ตลาดกองทุนตราสารหนี้แข่งเดือด บลจ.แห่เข็นกองทุนตอบสนองความต้องการลูกค้า "บลจ.กรุงไทย" ออกกรุงไทยตราสารหนี้ระยะสั้น 6 เดือน 32 จับนักลงทุนเสี่ยงต่ำ เปิดขาย 18-24 มีนาคม 51 ส่วน"บลจ.ไอเอ็นจี"ปล่อยกองซีรีส์ไทย เอ็มเอ็มกองที่ 22 ไอพีโอถึง 21 มีนาคมนี้
นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทจะเปิดจำหน่ายหน่วยลงทุนของกองทุนรวมกรุงไทยตราสารหนี้ระยะสั้น 6 เดือน 32 ( KTST6M32) ในระหว่างวันที่ 18 -24 มีนาคม 2551 เพื่อรองรับลูกค้าของบริษัทที่ต้องการลงทุนต่อเนื่อง โดยกองทุนมีอายุโครงการ 6 เดือน มูลค่า 5,000 ล้านบาท มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ในประเทศ ได้แก่ ตราสารแห่งหนี้ที่มีลักษณะคล้ายเงินฝาก ตราสารแห่งหนี้ทั่วไป เงินฝากในสถาบันการเงิน แต่จะไม่ลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivative) และตราสารหนี้ที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง (Structure Note)
" กองทุนนี้เหมาะสำหรับลูกค้าที่รับความเสี่ยงได้ในระดับต่ำ และต้องการผลตอบแทนจากการลงทุนมากกว่าดอกเบี้ยเงินฝากธนาคาร โดยล่าสุดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 6 เดือนอยู่ที่ 2% ต่อปี และยอดเงินฝาก 5 ล้านบาทขึ้นไป อยู่ที่ 2.25% ต่อปี แถมต้องหักภาษี ณ ที่จ่ายอีก 15%" นายสมชัย กล่าว
ขณะเดียวกันในสัปดาห์ที่ผ่านมา เส้นอัตราผลตอบแทน (Yield Curve) ได้ปรับตัวชันขึ้นโดยอัตราผลตอบแทนในพันธบัตรอายุไม่เกิน 3 ปี ปรับตัวลดลง 1-6 bp ส่วนพันธบัตรที่มีอายุคงเหลือมากกว่า 3 ปีปรับตัวเพิ่มขึ้น 11-21 bp เนื่องมาจากนักลงทุนไม่แน่ใจในปริมาณซัพพลายใหม่ที่จะประกาศออกมาประกอบกับราคาน้ำมันดิบได้มีการปรับตัวสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ ทำให้นักลงทุนเริ่มกังวลในเรื่องของอัตราเงินเฟ้อกันอีกครั้ง นอกจากนี้นักลงทุนยังคาดว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) อาจจะไม่สามารถปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายได้มากนัก
สำหรับปัจจัยที่ต้องจับตาดูในขณะนี้คือการประชุมของ FOMC เพื่อพิจารณาอัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯ ซึ่งนักลงทุนส่วนใหญ่คาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) จะทำการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.75% ทั้งนี้ หากปรับลดจะทำให้ Fed Fund Rate อยู่ที่ 2.25% ซึ่งต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยถึง 1% คาดว่าจะส่งผลให้ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และจะเป็นการกดดันให้คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)อาจจะต้องพิจารณา ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเพื่อลดแรงกดดันเรื่องค่าเงิน
รายงานข่าวจากบลจ.ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า บริษัทได้เปิดจำหน่ายหน่วยลงทุนของกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย เอ็มเอ็ม 22 (ING MM22) ตั้งแต่วันนี้ - 21 มีนาคม 2551โดยกองทุนดังกล่าวเป็นกองทุนรวมตราสารแห่งหนี้ ประเภทรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติที่มีการกระจายการลงทุนน้อยกว่าเกณฑ์มาตรฐาน มูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท
ทั้งนี้กองทุนมีอายุโครงการ 6 เดือน มีนโยบายการลงทุนในตราสารแห่งหนี้ที่เสนอขายทั้งในและต่างประเทศ ทั้งภาครัฐบาล รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน โดยอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหรือของผู้ออกตราสารอยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้ (Investment grade) จากสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ได้รับการยอมรับจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ตราสารหนี้ที่ออก รับรอง รับอาวัล หรือ ค้ำประกันการจ่ายเงิน โดยสถาบันการเงิน รวมทั้งเงินฝาก โดยเฉลี่ยรอบปีบัญชีไม่ต่ำกว่า 90% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ทั้งนี้ตราสารส่วนใหญ่ที่กองทุนลงทุนจะมีอายุคงเหลือประมาณ 6 เดือนนับตั้งแต่วันที่ลงทุน
ขณะเดียวกันเงินลงทุนส่วนที่เหลือจะลงทุนในหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่นหรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่น ที่ไม่ขัดต่อประกาศ ก.ล.ต. และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้กองทุนยังอาจเข้าทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) ที่มีตัวเเปรเป็นอัตราเเลกเปลี่ยนเงิน ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันความเสี่ยง (hedging) เเละ/หรืออาจเข้าทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านราคาของตราสารโดยกองทุนจะไม่ลงทุนในตราสารที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง (Structured Note) หรือ Credit Linked Note
แหล่งข่าวจากบลจ.ไอเอ็นจี ระบุว่า สำหรับผลตอบแทนของกองทุนเปิดไอเอ็นจี ไทย เอ็มเอ็ม 22 บริษัทได้คาดการณ์ผลตอบแทนประมาณ 3.0-3.1%
นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทจะเปิดจำหน่ายหน่วยลงทุนของกองทุนรวมกรุงไทยตราสารหนี้ระยะสั้น 6 เดือน 32 ( KTST6M32) ในระหว่างวันที่ 18 -24 มีนาคม 2551 เพื่อรองรับลูกค้าของบริษัทที่ต้องการลงทุนต่อเนื่อง โดยกองทุนมีอายุโครงการ 6 เดือน มูลค่า 5,000 ล้านบาท มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ในประเทศ ได้แก่ ตราสารแห่งหนี้ที่มีลักษณะคล้ายเงินฝาก ตราสารแห่งหนี้ทั่วไป เงินฝากในสถาบันการเงิน แต่จะไม่ลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivative) และตราสารหนี้ที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง (Structure Note)
" กองทุนนี้เหมาะสำหรับลูกค้าที่รับความเสี่ยงได้ในระดับต่ำ และต้องการผลตอบแทนจากการลงทุนมากกว่าดอกเบี้ยเงินฝากธนาคาร โดยล่าสุดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 6 เดือนอยู่ที่ 2% ต่อปี และยอดเงินฝาก 5 ล้านบาทขึ้นไป อยู่ที่ 2.25% ต่อปี แถมต้องหักภาษี ณ ที่จ่ายอีก 15%" นายสมชัย กล่าว
ขณะเดียวกันในสัปดาห์ที่ผ่านมา เส้นอัตราผลตอบแทน (Yield Curve) ได้ปรับตัวชันขึ้นโดยอัตราผลตอบแทนในพันธบัตรอายุไม่เกิน 3 ปี ปรับตัวลดลง 1-6 bp ส่วนพันธบัตรที่มีอายุคงเหลือมากกว่า 3 ปีปรับตัวเพิ่มขึ้น 11-21 bp เนื่องมาจากนักลงทุนไม่แน่ใจในปริมาณซัพพลายใหม่ที่จะประกาศออกมาประกอบกับราคาน้ำมันดิบได้มีการปรับตัวสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ ทำให้นักลงทุนเริ่มกังวลในเรื่องของอัตราเงินเฟ้อกันอีกครั้ง นอกจากนี้นักลงทุนยังคาดว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) อาจจะไม่สามารถปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายได้มากนัก
สำหรับปัจจัยที่ต้องจับตาดูในขณะนี้คือการประชุมของ FOMC เพื่อพิจารณาอัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯ ซึ่งนักลงทุนส่วนใหญ่คาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) จะทำการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.75% ทั้งนี้ หากปรับลดจะทำให้ Fed Fund Rate อยู่ที่ 2.25% ซึ่งต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยถึง 1% คาดว่าจะส่งผลให้ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และจะเป็นการกดดันให้คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)อาจจะต้องพิจารณา ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเพื่อลดแรงกดดันเรื่องค่าเงิน
รายงานข่าวจากบลจ.ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า บริษัทได้เปิดจำหน่ายหน่วยลงทุนของกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย เอ็มเอ็ม 22 (ING MM22) ตั้งแต่วันนี้ - 21 มีนาคม 2551โดยกองทุนดังกล่าวเป็นกองทุนรวมตราสารแห่งหนี้ ประเภทรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติที่มีการกระจายการลงทุนน้อยกว่าเกณฑ์มาตรฐาน มูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท
ทั้งนี้กองทุนมีอายุโครงการ 6 เดือน มีนโยบายการลงทุนในตราสารแห่งหนี้ที่เสนอขายทั้งในและต่างประเทศ ทั้งภาครัฐบาล รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน โดยอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหรือของผู้ออกตราสารอยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้ (Investment grade) จากสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ได้รับการยอมรับจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ตราสารหนี้ที่ออก รับรอง รับอาวัล หรือ ค้ำประกันการจ่ายเงิน โดยสถาบันการเงิน รวมทั้งเงินฝาก โดยเฉลี่ยรอบปีบัญชีไม่ต่ำกว่า 90% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ทั้งนี้ตราสารส่วนใหญ่ที่กองทุนลงทุนจะมีอายุคงเหลือประมาณ 6 เดือนนับตั้งแต่วันที่ลงทุน
ขณะเดียวกันเงินลงทุนส่วนที่เหลือจะลงทุนในหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่นหรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่น ที่ไม่ขัดต่อประกาศ ก.ล.ต. และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้กองทุนยังอาจเข้าทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) ที่มีตัวเเปรเป็นอัตราเเลกเปลี่ยนเงิน ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันความเสี่ยง (hedging) เเละ/หรืออาจเข้าทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านราคาของตราสารโดยกองทุนจะไม่ลงทุนในตราสารที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง (Structured Note) หรือ Credit Linked Note
แหล่งข่าวจากบลจ.ไอเอ็นจี ระบุว่า สำหรับผลตอบแทนของกองทุนเปิดไอเอ็นจี ไทย เอ็มเอ็ม 22 บริษัทได้คาดการณ์ผลตอบแทนประมาณ 3.0-3.1%
