xs
xsm
sm
md
lg

กสิกรไทยจับกระแสน้ำมันแพง ส่งK-ALENลุยหุ้นพลังงานทางเลือก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บลจ.กสิกรไทยสบช่องหากำไรพลังงานทดแทน ตามกระแสโลกร้อน ออกกองทุนสุดเก๋"K-ALEN"มูลค่าโครงการ 1,400 ล้านบาท เน้นหุ้นบริษัทที่เกี่ยวข้องกับพลังงานทดแทนผ่านหน่วยลงทุนต่างประเทศกองทุนเดียว ระบุธุรกิจพลังานทดแทนทั่วโลกจะขยายตัวได้ถึง 50% ในอีก 40 ปีข้างหน้า เตรียมเปิดขายไอพีโอล่อใจนักลงทุนถึง 12 พฤษภาคมนี้

นายนคร ตามไท ผู้บริหารฝ่ายพัฒนาธุรกิจบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทยจำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้เตรียมเสนอขาย กองทุนเปิดเค อัลเทอร์เนทีฟ เอเนอร์จี้ เอควิตี้ (K-ALEN)ครั้งแรก มูลค่าโครงการ 1,400 ล้านบาท ระหว่างวันที่ 6 – 12 พฤษภาคม 2551

ทั้งนี้ กองทุนเปิด K-ALEN จะเป็นกองทุนในรูปแบบ (feeder fund) ที่ลงทุนในกองทุนต่างประเทศเพียงกองทุนเดียว ซึ่งจะมุ่งลงทุนในหุ้นของบริษัทที่มีรายได้หลักจากธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับพลังงานทดแทนทั่วโลกผ่านหน่วยลงทุนในกองทุน Lyxor Dynamic Alternative Energy Equity Fund เพื่อเพิ่มทางเลือกในการลงทุนแก่ผู้ลงทุนที่ต้องการกระจายการลงทุนไปในต่างประเทศ และต้องการโอกาสรับผลตอบแทนสูงจากธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับพลังงานทดแทนซึ่งมีแนวโน้มการเติบโตสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยจะเสนอขาย

สำหรับกองทุนเปิดเค อัลเทอร์เนทีฟ เอเนอร์จี้ เอควิตี้ มีนโยบายที่จะนำเงินไปลงทุนในต่างประเทศไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนโดยจะเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน Lyxor Dynamic Alternative Energy Equity Fund ภายใต้การบริหารจัดการของ Lyxor Asset Management Group ผู้จัดการกองทุนที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล และอาจลงทุนหรือมีไว้ซึ่งตราสารทุน ตราสารแห่งหนี้ เงินฝาก หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารการลงทุน พร้อมนโยบายจ่ายปันผลปีละไม่เกิน 2 ครั้ง

นายนคร กล่าวอีกว่า นอกจากกองทุนเปิดเค อัลเทอร์เนทีฟ เอเนอร์จี้ เอควิตี้ จะมีความน่าสนใจในแง่โอกาสการให้ผลตอบแทนตามการเติบโตของอุตสาหกรรมพลังงานทดแทนทั่วโลก ซึ่งคาดการณ์ว่าจะขยายตัวขึ้นถึง 50% ในอีก 40 ปีข้างหน้า

นอกจากนี้ ตามข้อมูลจากการศึกษาของ The Federal German Government’s Advisory Council กลยุทธ์การลงทุนและการวัดผลตอบแทนของกองทุนดังกล่าวนับเป็นจุดแข็งอีกประการหนึ่งด้วย กล่าวคือ มีการอ้างอิงจากดัชนี World Alternative Energy Total Index in USD หรือ WAEXTD ภายใต้การคำนวณของบริหารดัชนีชั้นนำอย่าง Dow Jones Indexes

สำหรับดัชนีดังกล่าวจะอ้างอิงหุ้นของ 20 บริษัทแรกทั่วโลกที่มีรายได้หลักและมีสภาพคล่องสูงสุดในกลุ่มพลังงานทดแทน เช่น ผู้ผลิตพลังงานทดแทนจากลม ไอน้ำ ชีวมวล เป็นต้น โดยจะให้น้ำหนักของทุกบริษัทเท่าๆ กัน ทั้งยังเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนและลดความเสี่ยงด้วยการพิจารณาปรับเปลี่ยนตราสารในดัชนีทุกๆ ครึ่งปีและพิจารณาปรับน้ำหนักการลงทุนทุกไตรมาสอีกด้วย

อนึ่ง ยิ่งยง นิลเสนา รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กสิกรไทย จำกัด ให้ความเห็นเกี่ยวกับการลงทุนในพลังงานทดแทนไว้ว่า หลังจากที่ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นจนส่งผลกระทบต่อการบริโภค ต้นทุนการผลิตสินค้าในประเทศ และอัตราเงินเฟ้อที่ปรับตัวสูงขึ้น ทำให้มีการมองหาสิ่งที่แตกต่างกับการทดแทนในส่วนของการใช้น้ำมันขึ้น

ทั้งนี้ การลงทุนในกองทุนที่เกี่ยวข้องกับพัลงงานทดแทนจะถือเป็นโอกาสและทางเลือในการลงทุนใหม่ๆ จากความต้องการพลังงานสะอาดที่มาทดแทนน้ำมันที่อาจจะหมดไปในอนาคต โดยบริษัทที่มีการทำธุรกิจผลิตพลังงานทดแทน และสินค้าเกษตรที่เกี่ยวข้องกับการผลิตในส่วนนี้จะกลายเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าลงทุนในปัจจุบัน

นอกจากนี้ การที่นักลงทุนลงทุนในสินค้าประเภทนี้จะเป็นการกระจายความเสี่ยงที่ดี โดยหากในอีก 10 ปีข้างหน้าประเทศไทยมีปัญหาเศรษฐกิจ หุ้นตก ฝากเงินแล้วไม่ได้คืนเนื่องจากสถาบันการเงินล้มละลาย การมีสินทรัพย์ที่ไม่เกี่ยวข้องก็จะทำให้ความเสี่ยงในเรื่องนี้ลดลง ส่วนการเลือกนั้น หากเป็นการลงทุนผ่านกองทุนน่าจะดีกว่า เนื่องจากมีผู้เชี่ยวชาญในการพิจารณาสินค้าได้เหมาะสมมากยิ่งขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น