เมอร์เซเดส-เบนซ์ มั่นใจนโยบายรัฐเดินถูกทาง วางไทยเป็นฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาคอาเซียน พร้อมเสนอแนะรัฐออกสิทธิประโยชน์ให้คนใช้รถยนต์ไฟฟ้าเพิ่ม พร้อมเปิด เอ-คลาสและจีแอลเอ CKD ราคาเริ่มต่ำกว่า2ล้านบาท
นายโรลันด์ โฟลเกอร์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯ ได้เริ่มทำโครงการ Charge to change เพื่อให้คนที่ใช้รถยนต์ไฟฟ้าแบบปลั๊กอินไฮบริดหันมาใช้งานระบบไฟฟ้ามากขึ้น ซึ่งถือว่าได้รับการตอบรับที่ดีและจะทำอย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการแผนการลงทุนด้านรถยนต์ไฟฟ้าที่ได้รับอนุมัติแล้ว
สำหรับการเปิดโครงการสนับสนุนการลงทุนด้านรถยนต์ไฟฟ้าเฟสสองของบีโอไอ นั้นทางเมอร์เซเดส-เบนซ์ ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เป็นผลพวงมาจากการทำงานอย่างใกล้ชิดกับรัฐบาลในการนำเสนอปัญหาและหนทางในการช่วยให้รถยนต์ไฟฟ้าใช้งานอย่างแพร่หลายมากขึ้น
“เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย ได้นำเสนอข้อมูลแก่บอร์ดของบริษัทฯแม่ ที่ประเทศเยอรมันถึงแนวนโยบายของรัฐไทยในการสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้า เพื่อให้บริษัทฯแม่ อนุมัติให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเพื่อจำหน่ายในภูมิภาคนี้ โดยเป้าหมายระยะยาวของเราจะมุ่งไปที่การปล่อยมลพิษ 0% ดังนั้นจึงแน่ชัดว่ารถยนต์ไฟฟ้าคืออนาคตที่กำลังมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้”
อย่างไรก็ตามเพื่อให้ผู้บริโภคหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้นตามนโยบายรัฐนั้น ภาครัฐควรมีการส่งเสริมที่ให้สิทธิประโยชน์แก่ประชาชนผู้ใช้งานมากขึ้น เช่น การให้สิทธิพิเศษในการจอดรถ หรือการสร้างเลนพิเศษ ซึ่งในต่างประเทศนั้นจะมีสิทธิประโยชน์เช่นว่านี้จำนวนมาก และเมื่อมีคนใช้งานมากขึ้นจะส่งผลให้เกิดการลงทุนสถานีชาร์จมากขึ้นตามมาด้วยโดยอัตโนมัติ
นายโรลันด์ กล่าวว่า ตลาดรถยนต์หรูในประเทศไทยปีนี้ประเมินยากมาก ยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะปิดยอดขายทั้งปีเท่าไหร่ โดยล่าสุดมีการเปิดตัวรถยนต์แบบประกอบในประเทศ 2 รุ่นคือ เอ-คลาส ราคาเริ่ม 1,990,000 บาท และรุ่น จีแอลเอ ราคา 2,399,000 บาท ซึ่งคาดหวังว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่และคนที่เริ่มสนใจหันมาใช้งานรถระดับหรูเป็นครั้งแรก
“การตั้งราคาของเมอร์เซเดส-เบนซ์นั้นอยู่บนพื้นฐานราคาที่เหมาะสม ไม่ต้องทำราคาแนะนำ เพราะเราศึกษาตลาดมาดีแล้ว หากคุณขายรถที่เปิดใหม่ไม่ได้ภายใน 6 เดือนต้องใช้แคมเปญช่วย ถือว่าคุณผิดพลาด ทั้งนี้รถใหม่ของเราทั้งสองรุ่นจะเริ่มส่งมอบได้ภายในปีนี้ และพบตัวจริงได้ในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โปต้นเดือนธันวาคม”
