Lucid แบรนด์รถยนต์น้องใหม่ สัญชาติสหรัฐอเมริกา ก่อตั้งขึ้นโดยอดีตทีมงานของเทสล่าและมาสด้า เมื่อปี 2007 ก่อนที่จะมาทำรถยนต์ไฟฟ้าอย่างเต็มตัวและปล่อยต้นแบบของ ลูซิด แอร์ (Lucid Air) ในปี 2016 ล่าสุดได้รับทุนสนับสนุนจากกลุ่มทุนของตะวันออกกลาง จึงทำให้ลูซิด แอร์ ได้ฤกษ์เผยโฉยอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 9 กันยายน ที่ผ่านมา
ลูซิด แอร์ เป็นรถยนต์ไฟฟ้าชนิดใช้แบตเตอรี่ที่มาในเซกเมนท์ของรถซีดานระดับหรูในระดับเดียวกับ เทสล่า โมเดล เอส และปอร์เช่ ไทคานน์ โดยการออกแบบภายนอกนั้นมีจุดเด่นอยู่ที่รูปทรงปราดเปรียวตามหลักอากาศพลศาสตร์ที่มีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ(cd)ต่ำสุดเพียง 0.21 เท่านั้น
โครงสร้างตัวถังนั้นถูกพัฒนาขึ้นจากเทคโนโลยีอากาศยานในชื่อLucid Electric Advanced Platform (LEAP) ที่ออกแบบมาสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ ซึ่งจะมีความแข็งแรงและพื้นที่ใช้สอยกว้างขวางเป็นพิเศษ กระจกบานหน้าออกแบบอย่างพิถีพิถันโดยไร้กรอบยาวเต็มถึงกึ่งกลางหลังคา เพิ่มมุมมองด้านบนชนิดหาจากรถรุ่นอื่นไม่ได้
ในส่วนของมอเตอร์ไฟฟ้านั้นมีด้วยกัน 2 ตัว พละกำลังสูงสุด 1,080 แรงม้า ขับเคลื่อนสี่ล้อ สามารถทำความเร็วสูงสุดได้มากกว่า 320 กม./ชม. และมีอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ต่ำกว่า 2.5 วินาที สามารถวิ่งควอเตอร์ไมล์(402เมตร) ได้ในเวลาเพียง 9.9 วินาที นับว่าเป็นรถซีดานไฟฟ้าเพียงรุ่นเดียวที่ทำได้ในเวลานี้
แบตเตอรี่ พัฒนาขึ้นโดยทีมวิศวกรของลูซิดที่ใช้เวลากว่า 10 ปีและระยะทางวิ่งทดสอบรวมกันกว่า 20 ล้านไมล์ ผลลัพธ์ที่ได้คือแบตเตอรี่ขนาดพอเหมาะที่มีความจุมากที่สุด 113 kW อยู่บนพื้นฐานของเทคโนโลยีไฟฟ้า 900 โวลท์ สามารถชาร์จไฟ(DC)เพียง 20 นาที วิ่งได้ระยะทางมากกว่า 480 กม. ส่วนระยะทางวิ่งสูงสุดมากกว่า 800 กม. ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง (มาตรฐานการวัด EPA)
การออกแบบและตกแต่งภายในห้องโดยสาร นี่คือจุดเด่นที่สุดอีกประการหนึ่งของ ลูซิด แอร์ ด้วยดีไซน์ที่ล้ำสมัยและสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบในการจัดวางได้ตามความต้องการ (เบาะหลังสั่งพิเศษได้) วัสดุที่ใช้มีคุณภาพสูงเช่น แผงแดชบอร์ดเป็นหน้าจอแสดงผลแบบโค้งขนาด 34 นิ้ว ความละเอียดในการแสดงผลระดับ 5K ส่วนหน้าจอกลางนั้นเป็นแบบพับเก็บได้พร้อมการควบคุมด้วยระบบสัมผัส
สำหรับระบบช่วยการขับขี่ ล้ำหน้าที่สุดในชื่อ Lucid DreamDrive ที่มีทั้ง เซนเซอร์ 32 ตัว, กล้อง, เรดาร์ และอัลตร้าโซนิค พร้อมเสริมด้วยระบบLIDAR ซึ่งทั้งหมดนี้จะทำงานร่วมกันประหนึ่งเป็นบาร์เรียร์ห่อหุ้มรถเอาไว้ ดังนั้นจึงมั่นใจได้เรื่องของระบบความปลอดภัย โดยรองรับการขับขี่อัตโนมัติระดับ 2และ3 ได้อย่างปลอดภัยที่สุด
เหนืออื่นใด ด้วยความร่วมมือกันของ ลูซิดและอะมาซอน พัฒนาระบบสั่งการในชื่อ Alexa ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารสามารถเชื่อมต่อโลกอินเตอร์เน็ตได้ ไม่ว่าจะเป็นระบบแผนที่นำทาง, การสั่งสินค้า , การโหลดหนังและฟังเพลง โดยไม่ต้องละสายตาจากถนน เพียงสั่งด้วยเสียงเท่านั้น ซึ่งการอัพเดตระบบดังกล่าวในอนาคตนั้นสามารถทำได้อย่างง่ายดายด้วยระบบOver-the-Air (OTA)
ลูซิด แอร์ เปิดตัวพร้อมกัน 4 รุ่นย่อยด้วยราคาเริ่มต้นที่ 80,000-169,000 ดอลล่าร์สหรัฐ (ก่อนการสนับสนุนราคาของภาครัฐ) หรือราว 2,400,000-5,000,000 บาท กำหนดเริ่มวางจำหน่ายในช่วงไตรมาสที่สองของปี 2021 โดยเริ่มจากรุ่นท็อปสุดก่อน ส่วนรุ่นราคาต่ำสุดนั้นจะมาในช่วงปี 2022
ลูซิด แอร์ เป็นรถยนต์ไฟฟ้าชนิดใช้แบตเตอรี่ที่มาในเซกเมนท์ของรถซีดานระดับหรูในระดับเดียวกับ เทสล่า โมเดล เอส และปอร์เช่ ไทคานน์ โดยการออกแบบภายนอกนั้นมีจุดเด่นอยู่ที่รูปทรงปราดเปรียวตามหลักอากาศพลศาสตร์ที่มีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ(cd)ต่ำสุดเพียง 0.21 เท่านั้น
โครงสร้างตัวถังนั้นถูกพัฒนาขึ้นจากเทคโนโลยีอากาศยานในชื่อLucid Electric Advanced Platform (LEAP) ที่ออกแบบมาสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ ซึ่งจะมีความแข็งแรงและพื้นที่ใช้สอยกว้างขวางเป็นพิเศษ กระจกบานหน้าออกแบบอย่างพิถีพิถันโดยไร้กรอบยาวเต็มถึงกึ่งกลางหลังคา เพิ่มมุมมองด้านบนชนิดหาจากรถรุ่นอื่นไม่ได้
ในส่วนของมอเตอร์ไฟฟ้านั้นมีด้วยกัน 2 ตัว พละกำลังสูงสุด 1,080 แรงม้า ขับเคลื่อนสี่ล้อ สามารถทำความเร็วสูงสุดได้มากกว่า 320 กม./ชม. และมีอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ต่ำกว่า 2.5 วินาที สามารถวิ่งควอเตอร์ไมล์(402เมตร) ได้ในเวลาเพียง 9.9 วินาที นับว่าเป็นรถซีดานไฟฟ้าเพียงรุ่นเดียวที่ทำได้ในเวลานี้
แบตเตอรี่ พัฒนาขึ้นโดยทีมวิศวกรของลูซิดที่ใช้เวลากว่า 10 ปีและระยะทางวิ่งทดสอบรวมกันกว่า 20 ล้านไมล์ ผลลัพธ์ที่ได้คือแบตเตอรี่ขนาดพอเหมาะที่มีความจุมากที่สุด 113 kW อยู่บนพื้นฐานของเทคโนโลยีไฟฟ้า 900 โวลท์ สามารถชาร์จไฟ(DC)เพียง 20 นาที วิ่งได้ระยะทางมากกว่า 480 กม. ส่วนระยะทางวิ่งสูงสุดมากกว่า 800 กม. ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง (มาตรฐานการวัด EPA)
การออกแบบและตกแต่งภายในห้องโดยสาร นี่คือจุดเด่นที่สุดอีกประการหนึ่งของ ลูซิด แอร์ ด้วยดีไซน์ที่ล้ำสมัยและสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบในการจัดวางได้ตามความต้องการ (เบาะหลังสั่งพิเศษได้) วัสดุที่ใช้มีคุณภาพสูงเช่น แผงแดชบอร์ดเป็นหน้าจอแสดงผลแบบโค้งขนาด 34 นิ้ว ความละเอียดในการแสดงผลระดับ 5K ส่วนหน้าจอกลางนั้นเป็นแบบพับเก็บได้พร้อมการควบคุมด้วยระบบสัมผัส
สำหรับระบบช่วยการขับขี่ ล้ำหน้าที่สุดในชื่อ Lucid DreamDrive ที่มีทั้ง เซนเซอร์ 32 ตัว, กล้อง, เรดาร์ และอัลตร้าโซนิค พร้อมเสริมด้วยระบบLIDAR ซึ่งทั้งหมดนี้จะทำงานร่วมกันประหนึ่งเป็นบาร์เรียร์ห่อหุ้มรถเอาไว้ ดังนั้นจึงมั่นใจได้เรื่องของระบบความปลอดภัย โดยรองรับการขับขี่อัตโนมัติระดับ 2และ3 ได้อย่างปลอดภัยที่สุด
เหนืออื่นใด ด้วยความร่วมมือกันของ ลูซิดและอะมาซอน พัฒนาระบบสั่งการในชื่อ Alexa ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารสามารถเชื่อมต่อโลกอินเตอร์เน็ตได้ ไม่ว่าจะเป็นระบบแผนที่นำทาง, การสั่งสินค้า , การโหลดหนังและฟังเพลง โดยไม่ต้องละสายตาจากถนน เพียงสั่งด้วยเสียงเท่านั้น ซึ่งการอัพเดตระบบดังกล่าวในอนาคตนั้นสามารถทำได้อย่างง่ายดายด้วยระบบOver-the-Air (OTA)
ลูซิด แอร์ เปิดตัวพร้อมกัน 4 รุ่นย่อยด้วยราคาเริ่มต้นที่ 80,000-169,000 ดอลล่าร์สหรัฐ (ก่อนการสนับสนุนราคาของภาครัฐ) หรือราว 2,400,000-5,000,000 บาท กำหนดเริ่มวางจำหน่ายในช่วงไตรมาสที่สองของปี 2021 โดยเริ่มจากรุ่นท็อปสุดก่อน ส่วนรุ่นราคาต่ำสุดนั้นจะมาในช่วงปี 2022
