บลจ.ไอเอ็นจีปรับกลยุทธ์หันออกกองทุนตราสารหนี้ในประเทศ ส่งกองทุนอายุ 3 เดือนลุยตลาดต่อเนื่อง 2 กอง คาดการณ์ผลตอบแทน 3 - 3.1% หวังพลิกสถานการณ์หลังกองทุน ECP โดนพิษเฟดลดดอกเบี้ยแรงจนหมดเสน่ห์
รายงานข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า บริษัทจะมีการเปิดจำหน่ายหน่วยลงทุนของกองทุนรวมตราสารหนี้ในซีรีย์ ไอเอ็นจี ไทย เอ็มเอ็มเพิ่มเติมอีกจำนวน 2 กองทุน คือ กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย เอ็มเอ็ม 19 (ING MM19) และ กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย เอ็มเอ็ม 20 (ING MM 20)
โดยกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย เอ็มเอ็ม 19 จะเปิดจำหน่ายหน่วยลงทุนครั้งแรก ในระหว่างวันที่ 31 มกราคม - 7 กุมภาพันธ์ 2551 โดยกองทุนดังกล่าวเป็นกองทุนรวมตราสารแห่งหนี้ ประเภทรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติ ที่มีการกระจายการลงทุนน้อยกว่าเกณฑ์มาตรฐาน (Specific Fund) จำนวนโครงการ 2,000 ล้านบาท อายุโครงการ 3 เดือน โดยกองทุนจะสิ้นสุดอายุโครงการในวันที่ 14 พฤษภาคม 2551
ทั้งนี้กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย เอ็มเอ็ม 19 มีนโยบายเน้นการลงทุนในตราสารแห่งหนี้ที่เสนอขายทั้งในและต่างประเทศ ทั้งภาครัฐบาล รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน โดยอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหรือผู้ออกตราสารอยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้ (Investment grade) จากสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ได้รับการยอมรับจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ตราสารหนี้ที่ออก รับรอง รับอาวัล หรือ ค้ำประกันการจ่ายเงินโดยสถาบันการเงิน รวมทั้ง เงินฝาก โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่ต่ำกว่า 90% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ทั้งนี้ตราสารส่วนใหญ่ที่กองทุนลงทุนจะมีอายุคงเหลือประมาณ 3 เดือน นับตั้งแต่วันที่ลงทุน
ด้านเงินลงทุนส่วนที่เหลือจะลงทุนในหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่นหรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่น ที่ไม่ขัดต่อประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้กองทุนอาจเข้าทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) ที่มีตัวแปรเป็นอัตราแลกเปลี่ยนเงิน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันความเสี่ยง (hedging) หรืออาจเข้าทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้า โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านราคาของตราสาร
ขณะเดียวกันผู้จัดการกองทุนจะเป็นผู้จัดสัดส่วนการลงทุน และพิจารณาถึงความจำเป็ฯของการจัดหา และเลือกสรรวิธีการป้องกันความเสี่ยงต่างๆของกองทุน โดยจะพิจารณาให้เหมาะสมกับสภาวการณ์ในแต่ละขณะ ทั้งนี้เพื่อผลตอบแทนที่ดีและเพื่อผลประโยชน์ต่อกองทุนและผู้ถือหน่วยลงทุนเป็นหลัก โดยกองทุนจะไม่ลงทุนในตราสารที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง (Structured Note) หรือ Credit Linked Note
"สำหรับกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย เอ็มเอ็ม 19 จะเน้นลงทุนในตราสารหนี้ในประเทศเป็นหลัก และที่เหลือลงทุนในต่างประเทศ เนื่องจากผลตอบแทนจากการลงทุนตราสารหนี้ในต่างประเทศเริ่มลดลงใกล้เคียงกับลงทุนในไทย โดยประมาณการณ์ผลตอบแทนจากการลงทุนประมาณ 3.0 -3.1%"
ส่วนกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย เอ็มเอ็ม 20 จะเปิดเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรกในระหว่างวันที่ 7-14 กุมภาพันธ์ 2551 โดยกองทุนดังกล่าวเป็นกองทุนรวมตราสารแห่งหนี้ ประเภทรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติ ที่มีการกระจายการลงทุนน้อยกว่าเกณฑ์มาตรฐาน (Specific Fund) จำนวนโครงการ 2,000 ล้านบาท อายุโครงการ 3 เดือน โดย สิ้นสุดอายุโครงการในวันที่ 21 พฤษภาคม 2551
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้มีการประกาศลดดอกเบี้ยระยะสั้น (เฟด ฟันด์ เรส) ลงฉุกเฉิน 0.75% ส่งผลทำให้หลายบลจ.ได้ยกเลิกหรือเลื่อนการจำหน่ายหน่วยลงทุนของกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศออกไป เนื่องมาจากการปรับลดดอกเบี้ยลงอย่างรุนแรง ส่งผลทำให้ผลตอบแทนในตราสารที่กองทุนจะเข้าไปลงทุนลดลง จนหลังจากหักค่าการประกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนแล้ว ผลตอบแทนที่ได้รับน้อยกว่าการเข้ามาลงทุนในตราสารหนี้ภายในประเทศ
ก่อนหน้านี้ นายจุมพล สายมาลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส บลจ.ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ตามที่บริษัทได้วางแผนเปิดขายหน่วยลงทุนของกองทุน ไอเอ็นจี ไทย ตราสารหนี้ระยะสั้นต่างประเทศ 1 ในระหว่างวันที่ 17-24 มกราคม 2551 บริษัทได้เลื่อนการจำหน่ายหน่วยลงทุนออกไป เนื่องมาจากประเมินว่าแนวโน้มของตราสารหนี้ที่จะเข้าไปลงทุนจะมีความผันผวนสูงและมีโอกาสกระทบต่อผลตอบแทนในการเข้าไปลงทุน
อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้บริษัทจะมีการออกกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้นที่ลงทุนในประเทศ ในซีรีย์ ไอเอ็นจี ไทย เอ็มเอ็ม เพิ่มเติมอีกจำนวน 2 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย เอ็มเอ็ม 19 และกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย เอ็มเอ็ม 20 เพื่อเป็นทางเลือกในการลงทุนให้แก่นักลงทุนที่ต้องการลงทุนในกองทุนตราสารหนี้แทน
รายงานข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า บริษัทจะมีการเปิดจำหน่ายหน่วยลงทุนของกองทุนรวมตราสารหนี้ในซีรีย์ ไอเอ็นจี ไทย เอ็มเอ็มเพิ่มเติมอีกจำนวน 2 กองทุน คือ กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย เอ็มเอ็ม 19 (ING MM19) และ กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย เอ็มเอ็ม 20 (ING MM 20)
โดยกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย เอ็มเอ็ม 19 จะเปิดจำหน่ายหน่วยลงทุนครั้งแรก ในระหว่างวันที่ 31 มกราคม - 7 กุมภาพันธ์ 2551 โดยกองทุนดังกล่าวเป็นกองทุนรวมตราสารแห่งหนี้ ประเภทรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติ ที่มีการกระจายการลงทุนน้อยกว่าเกณฑ์มาตรฐาน (Specific Fund) จำนวนโครงการ 2,000 ล้านบาท อายุโครงการ 3 เดือน โดยกองทุนจะสิ้นสุดอายุโครงการในวันที่ 14 พฤษภาคม 2551
ทั้งนี้กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย เอ็มเอ็ม 19 มีนโยบายเน้นการลงทุนในตราสารแห่งหนี้ที่เสนอขายทั้งในและต่างประเทศ ทั้งภาครัฐบาล รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน โดยอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหรือผู้ออกตราสารอยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้ (Investment grade) จากสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ได้รับการยอมรับจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ตราสารหนี้ที่ออก รับรอง รับอาวัล หรือ ค้ำประกันการจ่ายเงินโดยสถาบันการเงิน รวมทั้ง เงินฝาก โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่ต่ำกว่า 90% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ทั้งนี้ตราสารส่วนใหญ่ที่กองทุนลงทุนจะมีอายุคงเหลือประมาณ 3 เดือน นับตั้งแต่วันที่ลงทุน
ด้านเงินลงทุนส่วนที่เหลือจะลงทุนในหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่นหรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่น ที่ไม่ขัดต่อประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้กองทุนอาจเข้าทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) ที่มีตัวแปรเป็นอัตราแลกเปลี่ยนเงิน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันความเสี่ยง (hedging) หรืออาจเข้าทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้า โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านราคาของตราสาร
ขณะเดียวกันผู้จัดการกองทุนจะเป็นผู้จัดสัดส่วนการลงทุน และพิจารณาถึงความจำเป็ฯของการจัดหา และเลือกสรรวิธีการป้องกันความเสี่ยงต่างๆของกองทุน โดยจะพิจารณาให้เหมาะสมกับสภาวการณ์ในแต่ละขณะ ทั้งนี้เพื่อผลตอบแทนที่ดีและเพื่อผลประโยชน์ต่อกองทุนและผู้ถือหน่วยลงทุนเป็นหลัก โดยกองทุนจะไม่ลงทุนในตราสารที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง (Structured Note) หรือ Credit Linked Note
"สำหรับกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย เอ็มเอ็ม 19 จะเน้นลงทุนในตราสารหนี้ในประเทศเป็นหลัก และที่เหลือลงทุนในต่างประเทศ เนื่องจากผลตอบแทนจากการลงทุนตราสารหนี้ในต่างประเทศเริ่มลดลงใกล้เคียงกับลงทุนในไทย โดยประมาณการณ์ผลตอบแทนจากการลงทุนประมาณ 3.0 -3.1%"
ส่วนกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย เอ็มเอ็ม 20 จะเปิดเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรกในระหว่างวันที่ 7-14 กุมภาพันธ์ 2551 โดยกองทุนดังกล่าวเป็นกองทุนรวมตราสารแห่งหนี้ ประเภทรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติ ที่มีการกระจายการลงทุนน้อยกว่าเกณฑ์มาตรฐาน (Specific Fund) จำนวนโครงการ 2,000 ล้านบาท อายุโครงการ 3 เดือน โดย สิ้นสุดอายุโครงการในวันที่ 21 พฤษภาคม 2551
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้มีการประกาศลดดอกเบี้ยระยะสั้น (เฟด ฟันด์ เรส) ลงฉุกเฉิน 0.75% ส่งผลทำให้หลายบลจ.ได้ยกเลิกหรือเลื่อนการจำหน่ายหน่วยลงทุนของกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศออกไป เนื่องมาจากการปรับลดดอกเบี้ยลงอย่างรุนแรง ส่งผลทำให้ผลตอบแทนในตราสารที่กองทุนจะเข้าไปลงทุนลดลง จนหลังจากหักค่าการประกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนแล้ว ผลตอบแทนที่ได้รับน้อยกว่าการเข้ามาลงทุนในตราสารหนี้ภายในประเทศ
ก่อนหน้านี้ นายจุมพล สายมาลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส บลจ.ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ตามที่บริษัทได้วางแผนเปิดขายหน่วยลงทุนของกองทุน ไอเอ็นจี ไทย ตราสารหนี้ระยะสั้นต่างประเทศ 1 ในระหว่างวันที่ 17-24 มกราคม 2551 บริษัทได้เลื่อนการจำหน่ายหน่วยลงทุนออกไป เนื่องมาจากประเมินว่าแนวโน้มของตราสารหนี้ที่จะเข้าไปลงทุนจะมีความผันผวนสูงและมีโอกาสกระทบต่อผลตอบแทนในการเข้าไปลงทุน
อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้บริษัทจะมีการออกกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้นที่ลงทุนในประเทศ ในซีรีย์ ไอเอ็นจี ไทย เอ็มเอ็ม เพิ่มเติมอีกจำนวน 2 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย เอ็มเอ็ม 19 และกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย เอ็มเอ็ม 20 เพื่อเป็นทางเลือกในการลงทุนให้แก่นักลงทุนที่ต้องการลงทุนในกองทุนตราสารหนี้แทน