สังคมกองทุนรวม “ผู้จัดการรายวัน” ฉบับประจำวันที่ 28 ก.พ. 2551
หากไม่เริ่มกันที่ประเด็นดังประจำวัน การกลับมาซบอกแผ่นดินแม่ของอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร คงจะทำให้เนื้อหาวันนี้ดูจืดไปเลย ขั้นตอนไปคือการพิสูจน์ตัวเองต่อศาลในเรื่องคดีความต่างๆ บทสรุปจะเป็นอย่างไร ต้องคอยติดตามกันต่อไป
วิวรรณ ธาราหิรัญโชติ ผู้บริหารใหญ่แห่งค่ายรวงข้าว ให้ทัศนะกรณีกนง.ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้เท่าเดิม ว่า ไม่มีผลต่อดัชนีตลาดหุ้นไทย แต่สิ่งสำคัญที่นักลงทุนควรติดตามอย่างใกล้ชิดนั่นคือ สถานการณ์ทางการเมือง จะมีผลกระทบต่อตลาดหุ้นมากน้อยแค่ไหนนี่ซิ เป็นเรื่องที่มองข้ามไปไม่ได้เลย
อยู่ดีๆก็มีกองทุนใหม่โผล่ขึ้นมานำเสนอต่อผู้ลงทุน ไม่ใช่ใครที่ไหน บลจ.นครหลวงไทย นั่นเอง ล่าสุดออกกองทุนรวม เอส ซี ไอ โกลบอล เฮลธ์แคร์ ลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมเฮลธ์แคร์ในต่างประเทศ มูลค่า 1,500 บาท จองซื้อขั้นต่ำ 2,000 บาทขึ้นไป ผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ ธนาคารนครหลวงไทย ทุกสาขาตั้งแต่วันนี้ – วันที่ 10 มีนาคมนี้
ประกาศผลการดำเนินงานของกองทุนที่ขยายตัวแบบไม่มีวันหยุดนิ่ง กองทุนรวมวายุภักษ์1 ที่มูลค่าเอ็นเอวีเติบโตเพิ่มขึ้นจากปี2549 ถึงประมาณ 4,700 ล้านบาท “ต้นกล้า”ได้มีโอกาสผู้คุยกับหนึ่งในผู้บริหารกองทุน ที่ได้ฝากคำแนะนำมาว่า กองทุนนี้รัฐบาลค้ำประกันหน่วยลงทุนที่ 10 บาท ดังนั้นไม่มีทางเลยที่เมื่อถึงเวลาสิ้นอายุโครงการ ราคาหน่วยลงทุนจะต่ำกว่านี้ได้ เป็นอย่างนี้แล้วนักลงทุนที่ชื่นชอบความมั่นคงก็ไม่ควรมองข้าม เพราะนอกจากจะได้ราคาหน่วยลงทุนที่สูงขึ้นในอนาคต กองทุนยังมีการจ่ายปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยอีก ล่าสุดปี 50 จ่ายปันผลถึง 2 ครั้ง แบบนี้ ปั่นต้นฉบับเสร็จ “ต้นกล้า”ขอไปเบิกเงินจากแบงก์ เพื่อไปหาซื้อสะสมเก็บไว้ในกองมรดกด้วยอีกราย
เมื่อช่วงวันอังคารที่ผ่านมา ได้มีโอกาสไปพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญด้านทองคำ จึงพบว่า ราคาทองช่วงนี้มีความผันผวนอย่างยิ่ง เพราะเพื่อนบ้านสุดทีรักอย่างจีน ได้มีการเปิดการซื้อขายล่วงหน้าไปเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมาทำให้การคาดการณ์ราคาทองคำในสมัยนี้เป็นไปได้ยากขึ้น
นอกจากนี้พวกเฮดจ์ฟันด์ตัวแสบก็โยกเงินลงทุนจากอัตราแลกเปลี่ยร และการลงทุนในน้ำมันมากระหน่ำทองคำกันเต็มเหนี่ยว ....งานนี้ต้องบอกว่าราคาทองช่วงนี้ที่สูงขึ้นนั้นโอเวอร์เกินความจริง แต่สิ่งหนึ่งมี่เป็นสัจธรรมของทองคำนั่นคือ “ขึ้นแล้วลงยาก” เรื่องนี้ต้องยอมรับ
ณัฐพล ชวลิตชีวิน กรรมการผู้จัดการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย ออกมาประกาศแล้วว่า 26 มีนาคมนี้ จะมีการจัดงานThaiBMA Best Bond Awards 2007ขึ้นหลังจากที่ได้จัดงานดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 แล้ว ทั้งนี้ไม่เพียงก่อให้เกิดแรงผลักดันให้ภาคธุรกิจสถาบันการเงินที่มีการทำธุรกรรมเกี่ยวข้องกับตลาดตราสารหนี้ของไทย มีการตื่นตัว มีพัฒนาการในเชิงสร้างสรรค์เกี่ยวกับธุรกรรมตราสารหนี้กันมากขึ้นแล้ว ยังทำให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องให้การยอมรับในรางวัล และเห็นว่าเป็นรางวัลที่มีคุณค่า ทำให้ในระยะปี 2 ปีที่ผ่านมา แต่ละบริษัทมีการแอบลุ้นกันอยู่ในใจว่าใครจะได้รับรางวัลบ้าง ซึ่งผลในวันนี้จะออกาเป็นอย่างไร “ต้นกล้า”ขอชู 3 นิ้วเช่นเดียวกับลูกเสือสามัญ เพื่อขอปฏิญาณว่าจะเก็บบรรยกาศ และผู้ที่ได้รับรางวัลต่างๆกับมาเล่าให้ฟังแน่นอน
ปิดท้ายฉบับนี้กันด้วย ประเทศเพื่อนบ้านอย่างเวียดนาม โดยจังหวัดเบนเตรทางตอนใต้ของเวียดนามประกาศปิดรับการลงทุนจากต่างชาติ เนื่องจากประสบปัญหาขาดแคลนที่ดิน ซึ่ง ฮุนห์ ฟาน เตร เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ จังหวัดเบนเตรระบุว่า การขาดแคลนน้ำดิบ และพื้นที่ที่คับแคบทำให้จังหวันเบนเตรไม่สามารถรองรับการลงทุนจากนักลงทุนต่างชาติได้ เพราะจังหวัดมีเนื้อที่จำกัดทำให้จำเป็นต้องปฏิเสธการโครงการลงทุน ส่วนเมืองไทยยังมีที่อีกมากมาย รอเพียงแต่รัฐบาลยกเลิกมาตรากันสำรอง 30% เท่านั้น ฝรั่งขาว-ฝรั่งเทศก็จะได้เข้ามามีส่วนร่วมเป็นเจ้าของพื้นดินเดียวกับเราแล้ว....ต้นกล้า
หากไม่เริ่มกันที่ประเด็นดังประจำวัน การกลับมาซบอกแผ่นดินแม่ของอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร คงจะทำให้เนื้อหาวันนี้ดูจืดไปเลย ขั้นตอนไปคือการพิสูจน์ตัวเองต่อศาลในเรื่องคดีความต่างๆ บทสรุปจะเป็นอย่างไร ต้องคอยติดตามกันต่อไป
วิวรรณ ธาราหิรัญโชติ ผู้บริหารใหญ่แห่งค่ายรวงข้าว ให้ทัศนะกรณีกนง.ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้เท่าเดิม ว่า ไม่มีผลต่อดัชนีตลาดหุ้นไทย แต่สิ่งสำคัญที่นักลงทุนควรติดตามอย่างใกล้ชิดนั่นคือ สถานการณ์ทางการเมือง จะมีผลกระทบต่อตลาดหุ้นมากน้อยแค่ไหนนี่ซิ เป็นเรื่องที่มองข้ามไปไม่ได้เลย
อยู่ดีๆก็มีกองทุนใหม่โผล่ขึ้นมานำเสนอต่อผู้ลงทุน ไม่ใช่ใครที่ไหน บลจ.นครหลวงไทย นั่นเอง ล่าสุดออกกองทุนรวม เอส ซี ไอ โกลบอล เฮลธ์แคร์ ลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมเฮลธ์แคร์ในต่างประเทศ มูลค่า 1,500 บาท จองซื้อขั้นต่ำ 2,000 บาทขึ้นไป ผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ ธนาคารนครหลวงไทย ทุกสาขาตั้งแต่วันนี้ – วันที่ 10 มีนาคมนี้
ประกาศผลการดำเนินงานของกองทุนที่ขยายตัวแบบไม่มีวันหยุดนิ่ง กองทุนรวมวายุภักษ์1 ที่มูลค่าเอ็นเอวีเติบโตเพิ่มขึ้นจากปี2549 ถึงประมาณ 4,700 ล้านบาท “ต้นกล้า”ได้มีโอกาสผู้คุยกับหนึ่งในผู้บริหารกองทุน ที่ได้ฝากคำแนะนำมาว่า กองทุนนี้รัฐบาลค้ำประกันหน่วยลงทุนที่ 10 บาท ดังนั้นไม่มีทางเลยที่เมื่อถึงเวลาสิ้นอายุโครงการ ราคาหน่วยลงทุนจะต่ำกว่านี้ได้ เป็นอย่างนี้แล้วนักลงทุนที่ชื่นชอบความมั่นคงก็ไม่ควรมองข้าม เพราะนอกจากจะได้ราคาหน่วยลงทุนที่สูงขึ้นในอนาคต กองทุนยังมีการจ่ายปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยอีก ล่าสุดปี 50 จ่ายปันผลถึง 2 ครั้ง แบบนี้ ปั่นต้นฉบับเสร็จ “ต้นกล้า”ขอไปเบิกเงินจากแบงก์ เพื่อไปหาซื้อสะสมเก็บไว้ในกองมรดกด้วยอีกราย
เมื่อช่วงวันอังคารที่ผ่านมา ได้มีโอกาสไปพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญด้านทองคำ จึงพบว่า ราคาทองช่วงนี้มีความผันผวนอย่างยิ่ง เพราะเพื่อนบ้านสุดทีรักอย่างจีน ได้มีการเปิดการซื้อขายล่วงหน้าไปเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมาทำให้การคาดการณ์ราคาทองคำในสมัยนี้เป็นไปได้ยากขึ้น
นอกจากนี้พวกเฮดจ์ฟันด์ตัวแสบก็โยกเงินลงทุนจากอัตราแลกเปลี่ยร และการลงทุนในน้ำมันมากระหน่ำทองคำกันเต็มเหนี่ยว ....งานนี้ต้องบอกว่าราคาทองช่วงนี้ที่สูงขึ้นนั้นโอเวอร์เกินความจริง แต่สิ่งหนึ่งมี่เป็นสัจธรรมของทองคำนั่นคือ “ขึ้นแล้วลงยาก” เรื่องนี้ต้องยอมรับ
ณัฐพล ชวลิตชีวิน กรรมการผู้จัดการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย ออกมาประกาศแล้วว่า 26 มีนาคมนี้ จะมีการจัดงานThaiBMA Best Bond Awards 2007ขึ้นหลังจากที่ได้จัดงานดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 แล้ว ทั้งนี้ไม่เพียงก่อให้เกิดแรงผลักดันให้ภาคธุรกิจสถาบันการเงินที่มีการทำธุรกรรมเกี่ยวข้องกับตลาดตราสารหนี้ของไทย มีการตื่นตัว มีพัฒนาการในเชิงสร้างสรรค์เกี่ยวกับธุรกรรมตราสารหนี้กันมากขึ้นแล้ว ยังทำให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องให้การยอมรับในรางวัล และเห็นว่าเป็นรางวัลที่มีคุณค่า ทำให้ในระยะปี 2 ปีที่ผ่านมา แต่ละบริษัทมีการแอบลุ้นกันอยู่ในใจว่าใครจะได้รับรางวัลบ้าง ซึ่งผลในวันนี้จะออกาเป็นอย่างไร “ต้นกล้า”ขอชู 3 นิ้วเช่นเดียวกับลูกเสือสามัญ เพื่อขอปฏิญาณว่าจะเก็บบรรยกาศ และผู้ที่ได้รับรางวัลต่างๆกับมาเล่าให้ฟังแน่นอน
ปิดท้ายฉบับนี้กันด้วย ประเทศเพื่อนบ้านอย่างเวียดนาม โดยจังหวัดเบนเตรทางตอนใต้ของเวียดนามประกาศปิดรับการลงทุนจากต่างชาติ เนื่องจากประสบปัญหาขาดแคลนที่ดิน ซึ่ง ฮุนห์ ฟาน เตร เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ จังหวัดเบนเตรระบุว่า การขาดแคลนน้ำดิบ และพื้นที่ที่คับแคบทำให้จังหวันเบนเตรไม่สามารถรองรับการลงทุนจากนักลงทุนต่างชาติได้ เพราะจังหวัดมีเนื้อที่จำกัดทำให้จำเป็นต้องปฏิเสธการโครงการลงทุน ส่วนเมืองไทยยังมีที่อีกมากมาย รอเพียงแต่รัฐบาลยกเลิกมาตรากันสำรอง 30% เท่านั้น ฝรั่งขาว-ฝรั่งเทศก็จะได้เข้ามามีส่วนร่วมเป็นเจ้าของพื้นดินเดียวกับเราแล้ว....ต้นกล้า
