ผู้ถือหน่วยกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ที ยู โดม เรสซิเดนท์เชียล คอมเพล็กซ์ ชวดรับปันผลรอบ 6 เดือน หลังกองทุนโชว์กำไรเพียง 0.058 บาท ต่อหน่วยลงทุนซึ่งต่ำกว่า 10 สตางค์ตามเงื่อนไข ด้าน "มาริษ" ยืนยัน 2 มิ.ย. นักศึกษาเข้าหอพักได้ตามกำหนด ขณะที่ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์บางกอก มีมติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล 0.185 บาท/หน่วย ผู้ถือหน่วยเฮรับ 2 มิ.ย. นี้
นายมาริษ ท่าราบ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทในฐานะบริษัทจัดการของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ที ยู โดม เรสซิเดนท์เชียล คอมเพล็กซ์ (TU-PF) มีมติ ให้งดการจ่ายเงินปันผล จากผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนของกองทุน ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2550 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2551 เนื่องจากกองทุน มีกำไรสุทธิสำหรับงวด 6 เดือนดังกล่าวเพียง 0.058 บาท ต่อหน่วยลงทุนซึ่ง ต่ำกว่า 10 สตางค์ ต่อหน่วยตามเงื่อนไขการสงวนสิทธิไม่จ่ายเงินปันผลตามที่ ระบุไว้ในโครงการจัดการของกองทุน ประกอบกับมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ณ วันที่ 31 มีนาคม 2551 ซึ่งเท่ากับ 9.9962 บาทต่อหน่วยนั้นยังคงต่ำกว่า มูลค่าที่ตราไว้ 10.00 บาทต่อหน่วย โดยบริษัทจัดการจะนำผลการดำเนินงาน ของงวดดังกล่าวไปจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนพร้อมกับผลการดำเนินงานในงวดถัดๆ ไป
ทั้งนี้ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ที ยู โดม เรสซิเดนท์เชียล คอมเพล็กซ์ จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2549 โดยก่อนหน้านี้กองทุนได้จ่ายปันผลไปแล้ว 2 ครั้ง ครั้งแรกเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2550 ในอัตราหน่วยลงทุนละ 0.1250 บาท และครั้งที่สองเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2550 ในอัตราหน่วยลงทุนละ 0.11 บาท รวมเป็นเงินจ่ายปันผลทั้งหมด 0.2350 บาทต่อหน่วย
ล่าสุด เมื่อเร็วๆนี้ นายมาริษกล่าวถึงความคืบหน้าของการก่อสร้างหอพักนักศึกษาที่กองทุนเข้าไปลงทุนว่า ในวันที่ 2 มิถุนายนนี้ จะเป็นวันแรกที่นักศึกษาจะเข้าไปอยู่อาศัยภายในหอพักดังกล่าว โดยเชื่อว่าจะไม่มีปัญหาแต่อย่างใด จากก่อนหน้านี้ ที่โครงการก่อสร้างดังกล่าวมีปัญหาในการก่อสร้างที่ล่าช้าและปัญหาเรื่องกรรมสิทธิ์ในที่ดิน
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2550 ที่ผ่านมา กองทุนได้เปิดเผยรายชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่ 10 อันดับแรก ซึ่งประกอบด้วย 1.สำนักงานประกันสังคม ในสัดส่วน 76.75% 2.บริษัท ไอเอ็นจี ประกันชีวิต จำกัด โดยบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไอเอ็นจี(ประเทศไทย) จำกัด 2.88% 3.ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 2.40% 4.กองทุนสำรองเลี้ยงชีพสำหรับลูกจ้างประจำของส่วนราชการซึ่งจดทะเบียนแล้ว 1.92% 5.นายเมฆ มนต์เสรีนุสรณ์ 0.67% 6.นายปัญญา อมตะสินธุ์ 0.67% 7.นางสาวมินตรา มนต์เสรีนุสรณ์ 0.67% 8.นายพิชัย พืชมงคล 0.48% 9.นายยงยุทธ อวิหิงสานนท์ 0.48% และ10.บริษัท นำสินประกันภัย จำกัด(มหาชน) 0.48%
ด้านนายสุริพล เข็มจินดา กรรมการผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) วรรณ จำกัด รายงานว่า บริษัท ในฐานะบริษัทจัดการของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์บางกอก (BKKCP) มีมติให้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์บางกอกจากกำไรสุทธิของผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2551 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2551 ในอัตราหน่วยลงทุนละ 0.185 บาท โดยบริษัทฯ กำหนดจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนในวันที่ 16 มิถุนายน 2551 โดยกองทุนได้กำหนดวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยลงทุน เพื่อสิทธิในการรับ เงินปันผล ในวันที่ 2 มิถุนายน 2551 เวลา 12.00 น.
สำหรับผู้ถือหน่วยลงทุนซึ่งเป็นบุคคลธรรมดา ที่ถือเอกสารสิทธิเป็นใบหน่วยลงทุนบลจ.วรรณ จำกัด ในฐานะนายทะเบียน จะดำเนินการหักภาษี ณ ที่จ่ายร้อยละ 10 ของเงินปันผลที่ได้รับ เว้นแต่ผู้ถือหน่วยลงทุนที่แจ้ง บลจ.วรรณ จำกัด เป็นลายลักษณ์อักษรที่ไม่ประสงค์จะให้หักภาษี ณ ที่จ่าย ภายในวันที่ 9 มิถุนายน 2551
ส่วนผู้ถือหน่วยลงทุนซึ่งเป็นบุคคลธรรมดา ที่นำหน่วยลงทุนฝากเข้าบัญชีหลักทรัพย์ที่มีอยู่กับบริษัทสมาชิกของบริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด บลจ.วรรณ จำกัด จะใช้ข้อมูลการหักภาษี ณ ที่จ่ายตามที่ผู้ถือหน่วยลงทุนได้แจ้งผ่านบริษัทสมาชิกนั้นๆ
นายมาริษ ท่าราบ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทในฐานะบริษัทจัดการของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ที ยู โดม เรสซิเดนท์เชียล คอมเพล็กซ์ (TU-PF) มีมติ ให้งดการจ่ายเงินปันผล จากผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนของกองทุน ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2550 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2551 เนื่องจากกองทุน มีกำไรสุทธิสำหรับงวด 6 เดือนดังกล่าวเพียง 0.058 บาท ต่อหน่วยลงทุนซึ่ง ต่ำกว่า 10 สตางค์ ต่อหน่วยตามเงื่อนไขการสงวนสิทธิไม่จ่ายเงินปันผลตามที่ ระบุไว้ในโครงการจัดการของกองทุน ประกอบกับมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ณ วันที่ 31 มีนาคม 2551 ซึ่งเท่ากับ 9.9962 บาทต่อหน่วยนั้นยังคงต่ำกว่า มูลค่าที่ตราไว้ 10.00 บาทต่อหน่วย โดยบริษัทจัดการจะนำผลการดำเนินงาน ของงวดดังกล่าวไปจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนพร้อมกับผลการดำเนินงานในงวดถัดๆ ไป
ทั้งนี้ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ที ยู โดม เรสซิเดนท์เชียล คอมเพล็กซ์ จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2549 โดยก่อนหน้านี้กองทุนได้จ่ายปันผลไปแล้ว 2 ครั้ง ครั้งแรกเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2550 ในอัตราหน่วยลงทุนละ 0.1250 บาท และครั้งที่สองเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2550 ในอัตราหน่วยลงทุนละ 0.11 บาท รวมเป็นเงินจ่ายปันผลทั้งหมด 0.2350 บาทต่อหน่วย
ล่าสุด เมื่อเร็วๆนี้ นายมาริษกล่าวถึงความคืบหน้าของการก่อสร้างหอพักนักศึกษาที่กองทุนเข้าไปลงทุนว่า ในวันที่ 2 มิถุนายนนี้ จะเป็นวันแรกที่นักศึกษาจะเข้าไปอยู่อาศัยภายในหอพักดังกล่าว โดยเชื่อว่าจะไม่มีปัญหาแต่อย่างใด จากก่อนหน้านี้ ที่โครงการก่อสร้างดังกล่าวมีปัญหาในการก่อสร้างที่ล่าช้าและปัญหาเรื่องกรรมสิทธิ์ในที่ดิน
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2550 ที่ผ่านมา กองทุนได้เปิดเผยรายชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่ 10 อันดับแรก ซึ่งประกอบด้วย 1.สำนักงานประกันสังคม ในสัดส่วน 76.75% 2.บริษัท ไอเอ็นจี ประกันชีวิต จำกัด โดยบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไอเอ็นจี(ประเทศไทย) จำกัด 2.88% 3.ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 2.40% 4.กองทุนสำรองเลี้ยงชีพสำหรับลูกจ้างประจำของส่วนราชการซึ่งจดทะเบียนแล้ว 1.92% 5.นายเมฆ มนต์เสรีนุสรณ์ 0.67% 6.นายปัญญา อมตะสินธุ์ 0.67% 7.นางสาวมินตรา มนต์เสรีนุสรณ์ 0.67% 8.นายพิชัย พืชมงคล 0.48% 9.นายยงยุทธ อวิหิงสานนท์ 0.48% และ10.บริษัท นำสินประกันภัย จำกัด(มหาชน) 0.48%
ด้านนายสุริพล เข็มจินดา กรรมการผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) วรรณ จำกัด รายงานว่า บริษัท ในฐานะบริษัทจัดการของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์บางกอก (BKKCP) มีมติให้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์บางกอกจากกำไรสุทธิของผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2551 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2551 ในอัตราหน่วยลงทุนละ 0.185 บาท โดยบริษัทฯ กำหนดจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนในวันที่ 16 มิถุนายน 2551 โดยกองทุนได้กำหนดวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยลงทุน เพื่อสิทธิในการรับ เงินปันผล ในวันที่ 2 มิถุนายน 2551 เวลา 12.00 น.
สำหรับผู้ถือหน่วยลงทุนซึ่งเป็นบุคคลธรรมดา ที่ถือเอกสารสิทธิเป็นใบหน่วยลงทุนบลจ.วรรณ จำกัด ในฐานะนายทะเบียน จะดำเนินการหักภาษี ณ ที่จ่ายร้อยละ 10 ของเงินปันผลที่ได้รับ เว้นแต่ผู้ถือหน่วยลงทุนที่แจ้ง บลจ.วรรณ จำกัด เป็นลายลักษณ์อักษรที่ไม่ประสงค์จะให้หักภาษี ณ ที่จ่าย ภายในวันที่ 9 มิถุนายน 2551
ส่วนผู้ถือหน่วยลงทุนซึ่งเป็นบุคคลธรรมดา ที่นำหน่วยลงทุนฝากเข้าบัญชีหลักทรัพย์ที่มีอยู่กับบริษัทสมาชิกของบริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด บลจ.วรรณ จำกัด จะใช้ข้อมูลการหักภาษี ณ ที่จ่ายตามที่ผู้ถือหน่วยลงทุนได้แจ้งผ่านบริษัทสมาชิกนั้นๆ
