บลจ.เอ็มเอฟซีโชว์ผลการดำเนินงานไตรมาส 1 สุดเจ๋ง กำไรโต 85% เหตุรายได้ค่าธรรมจัดการกองทุนเพิ่มขึ้นจากปีหมูปล่อยกองทุนออกขายในตลาดร่วม 15 กอง ด้าน"พิชิต" สุดปลื้มผลงานโต เชื่อไตรมาส 2 ปรับตัวเพิ่มอีกหลังร่วมมือแบงก์ออมสินตั้งกองทุนโมเดล วายุภักษ์ ซึ่งได้รัยการตอบรับเป็นอย่างดี พร้อมส่งของขวัญให้ผู้ถือหุ้น เตรียมรับเงินปันผล 0.70 บาท/หุ้น ในวันที่ 14 พฤษาคมนี้
นายพิชิต อัคราทิตย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงการดำเนินงานประจำไตรมาสที่ 1 ประจำปี 2551ว่า งบการเงินรวมบริษัทมีกำไรสุทธิ 18.48 ล้านบาท และมีผลกำไรสุทธิต่อหุ้นอยู่ที่ 0.15 บาท เพิ่มขึ้น 0.11 ล้านบาท หรือ 0.59% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 18.37 ล้านบาท ขณะที่งบการเงินเฉพาะกิจ บริษัทมีผลกำไรสุทธิ 15.04 ล้านบาท คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.13 บาท เพิ่มขึ้น 6.88 ล้านบาท หรือ 84.31% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิเพียง 8.16 ล้านบาท โดยมี สาเหตุมาจากรายได้หลัก คือ ค่าธรรมเนียมการจัดตั้งกองทุนปรับตัวเพิ่มขึ้น เพราะปีที่ผ่านมา MFC ได้ตั้งกองทุนรวมทั้งสิ้น 15 กองทุน
สำหรับ รายได้จากงบการเงินรวมไตรมาส 1/2551 นั้น บริษัทมีรายได้จากค่าธรรมเนียมเเละบริการจำนวน 108,833,349.81 บาท ขณะเดียวกันบริษัทมีรายได้จากดอกเบี้ยเเละเงินปันผล จำนวน 8,391,703.08 บาท เเละมีรายได้อื่นอีกจำนวน 690,148.07 บาท หรือมีรายได้ทั้งหมด 117,915,200.96 บาท ขณะที่รายได้จากการดำเนินงานในไตรมาสเดียวกันในปี 2550 บริษัทมีรายได้ค่าธรรมเนียมเเละบริการเพียงเเค่ 80,168,436.74 บาท และมีรายได้ในส่วนดอกเบี้ยเเละเงินปันผล 11,240,450.49 บาท อีกทั้งมีรายได้ส่วนแบ่งกำไรในบริษัทร่วมและบริษัทย่อยอีก 5,375,203.31 บาท รวมถึงรายได้อื่นอีก 1,913,708.16 บาท โดยรวมเเล้วปี 2550 มีรายได้อยู่ที่ 98,697,798.70 บาท
ส่วน ค่าใช้จ่ายในไตรมาส1/2551 บริษัทมีอยู่ที่ 91,055,337.85 บาท ซึ่งปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา ฌโดยในไตรมาส1/2550 บริษํทมีค่าใช้จ่ายเพียง
ด้านรายขณะที่บลจ.มีรายจ่ายรวมอยู่ที่ 91,055,337.85 บาท ส่วนในปี2550 มีราย 74,444,716.14 บาท
นายพิชิต กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อวันที่ 18 เมษายนที่ผ่านมา ที่ประชุมใหญ่สามัญผู้ถือหุ้นประจำปี ครั้งที่ 34 ได้มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานประจำปี 2550 ให้แก่ผู้ถือหุ้นจำนวน 120,000,000 หุ้น ตามรายชื่อผู้ถือหุ้นในสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 25 เมษายน 2551 ในอัตราหุ้นละ 0.70 บาท โดยบริษัทจะจ่ายเงินปันผลในวันที่ 14 พฤษภาคม 2551 พร้อมทั้งอนุมัติเลือกตั้งกรรมการแทนกรรมการที่ครบกำหนดออกตามวาระจำนวน 4 คนกลับเข้าดำรงตำแหน่ง กรรมการอีกวาระ ได้แก่ นางสาวชุมพร รัตมงคล และ นายยงยุทธ ตะริโย กลับเข้าดำรงตำแหน่ง กรรมการ เช่นเดียวกับ นายอดิศร ธนนันท์นราพูล และ นายสุรเธียร จักรธรานนท์ กลับเข้าดำรงตำแหน่งกรรมการอิสระใหม่อีกวาระด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ที่ประชุมยังอนุมัติเลือกเเละเเต่งตั้ง นายประวิทย์ วิวรรณธนานุตร์ หรือ นายอธิพงศ์ อธิพงศ์สกุล หรือ นายบรรจง พิชญประสาธน์ ซึ่งเป็นผู้สอบบัญชีของบริษัท เอเอ็นเอส ออดิท จำกัด เป็นผู้สอบบัญชี ของบริษัท และกำหนดค่าสอบบัญชีของบริษัทฯ ประจำปี 2551 เป็นจำนวน 400,000 บาท รวมทั้งได้มีการพิจารณาอนุมัติค่าตอบแทนใหม่ให้กับคณะกรรมการและบุคคลที่คณะกรรมการมอบหมายให้ปฏิบัติงานในวงเงินไม่เกิน 6 ล้านบาทต่อปี จนกว่าจะที่ประชุมใหญ่สามัญผู้ถือหุ้นจะมีมติเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น
"ในปีนี้ บลจ.คาดการณ์จะตั้งกองทุนอีก 16 กองทุน โดยไตรมาสที่ 1 ได้ตั้งกองทุนไปจำนวน 6 กองทุนด้วยกัน ขณะเดียวกันบลจ.ยังมีการจัดกิจกรรมการตลาดเพื่อหารายได้ เเละการจัดกิจกรรมอื่นๆเพิ่มเติม ทำให้เราประเมินว่าผลการดำเนินไตรมาส 2/51 น่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นอีก เพราะเมื่อต้นเดือนเมษายน บริษัทได้ร่วมมือกับธนาคารออมสิน ตั้งกองทุนที่คล้ายกับวายุภักษ์ 1 ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ถือหน่วยลงทุนเป็นจำนวนมาก" นายพิชิต กล่าว