xs
xsm
sm
md
lg

ปรับพอร์ตอีกครั้ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คอลัมน์ คุยกับผู้จัดการกองทุน
ณัฐพัชร์ ลัคนาธรรมพิชิต
ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน บีที จำกัด
0-2686-9500


เนื่องจากราคาของตราสารทุนได้เคลื่อนไหวอยู่ในช่วงที่ดัชนี SET อยู่ระหว่าง 820-850 จุดมาร่วม 3 สัปดาห์ และไม่สามารถขึ้นผ่านแนวต้านที่ 850 จุดได้ ทำให้มีการปรับตัวลง โดยตัวชี้วัด Modified Stochastic ได้ตัดลงในวันที่ 4 มี.ค. 51 ตามกราฟที่แสดง ทำให้ตัดสินใจขายตราสารทุนที่มีอยู่35% ออกไปทั้งหมด โดยไปลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปีจากเดิม 20% เพิ่มเป็น 30% และพันธบัตรอายุ 1 ปีจากเดิม 25% เพิ่มเป็น 30% ส่วนที่เหลือเป็นสภาพคล่อง 40% โดยฝากเงินประเภทออมทรัพย์หรือลงทุนในกองทุนรวมที่สามารถซื้อ/ขายได้เป็นรายวัน รอจังหวะรอบใหม่ เปรียบเสมือน ”ราชสีห์” หลบเข้าถ้ำไปพักผ่อนก่อนจะได้ไม่ไปติดกับดักอีก กราฟฟิก

สำหรับช่วงนี้ก็รอดูว่า ”หนู” จะให้ผลตอบแทนในช่วงที่ราชสีห์หลบเข้าถ้ำได้มากน้อยแค่ไหน โดยคาดว่าหลังจากรัฐบาลได้ยกเลิกมาตรการสำรองเงิน 30% ไปแล้ว จะทำให้ต่างชาติหันมาสนใจลงทุนในตลาดตราสารหนี้โดยเฉพาะพันธบัตรของรัฐบาลไทยได้บ้าง เพราะยังคงมีส่วนต่างของอัตราผลตอบแทนที่มากกว่าพันธบัตรของสหรัฐฯ (US Treasury) อยู่กว่า 1% ในพันธบัตรอายุ 5 ปี รวมทั้งในวันที่ 18 มี.ค. 51 จะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของสหรัฐ (FOMC) ที่คาดว่าจะมีการประกาศลดอัตราดอกเบี้ย FED Funds ลงไปอีก 0.50% ไปอยู่ที่ระดับ 2.50% ทำให้มีส่วนต่างของพันธบัตรมากยิ่งขึ้นเป็นแรงดึงดูดให้นักลงทุนสนใจที่จะเข้ามาลงทุนได้มากขึ้น หรือต่างชาติอาจจะขายหุ้นในไทยแล้วพักเงินไว้ในพันธบัตรชั่วคราวด้วยก็ได้ จากเดิมที่ทำไม่ได้

สำหรับผลตอบแทนในช่วงที่ 4 แม้จะขาดทุนในส่วนของตราสารทุนเล็กน้อยจากราคาหุ้นที่ลดลง แต่ก็ได้กำไรจากพันธบัตรอายุ 5 ปีมากพอที่ทำให้ได้ผลตอบแทนในช่วงระยะเวลา 5 วันนี้ไม่ติดลบ และมีผลตอบแทนสะสมขยับขึ้นมาเป็น 5.05% ณ วันที่ 4 มี.ค. 51 ก่อนการปรับพอร์ตในครั้งนี้ ตามตารางที่แสดง


บทความนี้เป็นความเห็นส่วนตัว เพื่อเป็นตัวอย่างด้วยการใช้ข้อมูลจริงในการจัดสัดส่วนของพอร์ตและหาจังหวะในการปรับพอร์ตการลงทุน ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทฯ แต่อย่างใดทั้งสิ้น

“การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน”

“ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวมมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต”
กำลังโหลดความคิดเห็น