กองทุนน้ำ 2 บลจ.ไหลไม่ขึ้น ติดลบตามดัชนีชี้วัด เหตุตลาดหุ้นทั่วโลกอ่วมพร้อมใจติดลบระนาวในช่วงที่ผ่านมา ชี้การลงทุนในกองประเภทนี้ต้องดูในระยะกลางถึงยาว จะให้ผลตอบแทนที่ดีได้ "จุมพล"เผยอนาคตการบริโภคน้ำจะเพิ่มมากขึ้น จากการขยายตัวของเศรษฐกิจในภูมิภาคต่างๆ ทำให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับน้ำเติบโตมากขึ้นในอนาคตได้
นายจุมพล สายมาลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ผลการดำเนินงานกองทุนน้ำของบริษัทในช่วงที่ผ่านมาประมาณ 6 เดือนได้รับผลกระทบจากภาพรวมของตลาดหุ้นทั่วโลกที่มีการปรับตัวลดลง เนื่องจากกองทุนน้ำที่เราจัดตั้งขึ้นจะเข้าไปลงทุนผ่านกองทุน Claymore S&P Global Water Index ETF ที่ครอบคลุมหุ้นของบริษัทที่เกี่ยวข้องกับ “น้ำ” 50 บริษัท ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ประเทศที่พัฒนาแล้วทั่วโลก
ทั้งนี้ เชื่อว่าการลงทุนผ่านกองทุนี้น่าจะเป็นการกระจายความเสี่ยงในการลงทุนที่ดีประเภทหนึ่ง เนื่องจากบริษัทจดทะเบียนที่ทำธุรกิจเกี่ยวเนื่องและมีรายได้จากน้ำที่อยู่ใน ดัชนี S&P Global Water Index นั้นมีการกระจายตัวไปในธุรกิจหลายประเภท ทั้งธุรกิจการจัดหาน้ำ การทำน้ำประปา การบำบัดน้ำเสีย การผลิตน้ำ และระบบลำเลียงน้ำ และ ธุรกิจวัสดุและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับน้ำ เช่น ธุรกิจผลิตสารเคมีบำบัดน้ำเสีย อุปกรณ์บำบัดน้ำเสีย เครื่องสูบน้ำ ท่อลำเลียงน้ำ ตลอดจนมาตรวัดน้ำ
"กองทุนประเภทนี้คงไม่ใช่เซคเตอร์ฟันด์ และน่าจะจัดอยู่ในกลุ่มคอมมูนิตี้ได้ ซึ่งการลงทุนจะมีความหลากหลายและครอบคลุมในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับน้ำ ทั้งในเรื่องของ การจัดน้ำ การหาน้ำ รวมถึงเคมีภัณฑ์ที่ใช้ในบำบัดน้ำเสียด้วย"นายจุมพลกล่าว
นายจุมพล กล่าวอีกว่า การลงทุนในกองทุนนี้เชื่อว่าจะให้ผลดีในระยะกลาง และยาว เนื่องจากน้ำยังเป็นที่ต้องการของประชากรโลก ซึ่งความต้องการนี้จะมีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่ปริมาณน้ำจืด หรือน้ำบริสุทธิ์ที่มีอยู่อาจไม่เพียงพอต่อความต้องการในอนาคต โดยการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียช่วงที่ผ่านมา ทั้งในจีน และอินเดียพบว่ามีการบริโภคน้ำเพิ่มมากขึ้นด้วย และการเติบโตนี้คาดว่าจะทำให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับน้ำน่าจะมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นได้
ด้าน นายเพิ่มพล ประเสริฐล้ำ กรรมการผู้จัดการบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) พรีมาเวสท์ จำกัด เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานของกองทุนไดนามิกซ์ วอเตอร์ฟันด์ว่า หลังจากมีการจัดตั้งกองทุนในเดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา กองทุนนี้ได้รับผลกระทบจากสภาวะตลาดขาลงเป็นผลให้การดำเนินงานในช่วงที่ผ่านมาไม่ดีมากนัก ซึ่งกองทุนนี้ถือเป็นกองทุนที่ลงทุนในธุรกิจเฉพาะ หรืออาจเรียกว่าเป็นเซคเตอร์ฟันด์เลยก็ได้ทำให้การลงทุนมีความผันผวนและมีความเสี่ยงสูงกว่าการลงทุนหุ้นธรรมดา แต่หากดูผลการดำเนินงานเมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานชี้วัดแล้วถือว่ายังอยู่ในระดับที่ดี
"ผลกระทบจากตลาดโลกทำให้เอ็นเอวีของกองทุนนี้ลดลง แต่ผลการดำเนินงานหากเทียบกับอินเด็กซ์แล้วน่าจะยังดีอยู่ ซึ่งการลงทุนในเซคเตอร์ฟันด์มักจะมีความเสี่ยงสูงอยู่แล้ว โดยที่ผ่านมาเรามองว่าธุรกิจนี้เคยมีผลการดำเนินงานที่ดี แต่ช่วงที่เราไปลงทุนตลาดมันปรับตัวอยู่ในช่วงขาลงอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้ผลการดำเนินงานไม่ดีมากนัก"นายเพิ่มพลกล่าว
ทั้งนี้ หากให้มองแน้วโน้มของธุรกิจประเภทนี้คงจะต้องดูในเรื่องของปัจจัยลบจากตลาดโลกเข้ามาพิจารณา โดยการลงทุนของบริษัทผู้จัดการกองทุนที่ไปลงทุนจะมีโมเดลในการลงทุนอยู่แล้ว ซึ่งหากภาวะตลาดยังอยู่ในช่วงขาลงแบบนี้ ผู้จัดการกองทุนคงยังไม่มีการลงทุนเพิ่มหรือให้สัดส่วนในเรื่องนี้น้อยลง แต่เมื่อแนวโน้มของตลาดมีการปรับตัวดีขึ้นเมื่อไร ผู้จัดการกองทุนจะเป็นผู้ให้น้ำหนักการลงทุนเพิ่มขึ้นเอง
สำหรับการลงทุนในกองทุนประเภทนี้นักลงทุนควรจะมองการลงทุนในระยะยาวเป็นหลัก เนื่องจากเป็นกองทุนที่มีความผันผวน แต่ธุรกิจน้ำในช่วงที่ผ่านมาถือว่าเป็นธุรกิจที่น่าสนใจ และมีการปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นายเพิ่มพล กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาคนไทยส่วนใหญ่ไม่ค่อยให้ความสนใจกับกองทุนนี้มากนัก เนื่องจากยังไม่ค่อยรู้จักธุรกิจประเภทนี้ แต่ทางบริษัทได้มีการชี้แจ้งแก่นักลงทุนก่อนที่จะตั้งกองทุนแล้วว่าการลงทุนในกองนี้เป็นรูปแบบไหน และมีความเสี่ยงมากน้อยขนาดไหน เนื่องจากเป็นกองทุนที่ลงทุนในธุรกิจเฉพาะจึงมีความเสี่ยงมากว่าการลงทุนในกองทุนประเภทอื่น แต่เชื่อว่าจะเป็นกองทุนที่ช่วยกระจายการลงทุนได้เช่นกัน หากนักลงทุนมีการลงทุนในส่วนอื่นอยู่แล้ว
นายจุมพล สายมาลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ผลการดำเนินงานกองทุนน้ำของบริษัทในช่วงที่ผ่านมาประมาณ 6 เดือนได้รับผลกระทบจากภาพรวมของตลาดหุ้นทั่วโลกที่มีการปรับตัวลดลง เนื่องจากกองทุนน้ำที่เราจัดตั้งขึ้นจะเข้าไปลงทุนผ่านกองทุน Claymore S&P Global Water Index ETF ที่ครอบคลุมหุ้นของบริษัทที่เกี่ยวข้องกับ “น้ำ” 50 บริษัท ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ประเทศที่พัฒนาแล้วทั่วโลก
ทั้งนี้ เชื่อว่าการลงทุนผ่านกองทุนี้น่าจะเป็นการกระจายความเสี่ยงในการลงทุนที่ดีประเภทหนึ่ง เนื่องจากบริษัทจดทะเบียนที่ทำธุรกิจเกี่ยวเนื่องและมีรายได้จากน้ำที่อยู่ใน ดัชนี S&P Global Water Index นั้นมีการกระจายตัวไปในธุรกิจหลายประเภท ทั้งธุรกิจการจัดหาน้ำ การทำน้ำประปา การบำบัดน้ำเสีย การผลิตน้ำ และระบบลำเลียงน้ำ และ ธุรกิจวัสดุและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับน้ำ เช่น ธุรกิจผลิตสารเคมีบำบัดน้ำเสีย อุปกรณ์บำบัดน้ำเสีย เครื่องสูบน้ำ ท่อลำเลียงน้ำ ตลอดจนมาตรวัดน้ำ
"กองทุนประเภทนี้คงไม่ใช่เซคเตอร์ฟันด์ และน่าจะจัดอยู่ในกลุ่มคอมมูนิตี้ได้ ซึ่งการลงทุนจะมีความหลากหลายและครอบคลุมในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับน้ำ ทั้งในเรื่องของ การจัดน้ำ การหาน้ำ รวมถึงเคมีภัณฑ์ที่ใช้ในบำบัดน้ำเสียด้วย"นายจุมพลกล่าว
นายจุมพล กล่าวอีกว่า การลงทุนในกองทุนนี้เชื่อว่าจะให้ผลดีในระยะกลาง และยาว เนื่องจากน้ำยังเป็นที่ต้องการของประชากรโลก ซึ่งความต้องการนี้จะมีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่ปริมาณน้ำจืด หรือน้ำบริสุทธิ์ที่มีอยู่อาจไม่เพียงพอต่อความต้องการในอนาคต โดยการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียช่วงที่ผ่านมา ทั้งในจีน และอินเดียพบว่ามีการบริโภคน้ำเพิ่มมากขึ้นด้วย และการเติบโตนี้คาดว่าจะทำให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับน้ำน่าจะมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นได้
ด้าน นายเพิ่มพล ประเสริฐล้ำ กรรมการผู้จัดการบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) พรีมาเวสท์ จำกัด เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานของกองทุนไดนามิกซ์ วอเตอร์ฟันด์ว่า หลังจากมีการจัดตั้งกองทุนในเดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา กองทุนนี้ได้รับผลกระทบจากสภาวะตลาดขาลงเป็นผลให้การดำเนินงานในช่วงที่ผ่านมาไม่ดีมากนัก ซึ่งกองทุนนี้ถือเป็นกองทุนที่ลงทุนในธุรกิจเฉพาะ หรืออาจเรียกว่าเป็นเซคเตอร์ฟันด์เลยก็ได้ทำให้การลงทุนมีความผันผวนและมีความเสี่ยงสูงกว่าการลงทุนหุ้นธรรมดา แต่หากดูผลการดำเนินงานเมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานชี้วัดแล้วถือว่ายังอยู่ในระดับที่ดี
"ผลกระทบจากตลาดโลกทำให้เอ็นเอวีของกองทุนนี้ลดลง แต่ผลการดำเนินงานหากเทียบกับอินเด็กซ์แล้วน่าจะยังดีอยู่ ซึ่งการลงทุนในเซคเตอร์ฟันด์มักจะมีความเสี่ยงสูงอยู่แล้ว โดยที่ผ่านมาเรามองว่าธุรกิจนี้เคยมีผลการดำเนินงานที่ดี แต่ช่วงที่เราไปลงทุนตลาดมันปรับตัวอยู่ในช่วงขาลงอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้ผลการดำเนินงานไม่ดีมากนัก"นายเพิ่มพลกล่าว
ทั้งนี้ หากให้มองแน้วโน้มของธุรกิจประเภทนี้คงจะต้องดูในเรื่องของปัจจัยลบจากตลาดโลกเข้ามาพิจารณา โดยการลงทุนของบริษัทผู้จัดการกองทุนที่ไปลงทุนจะมีโมเดลในการลงทุนอยู่แล้ว ซึ่งหากภาวะตลาดยังอยู่ในช่วงขาลงแบบนี้ ผู้จัดการกองทุนคงยังไม่มีการลงทุนเพิ่มหรือให้สัดส่วนในเรื่องนี้น้อยลง แต่เมื่อแนวโน้มของตลาดมีการปรับตัวดีขึ้นเมื่อไร ผู้จัดการกองทุนจะเป็นผู้ให้น้ำหนักการลงทุนเพิ่มขึ้นเอง
สำหรับการลงทุนในกองทุนประเภทนี้นักลงทุนควรจะมองการลงทุนในระยะยาวเป็นหลัก เนื่องจากเป็นกองทุนที่มีความผันผวน แต่ธุรกิจน้ำในช่วงที่ผ่านมาถือว่าเป็นธุรกิจที่น่าสนใจ และมีการปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นายเพิ่มพล กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาคนไทยส่วนใหญ่ไม่ค่อยให้ความสนใจกับกองทุนนี้มากนัก เนื่องจากยังไม่ค่อยรู้จักธุรกิจประเภทนี้ แต่ทางบริษัทได้มีการชี้แจ้งแก่นักลงทุนก่อนที่จะตั้งกองทุนแล้วว่าการลงทุนในกองนี้เป็นรูปแบบไหน และมีความเสี่ยงมากน้อยขนาดไหน เนื่องจากเป็นกองทุนที่ลงทุนในธุรกิจเฉพาะจึงมีความเสี่ยงมากว่าการลงทุนในกองทุนประเภทอื่น แต่เชื่อว่าจะเป็นกองทุนที่ช่วยกระจายการลงทุนได้เช่นกัน หากนักลงทุนมีการลงทุนในส่วนอื่นอยู่แล้ว