เดอะ วอลล์ สตรีต เจอร์นัล - บริษัทไชน่าอิสเทิร์นแอร์ไลน์เตรียมขอกู้เงินจากธนาคารต่างแดน เพื่อซื้อเครื่องบินลำใหม่ โดยไม่หวั่น แม้บริษัทมีหนี้สินมากที่สุดและมีฐานะการเงินอ่อนแอที่สุดในบรรดาสายการบินสำคัญ 3 สายของจีนก็ตาม
การตัดสินใจก่อหนี้เพิ่มของไชน่าอิสเทิร์น ยิ่งแสดงให้เห็นฐานะการเงินของบริษัทที่นับวันจะขัดสนได้อย่างชัดเจน ในขณะเดียวกันก็พยายามดิ้นรนดำเนินกิจการไปตามปกติในระหว่างที่ศึกแย่งชิงการเข้าควบคุมกิจการไชน่าอิสเทิร์นระหว่างบริษัทแอร์ไชน่ากับนักลงทุนจากสิงค์โปร์ อันเป็นศึกใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งของจีนกำลังอยู่ในภาวะสงบลงชั่วขณะ
อย่างไรก็ตาม ยังไม่อาจฟันธงได้ว่าแผนกู้เงินครั้งนี้ บ่งบอกภาวะจนตรอก หรือเป็นเพียงแค่ความพยายามฉกฉวยโอกาสสร้างกำไรจากการอ่อนค่าของดอลลาร์เมื่อเทียบกับเงินหยวนในตอนนี้
ผู้รู้เรื่องภาวะหนี้สินของไชน่าอิสเทิร์นดีคนหนึ่งเปิดเผยว่า บริษัทยังค้างชำระหนี้จำนวน 535 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตามกำหนดภายในสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ จิน ชิ่งหลี่แห่งบริษัทจัดอันดับฟิตช์ เรตติ้งส์ (Fitch Ratings) ในกรุงปักกิ่งระบุว่า การค้างชำระอาจรวมถึงค่าธรรมเนียมผู้ใช้บริการ ซึ่งไชน่าอิสเทิร์นเป็นหนี้สนามบินต่าง ๆบนแดนมังกร ถ้าเป็นเรื่องจริง ไชน่าอิสเทิร์นก็จะเป็นสายการบินเดียวของจีน ที่แบกภาระหนี้สินดังกล่าว
ทั้งนี้ ไชน่า เนชั่นแนล เอเวียชั่น โฮลดิ้ง (China National Aviation Holding Co.)บริษัทแม่ของแอร์ไชน่า ซึ่งมีสำนักงานในกรุงปักกิ่ง และเป็นคู่แข่งของไชน่าอิสเทิร์น ได้ยื่นข้อเสนอเข้าควบคุมกิจการของไชน่าอิสเทิร์น การกระทำดังกล่าวไปขัดขวางความพยายามของไชน่าอิสเทิร์น ที่กำลังผลักดันให้ผู้ถือหุ้นเห็นชอบการเข้ามาลงทุนด้านยุทธศาสตร์ในไชน่าอิสเทิร์น โดยบริษัทสิงค์โปร์แอร์ไลน์ และบริษัทลงทุนหลักทรัพย์ ซึ่งรัฐบาลสิงค์โปร์เป็นเจ้าของ
คู่แข่งเหล่านี้ยังใจจดจ่อเข้าถือหุ้นในไชน่าอิสเทิร์น ซึ่งเป็นสายการบินรายใหญ่สุด ที่ให้บริการบินจากนครเซี่ยงไฮ้ อันเป็นศูนย์กลางพาณิชย์ของจีน
ศึกเข้าควบคุมกิจการครั้งนี้อาจบ่งชี้ทิศทางและการแข่งขันในอนาคตภายในอุตสาหกรรมการบินที่เติบโตอย่างรวดเร็วของจีน อย่างไรก็ตาม ยังไม่แน่นอนว่าผลจะออกมาในรูปใด รัฐบาลจีนยังมิได้แถลงชัดเจนว่าต้องการให้มีการรวมกิจการของสายการบินต่าง ๆ ของจีนเข้าไว้ด้วยกันหรือไม่ ? ซึ่งอาจอยู่ในรูปของบริษัทสายการบินรายใหญ่เพียงรายเดียว หรือรัฐบาลต้องการให้สายการบินเหล่านี้ยังคงดำเนินกิจการอย่างเป็นอิสระ แม้ฐานะทางการเงินระหว่างสายการบินจะแตกต่างกันมากขึ้นทุกทีก็ตาม นักวิเคราะห์บางรายไม่คาดว่ารัฐบาลจะตัดสินใจใด ๆ จนกว่าการแข่งขันโอลิมปิกที่กรุงปักกิ่งในเดือนสิงหาคมจะผ่านพ้นไปแล้ว
หลิว เส้าย่ง ผู้อำนวยการและประธานบริษัทไชน่า เซาเทิร์น แอร์ไลน์ ผู้มีบทบาทสำคัญคนหนึ่งในการควบรวมกิจการใด ๆ ก็ตามที่อาจเกิดขึ้นกับสายการบินของจีน ได้ให้สัมภาษณ์ว่า เขาไม่คาดว่ารัฐบาลจีนจะสั่งให้มีการควบรวมกิจการในหมู่สายการบินในทันทีทันใด
" แต่หากสายการบิน 3 สายดำเนินกิจการด้วยตนเองทั้งหมด ก็อาจไม่เป็นผลดีแก่สายการบินเหล่านี้ด้วยเช่นกัน"
แหล่งข่าวใกล้ชิดระบุว่า ไชน่าอิสเทิร์นได้ลงนามข้อตกลงกู้เงินจำนวน 337 ล้านดอลลาร์จากสาขาในต่างประเทศของธนาคารจีนหลายแห่ง เพื่อช่วยบรรเทาการขาดแคลนเงินทุน
แม้นาย หลัว จูปิง ผู้อำนวยการบริหารของไชน่าอิสเทิร์นมิได้ยืนยันจำนวนเงินกู้ แต่ก็ระบุว่า เงินที่กู้จะนำมาจ่ายค่าเครื่องบินโดยสารไอพ่นลำใหม่หลายลำ ซึ่งคาดว่าบริษัทโบอิ้ง และแอร์บัสจะส่งมอบให้ในปีนี้ นอกจากนั้น ยังยืนยันด้วยว่า เป็นการกู้ตามธรรมดาอย่างที่ทางบริษัทเคยทำมาบ่อยครั้ง เพื่อตอบสนองความจำเป็นในด้านปฏิบัติการ และทิ้งท้ายว่า
"ไชน่าอิสเทิร์นมีฐานะการเงินที่มั่นคง"
นายจินแห่งฟิตช์ เรตติ้งส์มองว่าไชน่าอิสเทิร์น ซึ่งมีหนี้สินในรูปดอลลาร์อยู่แล้ว อาจแสวงหาเงินกู้ในต่างแดนด้วยเหตุผลที่ว่าธนาคารบนแผ่นดินใหญ่ไม่มีเงินดอลลาร์สำหรับปล่อยกู้ได้อย่างเพียงพอ เนื่องจากบริษัทจีนต่างแย่งกันกู้เงินดอลลาร์ในประเทศ
นายเดเมียน ฮอร์ธ นักวิเคราะห์ของธนาคารเพื่อการลงทุนยูบีเอสในฮ่องกงระบุว่า เขาไม่แปลกใจที่ไชน่าอิสเทิร์นจะขอกู้เงิน
"งบดุลของบริษัทย่ำแย่ที่สุด หนำซ้ำเมื่อพยามยามจะแก้ปัญหานั้น กลับถูกเจาะท้องเรือเสียอีก ที่สำคัญจากแอร์ไชน่า"
"ในที่สุดแล้ว ผมขอคาดการณ์ว่ารัฐบาลจะสนับสนุนพวกเขา"
นอกจากปัญหาการเงินแล้ว เมื่อเร็ว ๆ นี้ สายการบินไชน่าอิสเทิร์นยังเจอมรสุมกระหน่ำอีกลูก เมื่อถูกสำนักงานบริหารการบินพลเรือนของจีนถอนเส้นทางบิน 2 สายจากเมืองคุนหมิง โดยโอนไปให้สายการบินคู่แข่ง นอกจากนั้น ยังลดจำนวนเที่ยวบินอีก 6 เส้นทาง เพื่อลงโทษที่เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา นักบินของไชน่าอิสเทิร์นได้บินย้อนกลับเส้นทางถึง 21 เที่ยว เพื่อประท้วงเงื่อนไขการทำงานที่แย่ โดยนักบินมีชั่วโมงทำงานยาวนานเกินไป แต่กลับได้รับเงินเดือนน้อย
ทั้งนี้ในปี 2002 บริษัทไชน่า อีสเทิร์นแอร์ ได้รวมตัวกับสองบริษัทสายการบินในประเทศเช่น บริษัทไชน่า เวสแอร์ และ หยุนหนันแอร์ ก่อตั้งขึ้นเป็นไชน่า แอร์ไลน์ ด้วยทุนจดทะเบียนจำนวน 2,558 ล้านหยวน สินทรัพย์รวม 51,699 ล้านหยวน
เครื่องบินโดยสารขนาดกลางและขนาดใหญ่รวม 168 ลำ เครื่องบินขนส่งทั่วไปจำนวน 22 ลำ บริการเส้นทางการบินทั้งภายในประเทศ และนอกประเทศรวม 450 เส้นทาง
การตัดสินใจก่อหนี้เพิ่มของไชน่าอิสเทิร์น ยิ่งแสดงให้เห็นฐานะการเงินของบริษัทที่นับวันจะขัดสนได้อย่างชัดเจน ในขณะเดียวกันก็พยายามดิ้นรนดำเนินกิจการไปตามปกติในระหว่างที่ศึกแย่งชิงการเข้าควบคุมกิจการไชน่าอิสเทิร์นระหว่างบริษัทแอร์ไชน่ากับนักลงทุนจากสิงค์โปร์ อันเป็นศึกใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งของจีนกำลังอยู่ในภาวะสงบลงชั่วขณะ
อย่างไรก็ตาม ยังไม่อาจฟันธงได้ว่าแผนกู้เงินครั้งนี้ บ่งบอกภาวะจนตรอก หรือเป็นเพียงแค่ความพยายามฉกฉวยโอกาสสร้างกำไรจากการอ่อนค่าของดอลลาร์เมื่อเทียบกับเงินหยวนในตอนนี้
ผู้รู้เรื่องภาวะหนี้สินของไชน่าอิสเทิร์นดีคนหนึ่งเปิดเผยว่า บริษัทยังค้างชำระหนี้จำนวน 535 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตามกำหนดภายในสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ จิน ชิ่งหลี่แห่งบริษัทจัดอันดับฟิตช์ เรตติ้งส์ (Fitch Ratings) ในกรุงปักกิ่งระบุว่า การค้างชำระอาจรวมถึงค่าธรรมเนียมผู้ใช้บริการ ซึ่งไชน่าอิสเทิร์นเป็นหนี้สนามบินต่าง ๆบนแดนมังกร ถ้าเป็นเรื่องจริง ไชน่าอิสเทิร์นก็จะเป็นสายการบินเดียวของจีน ที่แบกภาระหนี้สินดังกล่าว
ทั้งนี้ ไชน่า เนชั่นแนล เอเวียชั่น โฮลดิ้ง (China National Aviation Holding Co.)บริษัทแม่ของแอร์ไชน่า ซึ่งมีสำนักงานในกรุงปักกิ่ง และเป็นคู่แข่งของไชน่าอิสเทิร์น ได้ยื่นข้อเสนอเข้าควบคุมกิจการของไชน่าอิสเทิร์น การกระทำดังกล่าวไปขัดขวางความพยายามของไชน่าอิสเทิร์น ที่กำลังผลักดันให้ผู้ถือหุ้นเห็นชอบการเข้ามาลงทุนด้านยุทธศาสตร์ในไชน่าอิสเทิร์น โดยบริษัทสิงค์โปร์แอร์ไลน์ และบริษัทลงทุนหลักทรัพย์ ซึ่งรัฐบาลสิงค์โปร์เป็นเจ้าของ
คู่แข่งเหล่านี้ยังใจจดจ่อเข้าถือหุ้นในไชน่าอิสเทิร์น ซึ่งเป็นสายการบินรายใหญ่สุด ที่ให้บริการบินจากนครเซี่ยงไฮ้ อันเป็นศูนย์กลางพาณิชย์ของจีน
ศึกเข้าควบคุมกิจการครั้งนี้อาจบ่งชี้ทิศทางและการแข่งขันในอนาคตภายในอุตสาหกรรมการบินที่เติบโตอย่างรวดเร็วของจีน อย่างไรก็ตาม ยังไม่แน่นอนว่าผลจะออกมาในรูปใด รัฐบาลจีนยังมิได้แถลงชัดเจนว่าต้องการให้มีการรวมกิจการของสายการบินต่าง ๆ ของจีนเข้าไว้ด้วยกันหรือไม่ ? ซึ่งอาจอยู่ในรูปของบริษัทสายการบินรายใหญ่เพียงรายเดียว หรือรัฐบาลต้องการให้สายการบินเหล่านี้ยังคงดำเนินกิจการอย่างเป็นอิสระ แม้ฐานะทางการเงินระหว่างสายการบินจะแตกต่างกันมากขึ้นทุกทีก็ตาม นักวิเคราะห์บางรายไม่คาดว่ารัฐบาลจะตัดสินใจใด ๆ จนกว่าการแข่งขันโอลิมปิกที่กรุงปักกิ่งในเดือนสิงหาคมจะผ่านพ้นไปแล้ว
หลิว เส้าย่ง ผู้อำนวยการและประธานบริษัทไชน่า เซาเทิร์น แอร์ไลน์ ผู้มีบทบาทสำคัญคนหนึ่งในการควบรวมกิจการใด ๆ ก็ตามที่อาจเกิดขึ้นกับสายการบินของจีน ได้ให้สัมภาษณ์ว่า เขาไม่คาดว่ารัฐบาลจีนจะสั่งให้มีการควบรวมกิจการในหมู่สายการบินในทันทีทันใด
" แต่หากสายการบิน 3 สายดำเนินกิจการด้วยตนเองทั้งหมด ก็อาจไม่เป็นผลดีแก่สายการบินเหล่านี้ด้วยเช่นกัน"
แหล่งข่าวใกล้ชิดระบุว่า ไชน่าอิสเทิร์นได้ลงนามข้อตกลงกู้เงินจำนวน 337 ล้านดอลลาร์จากสาขาในต่างประเทศของธนาคารจีนหลายแห่ง เพื่อช่วยบรรเทาการขาดแคลนเงินทุน
แม้นาย หลัว จูปิง ผู้อำนวยการบริหารของไชน่าอิสเทิร์นมิได้ยืนยันจำนวนเงินกู้ แต่ก็ระบุว่า เงินที่กู้จะนำมาจ่ายค่าเครื่องบินโดยสารไอพ่นลำใหม่หลายลำ ซึ่งคาดว่าบริษัทโบอิ้ง และแอร์บัสจะส่งมอบให้ในปีนี้ นอกจากนั้น ยังยืนยันด้วยว่า เป็นการกู้ตามธรรมดาอย่างที่ทางบริษัทเคยทำมาบ่อยครั้ง เพื่อตอบสนองความจำเป็นในด้านปฏิบัติการ และทิ้งท้ายว่า
"ไชน่าอิสเทิร์นมีฐานะการเงินที่มั่นคง"
นายจินแห่งฟิตช์ เรตติ้งส์มองว่าไชน่าอิสเทิร์น ซึ่งมีหนี้สินในรูปดอลลาร์อยู่แล้ว อาจแสวงหาเงินกู้ในต่างแดนด้วยเหตุผลที่ว่าธนาคารบนแผ่นดินใหญ่ไม่มีเงินดอลลาร์สำหรับปล่อยกู้ได้อย่างเพียงพอ เนื่องจากบริษัทจีนต่างแย่งกันกู้เงินดอลลาร์ในประเทศ
นายเดเมียน ฮอร์ธ นักวิเคราะห์ของธนาคารเพื่อการลงทุนยูบีเอสในฮ่องกงระบุว่า เขาไม่แปลกใจที่ไชน่าอิสเทิร์นจะขอกู้เงิน
"งบดุลของบริษัทย่ำแย่ที่สุด หนำซ้ำเมื่อพยามยามจะแก้ปัญหานั้น กลับถูกเจาะท้องเรือเสียอีก ที่สำคัญจากแอร์ไชน่า"
"ในที่สุดแล้ว ผมขอคาดการณ์ว่ารัฐบาลจะสนับสนุนพวกเขา"
นอกจากปัญหาการเงินแล้ว เมื่อเร็ว ๆ นี้ สายการบินไชน่าอิสเทิร์นยังเจอมรสุมกระหน่ำอีกลูก เมื่อถูกสำนักงานบริหารการบินพลเรือนของจีนถอนเส้นทางบิน 2 สายจากเมืองคุนหมิง โดยโอนไปให้สายการบินคู่แข่ง นอกจากนั้น ยังลดจำนวนเที่ยวบินอีก 6 เส้นทาง เพื่อลงโทษที่เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา นักบินของไชน่าอิสเทิร์นได้บินย้อนกลับเส้นทางถึง 21 เที่ยว เพื่อประท้วงเงื่อนไขการทำงานที่แย่ โดยนักบินมีชั่วโมงทำงานยาวนานเกินไป แต่กลับได้รับเงินเดือนน้อย
ทั้งนี้ในปี 2002 บริษัทไชน่า อีสเทิร์นแอร์ ได้รวมตัวกับสองบริษัทสายการบินในประเทศเช่น บริษัทไชน่า เวสแอร์ และ หยุนหนันแอร์ ก่อตั้งขึ้นเป็นไชน่า แอร์ไลน์ ด้วยทุนจดทะเบียนจำนวน 2,558 ล้านหยวน สินทรัพย์รวม 51,699 ล้านหยวน
เครื่องบินโดยสารขนาดกลางและขนาดใหญ่รวม 168 ลำ เครื่องบินขนส่งทั่วไปจำนวน 22 ลำ บริการเส้นทางการบินทั้งภายในประเทศ และนอกประเทศรวม 450 เส้นทาง