คอลัมน์คุยกับผู้จัดการกองทุน
ณัฐพัชร์ ลัคนาธรรมพิชิต
ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน บีที จำกัด
0-2686-9500
ขอเบรกเรื่องตราสารอนุพันธ์เพื่อรายงานการปรับพอร์ตโฟลิโอและผลตอบแทนที่ผ่านมาให้ท่านผู้อ่านที่ติดตามได้ทราบความเคลื่อนไหว หลังจากที่ราชสีห์ได้ออกจากถ้ำเมื่อวันที่ 11 เม.ย. 51 ด้วยการลงทุนในตราสารทุนในสัดส่วน 25% โดยมีเป้าหมายของดัชนี SET ที่ 900 จุด ภายใน 2 เดือน รวมทั้งการเพิ่มสัดส่วนเป็น 35% เมื่อวันที่ 25 เม.ย. 51 ด้วยการย้ำถึงเป้าหมายของดัชนี SET ที่ 900 จุดอีกครั้ง แม้ว่าล่าสุดวันพุธที่ 21 พ.ค. 51 ดัชนี SET ได้ปิดที่ 884.19 ซึ่งนับเป็นสถิติดัชนี SET ที่ปิดสูงสุดของปีนี้ จะยังไปไม่ถึงเป้าหมาย แต่ก็ห่างเพียง 16 จุดหรือประมาณ 2%
สถิติดัชนี SET ที่ปิดสูงสุดของปี 2550 คือ 915.03 เมื่อ 29 ต.ค. 50 โดยมีปริมาณการซื้อขายที่สูงถึง 33,294 ล้านบาท ในวันก่อนหน้าหรือ 28 ต.ค. 50 ล่าสุดเมื่อ วันพฤหัสบดีที่ 22 พ.ค. 51 มีปริมาณการซื้อขายสูงถึง 31,601 ล้านบาท แต่ดัชนี SET กลับปิดในวันรุ่งขึ้นหรือ 23 พ.ค. 51 เพียง 875.59 ซึ่งต่ำกว่าเมื่อวันพุธ โอกาสที่ดัชนี SET จะสามารถขึ้นไปทำลายสถิติสูงสุดทั้งของปีนี้และปีที่แล้วได้จะต้องมีปริมาณการซื้อขายที่สูงกว่าระดับ 33,000 ล้านบาท โดยมีความห่างของดัชนี SET อีกประมาณ 40 จุดหรือ 4.5%
เมื่อพิจารณาถึงความเสี่ยงที่มีอยู่และผลตอบแทนที่จะได้รับ รวมทั้งเป้าหมายของดัชนี SET และสัญญาณจากตัวชี้วัดทางด้านเทคนิค (Technical Indicators) จึงขอปรับพอร์ตโฟลิโอด้วยการขายทำกำไรตราสารทุนออกไปทั้งหมด (สัดส่วน 35%) ก่อน เสมือนราชสีห์ได้คำรามให้เหล่าสัตว์ต่างๆ ในป่าได้ยินถึงเสียงอันทรงพลังของเจ้าป่า
จากตารางเป็นข้อยืนยันได้ว่าที่ราชสีห์ได้ออกจากถ้ำมาถือว่าถูกจังหวะทีเดียว สำหรับผลตอบแทนในช่วงที่ 7 นี้ ตราสารทุนได้ผลตอบแทน 5.79% ส่วนตราสารหนี้และส่วนที่มีไว้เพื่อเป็นสภาพคล่องได้ผลตอบแทนรวม 0.31% เมื่อคำนวณตามสัดส่วนการลงทุนแล้ว พอร์ตโฟลิโอมีผลตอบแทนอีก 2.10% และมีผลตอบแทนสะสมตั้งแต่ 20 ธ.ค. 50 เท่ากับ 7.21% สำหรับระยะเวลาในการลงทุนประมาณ 5 เดือน และการปรับน้ำหนักการลงทุนในครั้งนี้ ขอไปเพิ่มไว้ในส่วนที่เป็นสภาพคล่อง จากเดิม 25% เป็น 60% เพราะคาดว่าจะมีการปรับพอร์ตโฟลิโออีกในเร็วๆนี้ ขึ้นกับว่าดัชนี SET จะปรับตัวอย่างไร โปรดติดตามนิทานเรื่องราชสีห์กับหนูได้อีกในตอนต่อๆ ไป
บทความนี้เป็นความเห็นส่วนตัว เพื่อเป็นตัวอย่างด้วยการใช้ข้อมูลจริงในการจัดสัดส่วนของพอร์ตโฟลิโอและหาจังหวะในการปรับน้ำหนักในการลงทุน ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทฯ แต่อย่างใดทั้งสิ้น
ณัฐพัชร์ ลัคนาธรรมพิชิต
ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน บีที จำกัด
0-2686-9500
ขอเบรกเรื่องตราสารอนุพันธ์เพื่อรายงานการปรับพอร์ตโฟลิโอและผลตอบแทนที่ผ่านมาให้ท่านผู้อ่านที่ติดตามได้ทราบความเคลื่อนไหว หลังจากที่ราชสีห์ได้ออกจากถ้ำเมื่อวันที่ 11 เม.ย. 51 ด้วยการลงทุนในตราสารทุนในสัดส่วน 25% โดยมีเป้าหมายของดัชนี SET ที่ 900 จุด ภายใน 2 เดือน รวมทั้งการเพิ่มสัดส่วนเป็น 35% เมื่อวันที่ 25 เม.ย. 51 ด้วยการย้ำถึงเป้าหมายของดัชนี SET ที่ 900 จุดอีกครั้ง แม้ว่าล่าสุดวันพุธที่ 21 พ.ค. 51 ดัชนี SET ได้ปิดที่ 884.19 ซึ่งนับเป็นสถิติดัชนี SET ที่ปิดสูงสุดของปีนี้ จะยังไปไม่ถึงเป้าหมาย แต่ก็ห่างเพียง 16 จุดหรือประมาณ 2%
สถิติดัชนี SET ที่ปิดสูงสุดของปี 2550 คือ 915.03 เมื่อ 29 ต.ค. 50 โดยมีปริมาณการซื้อขายที่สูงถึง 33,294 ล้านบาท ในวันก่อนหน้าหรือ 28 ต.ค. 50 ล่าสุดเมื่อ วันพฤหัสบดีที่ 22 พ.ค. 51 มีปริมาณการซื้อขายสูงถึง 31,601 ล้านบาท แต่ดัชนี SET กลับปิดในวันรุ่งขึ้นหรือ 23 พ.ค. 51 เพียง 875.59 ซึ่งต่ำกว่าเมื่อวันพุธ โอกาสที่ดัชนี SET จะสามารถขึ้นไปทำลายสถิติสูงสุดทั้งของปีนี้และปีที่แล้วได้จะต้องมีปริมาณการซื้อขายที่สูงกว่าระดับ 33,000 ล้านบาท โดยมีความห่างของดัชนี SET อีกประมาณ 40 จุดหรือ 4.5%
เมื่อพิจารณาถึงความเสี่ยงที่มีอยู่และผลตอบแทนที่จะได้รับ รวมทั้งเป้าหมายของดัชนี SET และสัญญาณจากตัวชี้วัดทางด้านเทคนิค (Technical Indicators) จึงขอปรับพอร์ตโฟลิโอด้วยการขายทำกำไรตราสารทุนออกไปทั้งหมด (สัดส่วน 35%) ก่อน เสมือนราชสีห์ได้คำรามให้เหล่าสัตว์ต่างๆ ในป่าได้ยินถึงเสียงอันทรงพลังของเจ้าป่า
จากตารางเป็นข้อยืนยันได้ว่าที่ราชสีห์ได้ออกจากถ้ำมาถือว่าถูกจังหวะทีเดียว สำหรับผลตอบแทนในช่วงที่ 7 นี้ ตราสารทุนได้ผลตอบแทน 5.79% ส่วนตราสารหนี้และส่วนที่มีไว้เพื่อเป็นสภาพคล่องได้ผลตอบแทนรวม 0.31% เมื่อคำนวณตามสัดส่วนการลงทุนแล้ว พอร์ตโฟลิโอมีผลตอบแทนอีก 2.10% และมีผลตอบแทนสะสมตั้งแต่ 20 ธ.ค. 50 เท่ากับ 7.21% สำหรับระยะเวลาในการลงทุนประมาณ 5 เดือน และการปรับน้ำหนักการลงทุนในครั้งนี้ ขอไปเพิ่มไว้ในส่วนที่เป็นสภาพคล่อง จากเดิม 25% เป็น 60% เพราะคาดว่าจะมีการปรับพอร์ตโฟลิโออีกในเร็วๆนี้ ขึ้นกับว่าดัชนี SET จะปรับตัวอย่างไร โปรดติดตามนิทานเรื่องราชสีห์กับหนูได้อีกในตอนต่อๆ ไป
บทความนี้เป็นความเห็นส่วนตัว เพื่อเป็นตัวอย่างด้วยการใช้ข้อมูลจริงในการจัดสัดส่วนของพอร์ตโฟลิโอและหาจังหวะในการปรับน้ำหนักในการลงทุน ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทฯ แต่อย่างใดทั้งสิ้น
