xs
xsm
sm
md
lg

นครหลวงฯเข็นกองบอนด์กิมจิเอวายเอฟออกรุ่น2รับความต้องการล้น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


บลจ.นครหลวงไทยเปิดขายกองทุนพันธบัตรรัฐบาลเกาหลีใต้ "กองทุนเปิดเอสซีไอ ฟิกซ์ โกรท" มูลค่า 1,700 ล้านบาท อายุ 1 ปี วันนี้(14มี.ค.) ผู้บริหารระบุหากได้รับการตอบรับดีจะทยอยออกมาแบบซีรี่ส์ พร้อมจ่อออกกองทุนที่เน้นนลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลนิวซีแลนด์ปลายเดือนนี้ เมินลงทุนพันธบัตรรัฐบาลออสเตรเลีย เหตุอัตราแลกเปลี่ยนผันผวนกว่า ด้าน"เอวายเอฟ"ปิด IPO กองพันธบัตรเกาหลี "AYF12MPLS1" พร้อมเปิดขายกองใหม่ 18-27 มีนาคมนี้

นายนที ดำรงค์กิจการ ผู้จัดการกองทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) นครหลวงไทย จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเปิดเสนอขายกองทุนรวมตราสารหนี้จำนวน 1 กองทุน โดยจะเน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลเกาหลีใต้ ได้แก่ กองทุนเปิดเอสซีไอ ฟิกซ์ โกรท (SCI Fixed Growth Fund) มูลค่าโครงการ 1,700 ล้านบาท และมีอายุโครงการประมาณ 1 ปี ซึ่งจะเปิดเสนอหน่วยลงทุนขายครั้งแรก (IPO) และครั้งเดียวระหว่างวันที่ 14 – 20 มีนาคม 2551 และมีมูลค่าเงินลงทุนขั้นต่ำ 10,000 บาท เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ให้กับนักลงทุน และสามารถให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าการลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ในประเทศ

ทั้งนี้ พันธบัตรรัฐบาลเกาหลีใต้ถือได้ว่าเป็นกองทุนที่เข้ามาแทนที่กองทุนตราสารหนี้สถาบันการเงินของยุโรป (Euro commercial Paper : ECP) ที่เริ่มลดความนิยมลงไป คาดว่าจะสามารถให้ผลตอบแทนประมาณ 3.3% โดยจะมีการจ่ายเงินปันผลไตรมาสละ 1 ครั้ง ขณะเดียวกัน นอกจากนี้ จะประเมินผลตอบรับจากการระดมทุนในครั้งนี้ หากได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากนักลงทุน บริษัทมีแผนที่จะทยอยออกกองทุนดังกล่าวในลักษณะของซีรี่ส์ด้วย

โดยกองทุน SCI Fixed Growth Fund มีนโยบายเน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลเกาหลีใต้ไม่เกิน 79% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (NAV) และส่วนที่เหลือจะนำไปลงทุนในตราสารหนี้ในประเทศ ทั้งของภาครัฐและเอกชน ซึ่งมีอันดับความน่าเชื่อถือ (Credit Rating) อยู่ในระดับที่สามารถลงทุนได้ (Investment Grade) และกองทุนจะทำการป้องกันความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน

นายนที กล่าวว่า บริษัทยังมีแผนเตรียมออกกองทุนตราสารหนี้อีก 1 กองทุน โดยจะมีนโยบายเน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลนิวซีแลนด์ไม่เกิน 79% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ และส่วนที่เหลือจะนำไปลงทุนในตราสารหนี้ในประเทศ ทั้งของภาครัฐและเอกชน ซึ่งมีอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ในระดับที่สามารถลงทุนได้ มูลค่าโครงการ 1,700 ล้านบาท และมีอายุโครงการประมาณ 1 ปี คาดว่าจะสามารถเปิดเสนอขายหน่วยลงทุนได้ประมาณปลายเดือนมีนาคม 2551

ส่วนสาเหตุที่ไม่สนใจไปลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลออสเตรเลีย เนื่องจากอัตราแลกเปลี่ยนของนิวซีแลนด์มีความผันผวนน้อยกว่าออสเตรเลีย ขณะที่ภาวะโดยรวมทางเศรษฐกิจอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกัน

สำหรับการประกาศขยายเวลาการยกเว้นการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการรับซื้อคืน (ฺBack end fee) และค่าธรรมเนียมการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุน กรณีเป็นกองทุนต้นทาง (Switch out fee) ของกองทุนเปิดแมกซ์บาลานซ์ (Max BL) จากเดิมในช่วงระยะเวลาระหว่างวันที่ 25 – 26 สิงหาคม 2551 เป็นช่วงระยะเวลาระหว่างวันที่ 25 – 27 สิงหาคม 2551 นั้น เพื่อเป็นการสร้างผลตอบแทนให้กับลูกค้าสูงขึ้นจากเดิม

ส่วนกองทุน Max BL มีนโยบายเน้นลงทุนในเงินฝาก ตราสารแห่งหนี้ ตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุน ตราสารแห่งทุน และ/หรือทรัพย์สินอื่นตามที่ประกาศกำหนดในสัดส่วนตั้งแต่ 0-100% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ โดยจะปรับเปลี่ยนการลงทุนอย่างเหมาะสมภายใต้สภาวการณ์ทางเศรษฐกิจในขณะที่ลงทุนหรือมีไว้ซึ่งตราสารดังกล่าว เพื่อให้ผู้ถือหน่วยได้รับผลตอบแทนที่ดีและเหมาะสม ทั้งนี้ กองทุนจะไม่ลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivative) และตราสารที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง (Structured Note)

ขณะที่สัดส่วนการลงทุน สิ้นสุด ณ วันที่ วันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2551 มีดังนี้ ลงทุนในตราสารภาครัฐไทยและตราสารภาครัฐต่างประเทศ 48.33% ลงทุนในตราสารที่ธนาคารที่มีกฎหมายเฉพาะจัดตั้งขึ้น ธนาคารพาณิชย์ หรือบริษัทเงินทุน เป็นผู้ออก ผู้สั่งจ่าย ผู้รับรอง ผู้รับอาวัล ผู้สลักหลัง หรือผู้ค้ำประกัน 29.52% และลงทุนในตราสารที่มีอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้ 17.96%

ทั้งนี้ จากการรายงานของ LIPPER ณ วันที่ 31 มกราคม 2551 กองทุนดังกล่าวสามารถให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 0.32% ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 0.66% ผลตอบแทนย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 0.70% และให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ 8.55%

เอวายเอฟปิด IPO พันธบัตรเกาหลี

นายฉัตรพี ตันติเฉลิม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนอยุธยา จำกัด (เอวายเอฟ) เปิดเผยว่า เอวายเอฟ ปรับอัตราผลตอบแทนอัตโนมัติเพิ่มขึ้น สำหรับผู้ลงทุนที่ซื้อหน่วยลงทุนของกองทุนเปิดอยุธยาตราสารหนี้พลัส 12M1 (AYF12MPLS1) ที่ปิดการเสนอขายไปเมื่อวันที่ 10 มีนาคมที่ผ่านมา โดยอัตราขายคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติที่จะได้รับจะเพิ่มขึ้น เป็น 3.40% ต่อปี (หลังหักค่าใช้จ่ายสุทธิ 0.40%) ซึ่งก่อนหน้านี้ เอวายเอฟได้แจ้งอัตราขายคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติของกองทุนนี้ในช่วงของการเสนอขาย (IPO) อยู่ที่ 3.25% ต่อปี ซึ่งอัตราที่แจ้งในช่วง IPO ดังกล่าว ทางเอวายเอฟคำนึงถึงความผันผวนของ ตลาดและได้กำหนดอัตราที่มีความเป็นไปได้มากที่สุดที่ผู้ถือหน่วยจะได้รับในช่วงเวลานั้น

สำหรับกองทุน AYF12MPLS1 เมื่อทางเอวายเอฟ ดำเนินการลงทุน สภาพตลาดดี ตราสารที่ลงทุนให้ผลตอบแทน ที่สูงกว่าที่คาดการณ์ เอวายเอฟจึงได้ปรับเพิ่มอัตราขายคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติเป็น 3.40% ต่อปี ซึ่งเป็นผลตอบแทนที่น่าจะ เป็นที่พึงพอใจอย่างมากสำหรับผู้ถือหน่วย

พร้อมกันนี้ เอวายเอฟได้เตรียมพร้อมที่จะเสนอขายกองทุนเปิดอยุธยาตราสารหนี้พลัส 12M2 (AYF12MPLS2) ที่จะ ลงทุนในพันธบัตรเกาหลีใต้ในลักษณะเดียวกันกับ AYF12MPLS1 ในวันที่ 18-27 มีนาคม 2551 นี้ ซึ่งคาดว่าจะได้รับอัตราการขายคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติอยู่ในช่วงระหว่าง 3.10% - 3.40% ต่อปี (หลังหักค่าใช้จ่ายประมาณ 0.50%)
กำลังโหลดความคิดเห็น