพย์บัวหลวง , บัวหลวงทศพล , บัวหลวงโครงสร้างพื้นฐาน และบัวหลวงธนคม กำหนดมูลค่าซื้อครั้งแรกที่ 2,000 บาท และมูลค่าซื้อครั้งต่อไปที่ 1,000 บาท ไม่กำหนดมูลค่าการขายคืน ส่วนการสับเปลี่ยนหน่วยนั้น ผู้ลงทุนสามารถสับเปลี่ยนได้ ภายใต้เงื่อนไขว่าจะต้องมีสมุดแสดงสิทธิหน่วยลงทุนของกองทุนที่ต้องการสับเปลี่ยนก่อน นอกจากนี้แล้วกองทุนหุ้นจะสามารถสับเปลี่ยนไปได้เฉพาะกองทุนหุ้นด้วยกันเท่านั้น
ขณะที่กองทุนรวมผสม ได้แก่ กองทุนบีเฟล็กซ์ และบีแอ็คทีฟ กำหนดมูลค่าซื้อครั้งแรกที่ 10,000 บาท และมูลค่าซื้อครั้งต่อไปที่ 5,000 บาท ไม่กำหนดมูลค่าการขายคืน โดยกองทุนบีเฟล็กซ์สามารถสับเปลี่ยนไปได้ทุกกองยกเว้น การสับเปลี่ยนไปยังกองทุนเปิดบีแอ็คทีฟและธนทวี ด้านกองทุนเปิดบีแอ็คทีฟ สามารถสับเปลี่ยนไปได้ทุกกองยกเว้นกองทุนหุ้นระยะยาวและกองทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ สุดท้ายกองทุนเปิดบัวหลวงธนทวี กำหนดมูลค่าซื้อครั้งแรกที่ 10,000 บาท และมูลค่าซื้อครั้งต่อไปที่ 5,000 บาท ไม่กำหนดมูลค่าการขายคืน สามารถสับเปลี่ยนไปได้ทุกกองยกเว้นกองทุนหุ้นระยะยาวและกองทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ
นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่หยิบยกมานำเสนอเท่านั้น เพราะปัจจุบันหลายบลจ.ได้เปิดให้บริการในรูปแบบดังกล่าวแล้ว ใครอยากรู้ข้อมูลเพิ่มเติม แนะนำให้สอบถามไปที่บลจ.ที่ลงทุนได้เลย
