xs
xsm
sm
md
lg

ช่องทางขายยุคโลกาภิวัฒน์ อีแชลแนลลงทุนได้ทุกที่...ทุกเวลา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กระแสการลงทุนผ่านกองทุนรวมในช่วงหลายปีที่ผ่านมามีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และบลจ.ส่วนใหญ่มักจะใช้กลยุทธ์ที่แตกต่างกันในการช่วงชิงลูกค้า โดยมีผลงานในการบริหารงานเป็นตัวสร้างความเชื่อมั่นเป็นตัวดึงดูดลูกค้า แต่สิ่งที่บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนมีความพยายามพัฒนาและแข่งขันกันอย่างมากคือ ช่องทางการขายต่างๆ

หากมองไปในอนาคตแล้ว ช่องทางการขายอย่าง สาขาแบงก์ และเซลลิงค์เอเยนท์ คงจะกลายเป็นเรื่องธรรมดาในยุคโลกาภิวัฒน์ ขณะที่ช่องทางการขายที่มีความสะดวกสบายอย่างระบบไอที และอินเตอร์เนต คงจะได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น ซึ่งการให้บริการในรูปแบบนี้ถึงจะยังไม่แพร่หลายมากนักในประเทศไทย แต่เมื่อลองนึกถึงความรวดเร็ว และทำได้ในทุกสถานที่ และทุกเวลาแล้ว ช่องทางนี้น่าจะเป็นอนาคตที่ควรจำตามองเป็นอย่างมาก

วิวรรณ ธาราหิรัญโชติ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) กสิกรไทย จำกัด ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับช่องทางการขายผ่านระบบไอทีว่า ช่องทางการขายผ่านอินเตอร์เนต และเอทีเอ็มนั้น เป็นช่องทางที่จะสามารถขยายฐานลูกค้าได้เป็นอย่างมากในอนาคต เนื่องจากมีความสะดวกและง่ายในการทำธุรกรรมต่างๆ ซึ่งในต่างประเทศช่องทางนี้ถือว่าได้รับความนิยม และลูกค้ามีการใช้บริการเป็นจำนวนมาก โดยในประเทศไทยเองยังอยู่ในช่วงของการเจริญเติบโต และเมื่อนักลงทุนมีความเข้าใจแล้ว เชื่อว่าจะสามารถสร้างฐานลูกค้าได้เป็นจำนวนมากจากการขายผ่านช่องทางนี้

“ในต่างประเทศมีการขยายตัวของนักลงทุนที่ใช้ช่องทางนี้เป็นจำนวนมาก ซึ่งในอนาคตหากนักลงทุนไทยมีความเข้าใจมากขึ้น การขายผ่านช่องทางนี้จะเติบโตได้เป็นอย่างดี โดยหากเปรียบเทียบเป็นชาจร์แล้วตอนนี้การทำธุรกรรมผ่านช่องทางดังกล่าวอยู่ในช่วงที่กำลังทรงตัวและไต่ระดับ และเมื่อถึงจุดหนึ่งแล้วจะสามารถขยายตัวได้อย่างรวดเร็วกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบันแน่นอน”นางวิวรรณกล่าว

ส่วนจุดเด่นของช่องทางนี้เชื่อว่าจะสามารถเพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้าให้สามารถ ซื้อ ขาย หรือสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนได้ในตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งจากเครื่องเอทีเอ็ม และช่องทางอินเตอร์เนต โดยหลังจากนี้จะพยายามเพิ่มบริการต่างๆ เพื่อให้ครอบคลุมความต้องการของลูกค้าให้มากขึ้น และเพื่อให้เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการขยายฐานลูกค้าของบริษัทนอกจากการขายผ่านสาขาของธนาคาร รวมทั้งเซลล์ลิงค์เอเยนต์ที่บริษัทมีอยู่ในปัจจุบัน

วิวรรณ บอกอีกว่า การขายกองทุนเปิดของบริษัทผ่านช่องทางประเภทนี้ได้มีมาสักระยะหนึ่งแล้ว โดยประเภทของกองทุนที่สามารถทำการซื้อขาย หรือสับเปลี่ยนได้จะเป็นกองทุนเปิด และที่ผ่านมายอดการทำธุรกรรมผ่านช่องทางดังกล่าวได้มีปริมาณเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับสัดส่วนการขยายตัวของลูกค้าที่บริษัทมี แต่ยังมีบางส่วนที่ไม่สามารถทำได้อย่างเช่นในกองทุนใหม่ที่ลูกค้าต้องการคำแนะนำจากผู้ขาย และการซื้อหน่วยลงทุนเป็นจำนวนมากที่นักลงทุนไทยยังไม่คุ้นเคย เนื่องจากต้องการทำธุรกรรมนี้ทางโดยตรงมากว่าเพื่อความสบายใจ

ทั้งนี้ ในส่วนของบลจ.กสิกรไทย มีหลายกองทุนที่พร้อมทำการซื้อขาย และโอนหน่วยลงทุนได้แล้ว ส่วนกองทุนต่างประเทศ 2 กองทุนมีการเปิดให้บริการได้แก่ กองทุนเปิดเค โกบอล อิควิตี้ (K-GLOBE) และกองทุนเปิดเค โกลบอล อีเมอร์จิ้ง มาร์เก็ต บอนด์ (K-GEMBOND) ซึ่งสามารถทำธุรกรรมผ่านทางช่องทางอัตโนมัติ 2 ช่องทางคือ ระบบเอทีเอ็มผ่าน K-ATM (บริการธนาคารทางเอทีเอ็มกสิกรไทย) กว่า 3,000 เครื่องทั่วประเทศ และ ระบบโทรศัพท์อัตโนมัติ ผ่าน K-CONTACT CENTER (บริการธนาคารทางโทรศัพท์กสิกรไทย) โทรศัพท์ 0 2888 8888 กด 4

"นักลงทุนที่ทำการซื้อขายผ่านช่องทางนี้มีเพิ่มมากขึ้นทั้งในส่วนของลูกค้าใหม่และ ลูกค้าเก่า ซึ่งลูกค้าเก่าที่ใช้นอกเหนือจากการซื้อ และขายหน่วยลงทุนแล้วก็จะมีการใช้ในการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนด้วย เนื่องจากสามารถทำได้ง่ายและทำได้ 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะในช่องทางอินเตอร์เน็ต แต่สำหรับการซื้อหน่วยลงทุนในแต่ละครั้งของนักลงทุนยังมีจำนวนไม่มาก และกองทุนที่ซื้อก็ไม่ใช่กองทุนใหม่ที่เปิดขาย เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่ที่ต้องการจะลงทุนในจำนวนมากมักจะต้องการความรู้ และพบกับพนักงานในการซื้อขายทางตรงมากกว่า"นางวิวรรณกล่าว

ด้าน ดร.สิเวศ โรจนสุนทร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายพัฒนาธุรกิจและเทคโนโลยี บลจ.ทหารไทย บอกว่า ในอนาคตเชื่อว่าสัดส่วนการทำธุรกรรมผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ และบริการทางด้าน Internet จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งในส่วนของ บลจ.ทหารไทยเอง ก็เชื่อว่าจะเกิน 50% ของจำนวนธุรกรรมทั้งหมดแน่นอน จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนการทำธุรกรรมมากกว่า 40% สาเหตุที่มองเช่นนั้น เพราะว่าช่องทางการให้บริการรูปแบบนี้จะสามารถอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าได้ภายใต้มาตรฐานเดียวกัน...ทั้งในแง่การใช้บริการและความพึงพอใจของลูกค้า

ตัวอย่างเช่น การทำธุรกรรมผ่านระบบมือถือ PDA ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนก็สามารถใช้บริการได้ และเชื่อว่าเทรนของการใช้ Internet ในชีวิตประจำวันมีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้การใช้คอมพิวเตอร์อาจจะไม่สะดวกหากเทียบกับมือถือที่สามารถพกได้ได้ทุกที่และสามารถหยิบขึ้นมาใช้ได้ตลอดเวลา แต่ข้อแตกต่างและข้อจำกัดของการให้บริการในมือถือ จะอยู่ที่ขนาดเล็กกว่า

สำหรับบริการเด่นๆ ของค่ายนี้จะ อยู่ที่ บริการบัตรกดเงินสด "TMBAM Extra Cash" ที่ผู้ลงทุนสามารถเบิกถอนได้จากตู้ ATM ได้ทุกธนาคารโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ซึ่งปัจจุบันให้บริการสำหรับลูกค้าที่ถือหน่วยลงทุนของกองทุนเปิดทหารไทยธนบดี โดยผู้ลงทุนสามารถเลือกกดจากบัญชี ออมทรัพย์ หรือ กระแสรายวัน อย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งจะปรากฏเป็นยอดคงเงินคงเหลือของกองทุนเปิดทหารไทยธนบดีตามที่เลือกผูกบัญชีไว้แล้ว ระบบก็จะดำเนินการเบิกถอนเงินจากของกองทุนเปิดทหารไทยธนบดี ให้ทันที

และล่าสุดกับบริการใหม่เอี่ยม...ที่อำนวยความสะดวกให้ผู้ถือหน่วยลงทุนที่มี PDA Phone ระบบ Windows Mobile release 5.0 สามารถใช้ Fundlink Online ที่ถูกออกแบบสำหรับใช้งานกับ PDA Phone โดยเฉพาะ โดยสามารถทำรายการ ซื้อ ขายสับเปลี่ยน และสอบถามข้อมูลการลงทุนได้เช่นเดียวกัน และบริการที่ไม่ด้อยไปกว่าการใช้คอมพิวเตอร์ คือ สามารถซื้อขายหน่วย

เห็นแบบนี้แล้วเชื่อว่านักลงทุนหลายท่านคงมีโอกาสได้สัมผัส และใช้บริการรูปแบบนี้มากขึ้นอนาคต และยิ่งเทคโนโลยีพัฒนามากขึ้นเท่าไร บทบาทของมันต่อการลงทุน และการใช้ชีวิตประจำวันของคนเราคงจะมากขึ้นตามไปด้วยอย่างแน่นอน
กำลังโหลดความคิดเห็น