ในปีนี้ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าชนิดใช้แบตเตอรี่หรือBEV คึกคักไม่ใช่น้อย เนื่องจากเราได้เห็นบรรดารถยนต์รุ่นใหม่ๆ จากหลายค่ายที่ทยอยเปิดตัวพร้อมกับจำหน่ายและส่งมอบกันเป็นที่เรียบร้อย ทำให้ประชากรของรถยนต์ไฟฟ้าชนิดใช้แบตเตอรี่มีจำนวนมากขึ้น โดยเฉพาะในส่วนของรถยนต์หรู ที่น่าสนใจเป็นพิเศษทั้งจากแบรนด์น้องใหม่และแบรนด์เก่าแก่ต่างส่งรถของตัวเองลงสู่ตลาดแบบพร้อมเพียงกัน
เพื่อให้ทุกท่านไม่ตกกระแส ทีมงานเอ็มจีอาร์ มอเตอริ่ง รวบรวมแบรนด์ต่างๆ ในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า ระดับหรู ตัวถังซีดาน มาไว้ด้วยกัน ส่วนจะมีแบรนด์ใดบ้าง และน่าสนใจขนาดไหน เชิญติดตามกันได้ โดยเราขอเรียงลำดับตาม ระยะทางวิ่ง ที่แต่ละค่ายนั้นเคลมเอาไว้
Lucid Air
Lucid แบรนด์น้องใหม่ สัญชาติอเมริกาที่เปิดตัวทำตลาดเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา แม้จะเป็นน้องใหม่แต่ชื่อชั้นของทีมผู้สร้างจากอดีตวิศวกรของ เทสล่า และดีไซนเนอร์ของ มาสด้า ทำให้ความเชื่อมั่นของลูกค้าและนักลงทุนอยู่ในระดับสูงอย่างไม่ต้องสงสัย
สำหรับรถรุ่นแรกที่เปิดตัวออกมานั้นมีชื่อว่า Air โดดเด่นด้วยดีไซน์ที่ค่อนข้างล้ำสมัย ถอดแบบมาจากหนังไซไฟ โดยใช้เทคโนโลยีอาศยานเป็นพื้นฐานในการสร้างตัวถัง จุดเด่นที่ถือว่าสำคัญที่สุดคือ ระยะทางวิ่งที่เคลมว่า ขับได้ระยะสูงสุดมากกว่า 800 กม. ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง (มาตรฐานการวัด EPA)
โดยเป็นผลมาจากการใช้แบตเตอรี่ที่มีความจุมากที่สุด 113 kW และใช้พื้นฐานเทคโนโลยีไฟฟ้า 900 โวลท์ ทำให้ตัวแบตเตอรี่มีขนาดเล็กจนมาอยู่ในรถได้อย่างพอเหมาะ ส่วนการชาร์จไฟ แบบกระแสตรง(DC) ใช้เวลาเพียง 20 นาที วิ่งได้ระยะทางมากกว่า 480 กม.
พละกำลังสูงสุด 1,080 แรงม้า จากมอเตอร์ไฟฟ้า2 ตัว หน้า-หลัง ขับเคลื่อนสี่ล้อ โดยมีให้เลือกถึง 4 รุ่นย่อย ตามขนาดกำลังของมอเตอร์และขนาดความจุแบตเตอรี่ ราคาเปิดตัวรุ่นเริ่มต้น 80,000 ดอลล่าร์สหรัฐหรือราว 3,280,000 บาท ส่วนรุ่นท็อปสุด เริ่มต้นที่ 5,240,000 บาท ในสหรัฐอเมริกา โดยจะเริ่มส่งมอบได้ในไตรมาส2ของปี 2021 นับว่าเป็นรถไฟฟ้าที่น่าสนใจอย่างมากเพราะจากข้อมูลพื้นฐานของตัวรถนั้นถือว่าเหนือกว่า เทสล่า โมเดล เอส ไม่น้อย(ข้อมูล ณ วันที่ 22 ก.ย. 2020 ก่อนการเปิดข้อมูลของ Tesla Model S Plaid Mode ตัวท็อปใหม่ล่าสุด)
X Peng P7
เสี่ยวเผิง แบรนด์น้องใหม่ล่าสุดจากประเทศจีน เปิดตัว P7 ซึ่งถือว่าเป็นรถไฟฟ้าในระดับหรู ที่มาในราคาย่อมเยาอย่างไม่น่าเชื่อ โดยหลังการเปิดตัวในปีนี้ มีการทยอยส่งมอบรถให้กับลูกค้าและส่งรถให้กับสื่อมวลชนในยุโรปได้ทดลองขับกันอย่างจริงๆจัง เพราะรถรุ่นนี้ เสี่ยวเผิง ตั้งใจทำตลาดในยุโรปด้วย
แม้จะเป็นแบรนด์จีน แต่วัสดุที่ใช้นั้นเป็นแบรนด์ยุโรปทั้งสิ้น เริ่มตั้งแต่การออกแบบตัวถังและโครงสร้างใช้การพัฒนาร่วมกันกับทีมวิศวกรของเยอรมัน ระบบเบรกเป็นการร่วมมือจาก Brembo และ Bosch เครื่องเสียงระดับไฮเอนด์จาก Dynaudio และเป็นรถยนต์รุ่นแรกของโลกที่ใช้ NVIDIA’s DRIVE AGX Xavier system-on-a-chip ที่มีความรวดเร็วในการส่งข้อมูลถึง 30 TOPS (30ล้านล้านปฏิบัติการต่อวินาที)
พละกำลังสูงสุด 430 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 655 นิวตันเมตร จากมอเตอร์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ล่าสุดแบบ 3in1 ส่วนแบตเตอรี่เป็นของ CATL ขนาดความจุ 80.9 kWh ทำให้วิ่งได้ระยะทางไกลสุดถึง 706 กม. ตามมาตรฐาน NEDC โดยสามารถใช้เวลาชาร์จเพียง 10 นาที จะได้ระยะทางวิ่งถึง 120 กม. เมื่อชาร์จผ่านระบบชาร์จเร็ว และแช่น้ำลึก 1 เมตรได้นานถึง 48 ชั่วโมงโดยไม่ได้รับความเสียหาย
เสี่ยงเผิง พี7 พร้อมเริ่มส่งมอบให้ลูกค้าตั้งแต่มิถุนายน2020 โดยมี 3 รุ่นย่อย ทั้งแบบขับเคลื่อน 2 ล้อและขับ 4 ล้อ ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 1,030,000-1,567,000 บาท ในประเทศจีน ส่วนประเทศไทยมีลุ้นในการทำตลาดเพราะรถยนต์ไฟฟ้าจากจีนนั้นได้สิทธิพิเศษนำเข้าด้วยอัตราภาษี 0% เพียงแค่รอรุ่นพวงมาลัยขวาผลิตขึ้นมาเท่านั้น
Tesla Model S
เทสล่า ผู้นำตลาดและผู้จุดประกายให้ค่ายรถยนต์ทั้งโลกนี้ ทราบว่า ผู้บริโภคนั้นพร้อมใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าอย่างเต็มรูปแบบแล้ว ซึ่ง โมเดล เอส คือรถยนต์รุ่นแรกที่สร้างกระแสรถไฟฟ้าฟีเวอร์ขึ้น โดยครั้งแรกที่เปิดตัวเมื่อปี 2009 นั้นได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม แต่กว่าจะได้ผลิตจริงและส่งมอบต้องรอจึงถึงปี 2012
แม้จะเป็นรถที่ทำตลาดมาเป็นเวลาถึง 8 ปีแล้ว แต่โมเดล เอส ยังคงได้รับความนิยม เนื่องจาก เทสล่า ได้มีการอัพเดตซอฟแวร์และเติมความสดใหม่ให้กับรถทุกคันอยู่อย่างสม่ำเสมอ รวมถึงการพัฒนาความจุของแบตเตอรี่ให้เพิ่มมากขึ้น ขณะที่รถตัวเก่ายังสามารถเปลี่ยนแบตเตอรี่เพื่อขยับระยะทางวิ่งให้เท่าเทียมกับรถตัวปัจจุบันได้อีกด้วย ซึ่งสิ่งที่เทสล่าทำให้กับ โมเดล เอส นั้นถือเป็นบรรทัดฐานให้กับรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นอื่นๆ ที่จะทำออกมาต้องไม่น้อยกว่านี้
สำหรับรุ่นปัจจุบันนั้น โมเดล เอสได้รับการปรับปรุงเมื่อปีที่แล้ว มี 2 รุ่นย่อยตามพิกัดกำลังของมอเตอร์ไฟฟ้า โดยยังคงใช้แบตเตอรี่มีขนาด 100 kWh เช่นเดียวกับรุ่นปี 2016 (ตัวแรกปี 2012ใช้แบตเตอรี่ขนาด40kWh) ส่วนมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว มีกำลังรวมสูงสุด 778 และ 534 แรงม้า ระยะทางวิ่งสูงสุด 671 และ 713 กม. ตามลำดับ
ล่าสุดมีการเปิดตัวรุ่น Model S Plaid Mode (ข้อมูลวันที่ 23 ก.ย.2020 ตามเวลาในไทย) ที่มีระยะวิ่งไกลสุดกว่า 832 กม. กำลังสูงสุดกว่า 1,100 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาต่ำกว่า 2 วินาที และความเร็วสูงสุดกว่า 320 กม./ชม. รูปร่างเหมือนเดิมทุกอย่าง แต่ที่แตกต่างคือมีการใช้มอเตอร์เพิ่มเป็น 3 ตัว จากรุ่นปกติจะใช้ 2 ตัว โดยเปิดราคาเริ่มต้น 139,990 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือราว 4,340,000 บาท สำหรับการจำหน่ายในอเมริกา กลายเป็นผู้นำอันดับ 1 อีกครั้งในรถEV ปัจจุบัน เรียกว่าเป็นการไม่ยอมให้ใครเหนือกว่าของ อีลอน มัสก์ จริงๆ
จุดเด่นสำคัญของเทสล่าคือ ระบบปฏิบัติการที่ก้าวล้ำนำหน้าคู่แข่งแบบชัดเจนทั้งระบบขับขี่อัตโนมัติ และการอัพเดตซอฟแวร์ที่ทำอย่างต่อเนื่องโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 2,320,000 บาท ในอเมริกา ส่วนในประเทศไทย ไม่มีตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ มีเพียงผู้นำเข้าอิสระที่จำหน่ายในราคาเริ่มต้น 6 ล้านกว่าบาทขึ้นไป
BYD Han EV
สำหรับคนที่ติดตามข่าวสารในแวดวงรถไฟฟ้ามาอย่างต่อเนื่อง คงไม่แปลกใจที่ได้เห็นชื่อของ BYD ขึ้นมาอยู่ในรายชื่อรถยนต์ไฟฟ้า เนื่องจาก บีวายดี นั้นถือว่าเป็นแบรนด์ในลำดับต้นๆ ของจีนที่มีชื่อเสียงในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแบบใช้แบตเตอรี่ แต่อาจจะมีประหลาดใจอยู่บ้างตรงส่วนของรถหรู เพราะบีวายดีนั้นเชี่ยวชาญในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแบบแมส ไม่ว่าจะเป็นรถบัส รถสาธารณะและรถแท็กซี่
BYD Han EV นี่คือ ผลิตผลจากประสบการณ์นับ 10 ปี ของบีวายดี ที่ตั้งใจสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นบรรทัดฐานใหม่ให้โลกนี้ได้รับรู้ว่า อุตสาหกรรมผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของจีนนั้นก้าวมาถึงจุดที่สามารถผลิตรถหรูได้ไม่น้อยหน้าแบรนด์จากชาติอื่นๆ
พละกำลังสูงสุดของ Han Ev มีให้เลือกตั้งแต่ 222 แรงม้า จากมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว ไปจนถึง 494 แรงม้า จากมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ โดยมีระยะทางวิ่งสูงสุดเคลมไว้ที่ 605 กม. อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.9 วินาที นับว่าเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่เร็วที่สุดของจีนในเวลานี้
แบตเตอรี่ใหม่ ปลอดภัยขึ้น2เท่า , แอร์แบ็ก 11 ใบ , กล้อง 6 ตัว และระบบ DiPilot คือมาตรฐานความปลอดภัยใหม่ใน Han EV พร้อมรองรับการอัพเกรดต่างๆ ในอนาคต โดยเปิดราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 1,010,000 บาท และเริ่มส่งมอบแล้วในประเทศจีนเมื่อเดือนกรกฎาคม 2020 หลังจากนั้นจะเป็นการทำตลาดแบบทั่วโลกต่อไป
Polestar 2
โพลสตาร์ แบรนด์ น้องใหม่ในเครือของ วอลโว่ ที่จงใจสร้างแบรนด์นี้ขึ้นมาเพื่อทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ โดย Polestar2 นั้น ผลิตจากโรงงานที่ประเทศจีน และจะส่งไปทำตลาดทั่วโลก โดยจุดหมายสำคัญคือการทำตลาดในยุโรปเป็นหลัก
พละกำลังสูงสุด 408 แรงม้า จากมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว หน้าและหลัง ขับเคลื่อนสี่ล้อ แรงบิดสูงสุด 660 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ลิเธียม ไออน ขนาด 78 kWh สามารถวิ่งได้ระยะทางไกลสุด 470 กม. ตามมาตรฐาน WLTP รูปแบบของการออกแบบต่างๆ ทั้งภายในและภายนอกยังคงมีกลิ่นไอของความเป็นรถวอลโว่เอาไว้ไม่แตกต่างจากรุ่นอื่นเท่าใดนัก
ทีเด็ดของ Polestar2 ยกให้กับฟังก์ชันใหม่อย่าง Phone-as-Key ที่สามารถใช้โทรศัพท์มือถือแทนกุญแจรถได้ ส่วนการสั่งซื้อนั้นจะมีจำหน่ายผ่านระบบออนไลน์เท่านั้น ส่วนโชว์รูมจะเป็นเรื่องของการให้ความรู้และการดูแลบำรุงรักษา ไม่มีการขายในโชว์รูม
สำหรับราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ประมาณ 2,225,000 บาท (ราคาจำหน่ายในยุโรป) ส่วนโอกาสในการทำตลาดที่ประเทศไทยนั้นมีค่อนข้างสูงมากเพราะ วอลโว่ ประเทศไทยได้ประกาศนโยบายทำตลาดรถไฟฟ้าอย่างแน่นอนแล้ว แต่ยังไม่เปิดเผยว่าจะเป็นรุ่นใด ซึ่งด้วยเงื่อนไขพิกัดอัตราภาษีนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้า0% จากจีน ทำให้ง่ายต่อการทำตลาด
Porsche Taycan
หนึ่งในแบรนด์ระดับซูเปอร์คาร์ ที่ประกาศตัวเป็นรายแรกๆ ในการทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่ง ไทคานน์ คือรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกที่เปิดตัวสู่สายตาชาวโลก โดยมาพร้อมกับยอดจองก่อนเปิดจำหน่ายมากกว่า 50,000 คันทั่วโลก ด้วยชื่อชั้นของแบรนด์ทำให้ลูกค้ามั่นใจได้อย่างเต็มเปี่ยม
ไทคานน์ มากับหลากหลายทางเลือกพิกัดความแรง โดยรุ่นท็อปสุด เทอร์โบ เอส มีกำลังสูงสุดถึง 761 แรงม้า แรงบิด 1,050 นิวตันเมตร ในบูสต์โหมด และสามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.ได้ในเวลาเพียง 2.8 วินาที วิ่งได้ไกลสุด 412 กม. จากแบตเตอรี่ขนาดมาตรฐาน 79.2
ส่วนรุ่นย่อย 4เอส ที่ได้รับการติดตั้งแบตเตอรี่ขนาดพิเศษ 93.4 kWh จะทำระยะทางวิ่งได้ไกลสุด 463 กม. โดยไทคานน์มากับเทคโนโลยีแรงดันไฟแบบ 800 โวลท์ ที่มีจุดเด่นในเรื่องของการชาร์จไฟ ที่ใช้ระยะเวลาชาร์จเพียง 5 นาที จะได้ระยะทางวิ่งมากถึง 100 กม. (กำลังไฟในการชาร์จ 270 kW)
ไทคานน์เปิดจำหน่ายในประเทศไทยแล้วผ่านเอเอเอส ออโต้เซอร์วิส ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ด้วยราคาเริ่มต้น 7,100,000 บาท ถึง 11,700,000 บาท
นับจากนาทีนี้ไปเราจะได้เห็นการเปิดตัวของรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ทยอยออกมาเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบของซีดานหรือเอสยูวี รวมถึงรถแบบปิกอัพที่เทสล่า ได้นำร่องแล้วและแบรนด์จีนอย่าง เกรท วอลล์ เริ่มส่งสัญญาณว่า พวกเขาก็มีปิกอัพไฟฟ้าเตรียมลงสู่ตลาดด้วยเช่นเดียวกัน ฉะนั้น จงอย่าแปลกใจถ้าในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า รายชื่อรถรุ่นต่างๆ จะมีอักษรต่อท้ายว่า EV กันครบทุกแบรนด์