xs
xsm
sm
md
lg

AYFมั่นใจเวียดนามยังร้อนแรง ชี้MSCIอาจยกเป็นดัชนี้มาตราฐานเร็วๆนี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


บลจ. อยุธยา มั่นใจศักยภาพเวียดนามยังร้อนแรง เหตุโครงสร้างทางเศรษฐกิจที่ดี รวมถึงมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ปัจจัยการเมืองมีความมั่นคงสูง แถมภาครัฐยังเปิดเสรีด้านการลงทุน ชี้ในระยะยาวดัชนีหุ้นเวียดนาม ถูกยกให้เป็นดัชนี้มาตราฐานการลงทุนของ MSCI


นายประภาส ตันติพิบูลย์ศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) อยุธยา จำกัด กล่าวถึงการลงทุนในประเทศเวียดนามว่า การลงทุนในประเทศเวียดนามช่วงนี้ได้รับความสนใจจากนักลงทุนต่างประเทศมาก โดยปัจจุบันตลาดหุ้นเวียดนามมีมูลค่าถึง 500,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นมาจากการที่มีบริษัทใหม่เข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของเวียดนามมากขึ้น แม้ว่าในช่วงไตรมาส 4 ของปีที่ผ่านมา ตลาดหุ้นของเวียดนามได้ปรับตัวลดลงถึง 50% สาเหตุจากการที่รัฐบาลของเวียดนามเข้ามากับกับดูแลในเรื่องของการเก็งกำไรของตลาดอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงเรื่องของภาวะเงินเฟ้อที่ปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ตลาดหุ้นของเวียดนามได้รับผลกระทบพอสมควร

ทั้งนี้ จากการที่ประเทศเวียดนามมีโครงสร้างทางเศรษฐกิจที่ดี รวมถึงเศรษฐกิจของประเทศมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้การลงทุนในประเทศเวียดนามอยู่ในระดับที่น่าลงทุนมาก โดยการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศเวียดนามนั้น เป็นการเติบโตพร้อมกับประเทศอื่นในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งเป็นผลมาจากอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศจีนเติบโตขึ้นอย่างมาก โดยส่งผลให้อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศส่วนใหญ่ในภูมิภาคเอเชียปกรับตัวสูงขึ้นตามไปด้วย

ขณะเดียวกัน ปัจจัยทางด้านการเมืองของประเทศเวียดนามนั้น ถือได้ว่ามีความมั่นคงทางการเมืองมาก ประชาชนของประเทศไม่ค่อยสนในเรื่องของการเมือง แต่สนเรื่องของเศรษฐกิจความเป็นอยู่มากกว่า เช่นเดียวกับประเทศจีน ทำให้ประชาขนของประเทศเวียดนามไม่รวมตัวกันสร้างความวุ่นวายให้กับรัฐบาล และรัฐบาลของประเทศเวียดนามได้เปิดเสรีทางด้านการลงทุนแก่นักลงทุนอดย่างมาก

ส่วนเรื่องผลกระทบจากปัญหาอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นนั้น ส่งผลให้กระทรวงการคลังของประเทศเวียดนามต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เพื่อชะลอเงินเฟ้อไม่สูงจนเกินไป โดยเงินเฟ้อดังกล่าวส่งผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศเล็กน้อยเท่านั้น เพราะเป็นภาวะเงินเฟ้อที่มีผลมาจากราคาสินค้าที่ปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งสามารถบริหารจัดการได้ภายในประเทศ แต่อย่างไรก็ตามเศรษฐกิจของประเทศเวียดนามยังร้อนแรงอยู่

นายประภาสกล่าวต่อว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศเวียดนามที่สูงขึ้นรวมถึงตลาดหุ้นที่มีความน่าลงทุนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งตลาดหุ้นของประเทศเวียดนามมีมูลค่าที่สูงขึ้นและพัฒนาที่ดีขึ้น จนได้รับความน่าเชื่อถือจากบรรดาผู้จัดการกองทุนต่างๆ อาจส่งผลให้ดัชชีตลาดหุ้นเวียดนาม ถูกยกให้เป็นดัชนี้มาตราฐานการลงทุนของ MSCI ได้ นอกจากนี้ ได้แนะนำกับนักลงทุนว่า ในระยะ 5-10 ปีจากนี้ ตลาดหุ้นของประเทศเทศเวียดนามจะอัตราการเติบโตอย่างเนื่อง เพราะตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียปรับตัวไปในทิศทางที่ดี ดังนั้นตลาดหุ้นของประเทศเวียดนามมีความน่าลงทุนในระยะยาว

ทั้งนี้ จากการเปิดเผยตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐของประเทศเวียดนามในไตรมาสแรกที่ 2551 เศรษฐกิจของเวียดนามชะลอตัว และส่งสัญญาณว่ารัฐบาลเวียดนามจะลดประมาณการการขยายตัวเศรษฐกิจทั้งปี ตามมาตรการควบคุมอัตราเงินเฟ้อและการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก

โดยก่อนหน้านี้ ทางการเวียดนาม เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือจีดีพีใน ไตรมาสแรก ขยายตัว 7.4% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยชะลอจากอัตราการขยายตัว 8.5% ของปี 2550 ซึ่งปัจจัยที่ส่งผลให้เศรษฐกิจในไตรมาสแรกชะลอตัวเป็นผลมาจากราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น รวมถึงเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว และอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง ขณะเดียวกันภัยพิบัติทางธรรมชาติและการแพร่ระบาดเชื้อโรคจากสัตว์ยังส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจด้วย

ด้านนายกรัฐมนตรีเหงียน ตัน ดุง แห่งเวียดนาม กล่าวว่า เวียดนามจะทบทวนเป้าหมายการขยายตัวเศรษฐกิจที่ 8.5%-9% ในปีนี้ เนื่องจากแนวโน้มเศรษฐกิจยังมีความไม่แน่นอน

สำหรับ บลจ. อยุธยา มีกองทุนที่ไปลงทุนในประเทศเวีนดนาม คือ กองทุนเปิดอยุธยา อาเซียน เวียดนาม โฟกัส (AYFAVN) เป็นกองทุนประเภท กองทุนรวมหน่วยลงทุนที่เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนต่างประเทศเพียงกองทุนเดียว (Feeder Fund) โดยมี จุดประสงค์การลงทุนเพื่อสร้างโอกาสและช่องทางที่เหมาะสมให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนในการนำเงินไปลงทุนในต่างประเทศ เพื่อแสวงหาผลประโยชน์จากการเติบโตของตราสารทุนที่จดทะเบียนในภูมิภาคอาเซียน

ส่วน นโยบายการลงทุนนั้นกองทุนจะลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศที่มีเป้าหมายให้ผลตอบแทนในการถือครองหน่วยลงทุนในระยะยาว โดยจะลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศ ชื่อ CAAM Funds ASEAN New Markets ซึ่งจัดตั้งและจัดการภายใต้กฎหมายของประเทศลักเซมเบิร์ก โดยมี Credit Agricole Asset Management Hong Kong Limited (CAAM) เป็นผู้จัดการกองทุน โดยลงทุนในสกุลเงินเหรียญสหรัฐฯ เป็นสกุลเงินหลัก
กำลังโหลดความคิดเห็น