MG ประกาศเปิดตัว EV ใหม่ 2 รุ่นในปีนี้ รับกระแสรถยนต์ไฟฟ้ามาดีคาดปีนี้ ตลาดEV ขาย 40,000 คัน ส่วนตลาดรวมคาด 900,000 คัน เป้าขาย MG ขอติดท็อป 5 ยอดขาย 40,000 คัน รับอะไหล่ล่าช้า เร่งแก้ปัญหาด่วน
นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ตลาดรถยนต์ไทยในปีที่ผ่านมายังคงได้รับผลกระทบจากปัญหาการขาดแคลนชิ้นส่วนทำให้ยอดขายไม่เป็นไปตามที่ควรจะเป็นประเมินว่าปีนี้จะมียอดขายที่ราว 900,000 คัน และรถยนต์ไฟฟ้า(EV) จะมียอดขายเพิ่มขึ้นเป็น 40,000 คัน
กระแสความต้องการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าของไทยเพิ่มสูงขึ้นมากจากปัจจัยการสนับสนุนของรัฐบาลทำให้ปีนี้ เอ็มจี จะมีการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ 2 รุ่น โดยเป็นรุ่นที่ปรับปรุงโฉมใหม่ 1 รุ่นและรุ่นที่ไม่เคยจำหน่ายมาก่อนอีก 1 รุ่น ขณะที่รุ่นอื่นๆ จะยังไม่มีการเปิดตัวใหม่แต่อย่างใด อาจจะมีเพียงการปรับโฉมเท่านั้น
“เป้าหมายการจำหน่ายของเราตั้งเป้าขึ้นติดใน 5 อันดับแรกของรถที่มียอดขายสูงสุดในไทย ด้วยขาย 40,000 คัน แบ่งเป็นรถเครื่องยนต์สันดาปและไฮบริด 30,000 คัน และ EV 10,000 คัน โดย EV จะมีการเพิ่มปริมาณรถให้เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า และจะกลับมาเปิดรับจองครบทั้ง 3 รุ่น คือ EP+ , ZS EV และ MG4 ในเร็วๆ นี้” นายพงษ์ศักดิ์ กล่าว
สำหรับโควต้าในการจำหน่าย EV วางแผนไว้ที่เดือนละ 1,000 คัน ส่วนสถานีชาร์จจะเพิ่มขึ้นอีก 50 แห่ง เป็น 200 กว่าจุด ครบทุกดีลเลอร์ จากปัจจุบันที่มีอยู่ 158 แห่ง เป็นไปตามเป้าหมายการมีสถานีชาร์จทุกๆ ระยะทาง 150 กม.
นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวว่า การผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศอยู่ในระหว่างการปรับเปลี่ยนไลน์การผลิตคาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงปลายปีนี้ และพร้อมผลิตได้ในช่วงต้นปี ส่วนรุ่นรถที่จะทำการประกอบนั้นยังอยู่ระหว่างการวางแผนว่าจะเป็นรุ่นใด ขณะเดียวกัน ทราบถึงปัญหาเรื่องการส่งชิ้นส่วนอะไหล่ล่าช้า
“ปกติการส่งอะไหล่ของเอ็มจีจะใช้เวลาเพียง 1-2 วันเท่านั้น แต่ปัญหาเกิดจากอู่ประกันไม่สั่งอะไหล่จากศูนย์บริการโดยตรง เลือกที่จะสั่งจากร้านอะไหล่ทำให้ลูกค้าต้องรอนาน และมีการให้ลูกค้าเซ็นรับเงื่อนไขอะไหล่ล่าช้านานเป็นเดือน ซึ่งเอ็มจีกำลังเร่งหาทางแก้โดยจะเข้าไปคุยกับทาง คปภ. เพื่อหาทางออกให้ลูกค้าไม่ต้องรอการซ่อมที่นานเป็นเดือน”
นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ตลาดรถยนต์ไทยในปีที่ผ่านมายังคงได้รับผลกระทบจากปัญหาการขาดแคลนชิ้นส่วนทำให้ยอดขายไม่เป็นไปตามที่ควรจะเป็นประเมินว่าปีนี้จะมียอดขายที่ราว 900,000 คัน และรถยนต์ไฟฟ้า(EV) จะมียอดขายเพิ่มขึ้นเป็น 40,000 คัน
กระแสความต้องการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าของไทยเพิ่มสูงขึ้นมากจากปัจจัยการสนับสนุนของรัฐบาลทำให้ปีนี้ เอ็มจี จะมีการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ 2 รุ่น โดยเป็นรุ่นที่ปรับปรุงโฉมใหม่ 1 รุ่นและรุ่นที่ไม่เคยจำหน่ายมาก่อนอีก 1 รุ่น ขณะที่รุ่นอื่นๆ จะยังไม่มีการเปิดตัวใหม่แต่อย่างใด อาจจะมีเพียงการปรับโฉมเท่านั้น
“เป้าหมายการจำหน่ายของเราตั้งเป้าขึ้นติดใน 5 อันดับแรกของรถที่มียอดขายสูงสุดในไทย ด้วยขาย 40,000 คัน แบ่งเป็นรถเครื่องยนต์สันดาปและไฮบริด 30,000 คัน และ EV 10,000 คัน โดย EV จะมีการเพิ่มปริมาณรถให้เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า และจะกลับมาเปิดรับจองครบทั้ง 3 รุ่น คือ EP+ , ZS EV และ MG4 ในเร็วๆ นี้” นายพงษ์ศักดิ์ กล่าว
สำหรับโควต้าในการจำหน่าย EV วางแผนไว้ที่เดือนละ 1,000 คัน ส่วนสถานีชาร์จจะเพิ่มขึ้นอีก 50 แห่ง เป็น 200 กว่าจุด ครบทุกดีลเลอร์ จากปัจจุบันที่มีอยู่ 158 แห่ง เป็นไปตามเป้าหมายการมีสถานีชาร์จทุกๆ ระยะทาง 150 กม.
นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวว่า การผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศอยู่ในระหว่างการปรับเปลี่ยนไลน์การผลิตคาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงปลายปีนี้ และพร้อมผลิตได้ในช่วงต้นปี ส่วนรุ่นรถที่จะทำการประกอบนั้นยังอยู่ระหว่างการวางแผนว่าจะเป็นรุ่นใด ขณะเดียวกัน ทราบถึงปัญหาเรื่องการส่งชิ้นส่วนอะไหล่ล่าช้า
“ปกติการส่งอะไหล่ของเอ็มจีจะใช้เวลาเพียง 1-2 วันเท่านั้น แต่ปัญหาเกิดจากอู่ประกันไม่สั่งอะไหล่จากศูนย์บริการโดยตรง เลือกที่จะสั่งจากร้านอะไหล่ทำให้ลูกค้าต้องรอนาน และมีการให้ลูกค้าเซ็นรับเงื่อนไขอะไหล่ล่าช้านานเป็นเดือน ซึ่งเอ็มจีกำลังเร่งหาทางแก้โดยจะเข้าไปคุยกับทาง คปภ. เพื่อหาทางออกให้ลูกค้าไม่ต้องรอการซ่อมที่นานเป็นเดือน”