xs
xsm
sm
md
lg

บีทีเตรียมแผนดึงเงิน3กองครบอายุชวนลูกค้าเทใส่5กองใหม่เข้าลงทุนต่อ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บลจ.บีที เตรียมแผนรองรับ เม็ดเงิน 3 กองทุนรวมที่ใกล้ครบกำหนดอายุโครงการ นำเสนอ 5 กองทุนใหม่เป็นทางเลือกให้ลูกค้า หวังช่วยเพิ่มยอดเอ็นเอวีกองต่างๆขยายตัว และรักษาฐานลูกค้าของบริษัทได้อีกทาง

นายอนุสรณ์ บูรณกานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) บีที จำกัด เปิดเผยว่า ในฐานะผู้จัดการกองทุนรวมไทยมิกซ์ทาร์เก็ต 25 (M-TARGET 25), กองทุนเปิดไทยมาร์เก็ตเทรนด์คุ้มครองเงินต้น 1 (TP-TREND 1) และกองทุนเปิดไทยมาร์เก็ตเทรนด์คุ้มครองเงินต้น 4 (TP-TREND 4) ซึ่งกองทุนทั้ง 3 จะครบกำหนดอายุกองทุนและเลิกกองทุนในเร็วๆนี้ ว่า บริษัทได้เตรียมโปรดักส์ใหม่ๆไว้รองรับความต้องการของผู้ถือหน่วยลงทุนในกองทุนทั้ง 3 ไว้เรียบร้อยแล้ว เพื่อเป็นการรักษาฐานลูกค้าและช่วยเพิ่มมูลค่าทรัพย์สินสุทธิให้กับกองทุนอื่นๆของบริษัทด้วย

โดยกองทุนรวมไทยมิกซ์ทาร์เก็ต 25 ครบกำหนดอายุโครงการในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2551 ส่วนกองทุนเปิดไทยมาร์เก็ตเทรนด์คุ้มครองเงินต้น 1 จะครบกำหนดโครงการในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2551 และกองทุนเปิดไทยมาร์เก็ตเทรนด์คุ้มครองเงินต้น 4 จะครบกำหนดโครงการในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2551

สำหรับ 5 กองทุนที่บลจ.บีทีได้เตรียมไว้รองรับนักลงทุนที่ต้องการจะเข้ามาลงทุนต่อ ประกอบไปด้วย 1. กองทุนรวมไทยเดลี่ตราสารหนี้ (TF-DALIY) เป็นกองทุนที่สามารถทำการซื้อขายหน่วยลงทุนได้ทุกวัน โดยผลตอบแทนที่ได้ประมาณ 2.7 – 3.0% ต่อปี ซึ่งเทียบได้กับเงินฝากธนาคารอยู่ที่ 3.3-3.5% ด้วย นอกจากนี้แล้วกองทุนดังกล่าวได้สิทธิยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มด้วย ส่วนผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือน ณ วันที่ 18 มกราคม 2551 ย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 2.92% ย้อนหลัง 6 เดือน 2.84% และตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 0.18%

2. กองทุนเปิดไทยตราสารหนี้ (T-FOCUS INCOME) เป็นกองทุนที่สามารถทำการซื้อได้ทุกวันทำการ และสามารถขายคืนได้ในวันที่ 1 ของแต่ละเดือน โดยผลตอบแทนของกองทุนดังกล่าวจะอยู่ที่ประมาณ 2.6 – 2.7% ซึ่งเมือเทียบกับเงินฝากธนาคารแล้วจะอยู่ที่ 3.0-3.1% ทั้งนี้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 2.73% ย้อนหลัง 6 เดือน2.78% และย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีที่ 0.16%

3. กองทุนเปิดบีที คุ้มครองเงินต้น 3M2 (BTP3M2) โดยกองทุนดังกล่าวจะเข้าไปลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล 100% ซื่งถือว่ามีความเสี่ยงต่ำ และสามารถให้ผลตอบแทนกองทุนอยู่ที่ 2.6 – 2.7% เมื่อเทียบกับเงินฝากธนาคารที่ 3.0- 3.1% ส่วนผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือน 2.83% ย้อนหลัง 6 เดือนที่ 2.79% และย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีที่ 0.16%

4. กองเปิดบีที ตราสารหนี้ (3M2 BT3M2) กองทุนดังกล่าวจะเข้าไปลงทุนในพันธบัตรทั้งของภาครัฐบาลและภาคเอกชน โดยจะให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 2.8-3.0% จะเทียบได้กับเงินฝากธนาคารที่ 3.3-3.5% ส่วนผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือน 2.95% ย้อนหลัง 6 เดือนที่ 3.00% และย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีที่ 0.18% และ 5 กองทุนเปิดคุ้มครองเงินต้น 6M3 (BTP6M3) กองทุนดังกล่าวจะเข้าไปลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล 100% โดยกองทุนดังกล่าวจะให้ผลตอบแทนประมาณ 2.6-2.7% โดยจะเทียบได้กับเงินฝากธนาคารที่ 3.0-3.1% ส่วนผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือน 2.82% ย้อนหลัง 6 เดือนที่ 2.77% และย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีที่ 0.17%

“ในส่วนของกองทุนเปิดไทยเดรี่ตราสารหนี้นั้น ผลตอบแทนในช่วงที่ผ่านมาค่อนข้างดีมาก เนื่องจากกองทุนดังกล่าวได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดี ซึ่งผลการดำเนินงานล่าสุดของกองทุนสามารถติดอันดับ1 ใน 3 กองทุนประเภทเดียวกันที่ให้ผลตอบแทนสูงสุด”นายอนุสรณ์ กล่าว

ทั้งนี้ บลจ.บีที เชื่อมั่นว่า เม็ดเงินลงทุนรวมของทั้ง 3 กองทุนที่มีอยู่ประมาณ1,000 กว่าล้านบาท ซึ่งจะครบกำหนดในเร็วๆนี้ จะสามารถกระจายมาสู่กองทุนอื่นๆของบริษัทแทนได้เกือบทั้งหมด เพราะว่ากองทุนเหล่านั้น เปรียบได้กับเป็นการนำเสนอทางเลือกในการลงทุนแบบใหม่ๆให้กับลูกค้านั่นเอง
กำลังโหลดความคิดเห็น