xs
xsm
sm
md
lg

ราชสีห์กับหนู

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ณัฐพัชร์ ลัคนาธรรมพิชิต
ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน บีที จำกัด 0-2686-9500

สำหรับท่านผู้อ่านที่ได้ติดตามบทความส่งท้ายปีฉบับวันที่ 18 ธันวาคม 2550 คงจะพอจำกันได้ว่าได้เสนอสัดส่วนการลงทุนไว้ให้ และเสนอให้มีการปรับสัดส่วนในปีนี้ให้บ่อยขึ้นเพราะตลาดจะมีความผันผวนสูง โดยเฉพาะตลาดหุ้นสัปดาห์ที่แล้ว แนวรับของดัชนี SET ที่ 750 จุด ได้แสดงความแข็งแกร่งของตลาดกระทิงที่ยังคงพอมีอยู่ โดยดัชนี SET ได้ลดลงมาตั้งแต่ต้นปี ไปต่ำสุดระหว่างวันที่ 757.65 เมื่อ 16 มกราคม 2551

สัดส่วนการลงทุนดังกล่าว หากผู้ลงทุนได้จัดตาม ขอสมมติว่าใช้เวลาสักสองวันให้หลัง จึงขอใช้ข้อมูลของตัวเลขราคาปิดและดัชนีต่างๆ ณ วันที่ 20 ธ.ค. 50 เป็นวันเริ่มต้น ขอเริ่มจากตราสารทุนที่ให้สัดส่วนไว้ที่ 25% โดยใช้ราคาปิดของ TDEX (กองทุนเปิด ไทยเด็กซ์ เซ็ท 50 อีทีเอฟ) ในวันดังกล่าว เป็นต้นทุน (เพราะเป็นตัวแทนของดัชนี SET50 ได้ และสามารถซื้อขายได้จริง) ที่ 5.83 บาท ถัดมาที่เป็นตราสารหนี้ ให้ลงทุนในพันธบัตรอายุ 5 ปี ในสัดส่วน 20% และลงทุนในพันธบัตรอายุ 1 ปี ในสัดส่วน 30% ต้องยอมรับว่าหาพันธบัตรที่มีอายุคงเหลือตามที่จะลงทุนได้ไม่ง่าย จึงขอใช้ดัชนี ZRR ของ ThaiBMA แทน โดย ZRR 5 ปี อยู่ที่ 127.37 และ ZRR 1 ปี อยู่ที่ 121.22 หรืออัตราผลตอบแทนของพันธบัตรอายุ 5 ปี และ 1 ปี ในวันนั้น เท่ากับ 4.65% และ 3.66% ตามลำดับ

ผ่านไปประมาณ 1 เดือน ลองมาคำนวณผลตอบแทน ณ วันที่ 18 ม.ค. 51 ดูกันนะครับว่าเป็นอย่างไรบ้าง เริ่มจากราคาของ TDEX ปิดไปที่ 5.79 บาท คิดเป็นผลตอบแทนที่ขาดทุนไป 0.69% ส่วน ZRR 5 ปี อยู่ที่ 131.49 คิดเป็นผลตอบแทน 3.23% (อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรอายุ 5 ปี ลดลงมาอยู่ที่ 4.09%) และ ZRR 1 ปี อยู่ที่ 122.01 คิดเป็นผลตอบแทน 0.65% (อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรอายุ 1 ปี ลดลงมาอยู่ที่ 3.32%) สำหรับส่วนที่เผื่อไว้เป็นสภาพคล่อง 25% โดยเป็นเงินฝากออมทรัพย์และซื้อกองทุนรวมที่มีอายุ 3 เดือน ได้ผลตอบแทนเฉลี่ย 0.16% เมื่อนำสัดส่วนในการลงทุนมาร่วมคำนวณด้วยแล้ว จะได้ผลตอบแทนจากการลงทุนในพอร์ต เท่ากับ 0.71% (ระยะเวลาการลงทุน 1 เดือน หรือประมาณ 8.5% ต่อปี)

น่าจะถือว่าสอบผ่านสำหรับเดือนแรกของการลงทุนตามการจัดพอร์ตดังกล่าว เมื่อเทียบกับดัชนีตลาดหลักทรัพย์ (SET) ในช่วงเวลาเดียวกันที่ลดลงไป 0.26% สรุปได้ว่าเดือนแรกนี้พันธบัตรอายุ 5 ปีเป็นพระเอกคือได้ผลตอบแทนสูงสุด หลายท่านคงมีคำถามในใจว่า แล้วมันไปเกี่ยวอะไรกับนิทานเรื่อง ราชสีห์กับหนู เพียงแต่อยากจะเปรียบเทียบให้ฟังว่า ผลตอบแทนหรือความเสี่ยงจากการลงทุนในตลาดหุ้นก็เหมือนกับผู้ลงทุนเลือกแสดงเป็นราชสีห์ และผลตอบแทนหรือความเสี่ยงจากการลงทุนในตลาดตราสารหนี้ก็เหมือนผู้ลงทุนเลือกแสดงเป็นหนูนั่นเอง บางครั้งหนูก็สามารถช่วยราชสีห์ได้ในยามคับขันตามเนื้อเรื่องในนิทาน เช่นเดียวกับการลงทุนในเดือนที่เพิ่งผ่านไปครับ

สำหรับเดือนนี้ขอปรับพอร์ตการลงทุนทันทีในวันที่ 18 ม.ค. 51 ตามภาวะตลาดที่ค่อนข้างผันผวน โดยขอเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในตราสารทุนจาก 25% เป็น 35% ด้วยการใช้เงินลงทุนจากส่วนที่เป็นสภาพคล่องหรือเงินฝากออมทรัพย์ซึ่งจะปรับลดสัดส่วนลงจาก 25% เป็น 20% และอีก 5% จากส่วนของพันธบัตรอายุ 1 ปี ก็จะเหลือสัดส่วนเพียง 25% สำหรับพันธบัตรอายุ 5 ปียังขอคงสัดส่วนเหมือนเดิมไว้ แม้ว่าอัตราผลตอบแทนได้ลดลงมาพอสมควร คือลดลงมา 56 bps (หรือ 0.56%) และ อายุ 1 ปี ลดลงมา 34 bps (หรือ 0.34%) แต่ต้องคอยติดตามอย่างใกล้ชิดว่าจะต้องปรับลดสัดส่วนลงเมื่อไรและเท่าไร เพื่อให้ผลตอบแทนโดยรวมของพอร์ตไม่เสียหาย เมื่อมีการขยับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทน

อ้อ มีอีกหนึ่งการเปรียบเทียบ ถ้ากำหนดให้การจัดสัดส่วนในการลงทุน (Asset Allocation) เป็นราชสีห์ ก็น่าจะเทียบให้จังหวะในการเข้าออกตลาดหุ้น (Market Timing) เสมือนเป็นหนู ที่พอจะช่วยเพิ่มผลตอบแทนได้ในภาวะที่ตลาดไม่ใช่ขาขึ้นอย่างเดียวไงครับ รอบนี้คาดว่าดัชนี SET จะมีโอกาสตีกลับไปยังระดับ 850-860 จุดได้ จึงพิจารณาปรับเพิ่มสัดส่วนในการลงทุนดังกล่าวครับ

ท่านผู้อ่านลองติดตามการจัดพอร์ตและผลตอบแทนที่ได้ไปเรื่อยๆนะครับ ว่าพอจะเป็นตัวช่วยหรือแนวทางในการลงทุนได้หรือไม่ ?
ก่อนจากกันวันนี้ ไม่ทราบว่า ท่านผู้อ่านได้ลงทุนในกองทุนรวม RMF หุ้น และ LTF ตามจังหวะที่เคยแนะนำไว้เมื่อปีที่แล้วบ้างหรือยัง เพราะเพียงแค่ 13 วันทำการของตลาดหุ้นที่เพิ่งผ่านไปมีโอกาสให้ลงทุนได้ถึง 5 ครั้งแล้ว ไม่ควรรอไปลงทุนเพียงครั้งเดียวในช่วงปลายปี อย่าลืมนะครับ

“การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน”
“ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวมมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต”

กำลังโหลดความคิดเห็น