ยามาฮ่า ตั้งเป้าปีนี้ขาย 295,000 คัน ขอโต 4% ครองแชร์ 16.5% หลังคาดตลาดรวมทรงตัวที่ 1,800,000 คัน ปัจจัยลบยังคงอยู่ทั้งหนี้ครัวเรือนและชิ้นส่วนขาดแคลน ระบุปีนี้มีรถใหม่ 2 รุ่น พร้อมโชว์ EV
นายพงศธร เอื้อมงคลชัย รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด กล่าวว่า ตลาดรถจักรยานยนต์ไทยในปี 2565 ยังคงได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ประกอบกับปัญหาขาดแคลนชิ้นส่วนในการผลิต ทำให้สินค้าไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด
อย่างไรก็ตาม ตลาดรถจักรยานยนต์รวมของไทยยังคงเติบโตขึ้นได้ มียอดจดทะเบียนอยู่ที่ 1,800,583 คัน เพิ่มขึ้น 11.8% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยยามาฮ่า มียอดจดทะเบียน 283,903 คัน เพิ่มขึ้น 6.9% จากปีก่อนและครองส่วนแบ่งการตลาดที่ 15.8% ซึ่งรถแบบออโต้ มีสัดส่วนการขายสูงสุดราว 180,000 คัน
“ปีนี้คาดว่าตลาดรวมจะทรงตัวอยู่ที่ 1,800,000 คันเท่าเดิม ขณะที่ยามาฮ่าตั้งเป้าหมายการขายไว้ที่ 295,000 คัน เติบโต 4% เพิ่มแบ่งการตลาดเป็น 16.5% โดยจะมีสินค้าทำตลาดเพิ่มขึ้นเป็นรถโมเดลใหม่ที่ไม่เคยเปิดตัวมาก่อนอีก 2 รุ่น ในระดับไม่เกิน 300 ซีซี. ขอให้อดใจรอ” นายพงศธรกล่าว
ขณะที่ การปรับเปลี่ยนรูปแบบของสินเชื่อ ไม่กระทบต่อยอดการจำหน่าย เนื่องจากผู้ให้บริการทางการเงินได้มีการปรับตัวและพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงเรียบร้อยแล้ว แต่ปัจจัยที่มีผลต่อยอดขายหลักคือเรื่องของ หนี้ครัวเรือนที่สูงขึ้น ทำให้ลูกค้าออกรถได้ยากกว่าเดิม รวมถึงปัญหาการขาดแคลนชิ้นส่วนที่ยังส่งผลต่อเนื่อง
นายพงศธร กล่าวว่า สำหรับรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าหรือ EV ทางยามาฮ่า มีการนำ E01 เข้ามาศึกษาตลาดและในปีนี้จะมีการแนะนำอีกหนึ่งรุ่น โดยจะมีการเปิดตัวในช่วงงานมอเตอร์โชว์ เดือนมีนาคมที่จะถึงนี้ ส่วนการจำหน่ายยังอยู่ระหว่างการศึกษารวบรวมข้อมูล
นายพงศธร เอื้อมงคลชัย รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด กล่าวว่า ตลาดรถจักรยานยนต์ไทยในปี 2565 ยังคงได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ประกอบกับปัญหาขาดแคลนชิ้นส่วนในการผลิต ทำให้สินค้าไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด
อย่างไรก็ตาม ตลาดรถจักรยานยนต์รวมของไทยยังคงเติบโตขึ้นได้ มียอดจดทะเบียนอยู่ที่ 1,800,583 คัน เพิ่มขึ้น 11.8% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยยามาฮ่า มียอดจดทะเบียน 283,903 คัน เพิ่มขึ้น 6.9% จากปีก่อนและครองส่วนแบ่งการตลาดที่ 15.8% ซึ่งรถแบบออโต้ มีสัดส่วนการขายสูงสุดราว 180,000 คัน
“ปีนี้คาดว่าตลาดรวมจะทรงตัวอยู่ที่ 1,800,000 คันเท่าเดิม ขณะที่ยามาฮ่าตั้งเป้าหมายการขายไว้ที่ 295,000 คัน เติบโต 4% เพิ่มแบ่งการตลาดเป็น 16.5% โดยจะมีสินค้าทำตลาดเพิ่มขึ้นเป็นรถโมเดลใหม่ที่ไม่เคยเปิดตัวมาก่อนอีก 2 รุ่น ในระดับไม่เกิน 300 ซีซี. ขอให้อดใจรอ” นายพงศธรกล่าว
ขณะที่ การปรับเปลี่ยนรูปแบบของสินเชื่อ ไม่กระทบต่อยอดการจำหน่าย เนื่องจากผู้ให้บริการทางการเงินได้มีการปรับตัวและพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงเรียบร้อยแล้ว แต่ปัจจัยที่มีผลต่อยอดขายหลักคือเรื่องของ หนี้ครัวเรือนที่สูงขึ้น ทำให้ลูกค้าออกรถได้ยากกว่าเดิม รวมถึงปัญหาการขาดแคลนชิ้นส่วนที่ยังส่งผลต่อเนื่อง
นายพงศธร กล่าวว่า สำหรับรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าหรือ EV ทางยามาฮ่า มีการนำ E01 เข้ามาศึกษาตลาดและในปีนี้จะมีการแนะนำอีกหนึ่งรุ่น โดยจะมีการเปิดตัวในช่วงงานมอเตอร์โชว์ เดือนมีนาคมที่จะถึงนี้ ส่วนการจำหน่ายยังอยู่ระหว่างการศึกษารวบรวมข้อมูล