xs
xsm
sm
md
lg

“รอยัล เอนฟิลด์” รำลึกถึงตำนานนักขับมอเตอร์ไซค์หญิง “วินนี่เฟร็ด เวลส์”

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์






วินนี่เฟร็ดเวลส์ผู้หญิงที่เป็นตำนานรุ่นบุกเบิกแห่งวงการมอเตอร์ไซค์ของรอยัลในโอกาสวันสตรีสากล รอยัลเอนฟิลด์ ขอยกย่องชีวิตอันน่าทึ่งของสุดยอดตำนานนักขี่รถมอเตอร์ไซค์ผู้หญิง“วินนี่เฟร็ด เวลส์”เป็นบุคคลผู้สร้างประวัติการณ์กล้าหาญ และเป็นแรงบันดาลใจให้แก่ผู้หญิงทั่วโลกวินนี่ เฟร็ด เสียชีวิต ณมอร์นิงตันเพนนินซูล่า





เมื่อเดือนธันวาคมปี1950วินนี่เฟร็ดในวัย22ปีเดินทางด้วยรถมอเตอร์ไซค์รอยัลเอนฟิลด์ บุลเล็ต350คนเดียวไป-กลับเป็นระยะทางกว่า5,500ไมล์ข้ามประเทศออสเตรเลียจากเพิร์ธถึงซิดนีย์โดยใช้เวลาเพียง 21วันและอีก 2ปีหลังจากนั้นวินนี่ก็เริ่มการเดินทางครั้งใหม่พร้อมกับพ่อของเธอโดยขี่มอเตอร์ไซค์วนรอบประเทศออสเตรเลียที่มีระยะทางเกือบ10,000ไมล์กินเวลากว่า65วันด้วยสภาพอากาศที่ร้อนถึง44องศาเซลเซียส “วินนี่เฟร็ด เวลส์”เป็นบุคคลผู้สร้างประวัติการณ์กล้าหาญ และเป็นแรงบันดาลใจให้แก่ผู้หญิงทั่วโลกรวมทั้งวงการมอเตอร์ไซค์ในอดีตจนถึงปัจจุบันที่ต่างยกย่องวีรกรรมความกล้าของเธอในการขี่มอเตอร์ไซค์รอยัลเอนฟิลด์วนรอบประเทศออสเตรเลียในปี50



ไม่สนใจแรงต้านจากผู้ชาย

วินนี่ เกิดเมื่อปี 1928 ณ รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย เป็นคนที่ไม่เหมือนใครตั้งแต่เด็กเพราะเต็มไปด้วยจิตวิญญาณของนักสำรวจและความโหยหาการผจญภัยอย่างไม่มีที่สิ้นสุด จึงไม่น่าแปลกใจที่เธอสามารถกลายมาเป็นตำนานหญิงเหล็กแห่งวงการมอเตอร์ไซค์ด้วยอายุเพียง 22 ปี เมื่อ วินนี่ ตัดสินใจเลือกเส้นทางเป็นนักบิดมอเตอร์ไซค์ เธอต้องเจอกับแรงต้านทานจากไบค์เกอร์เพศชายอย่างมาก เพราะโลกแห่งมอเตอร์ไซค์ในอดีตก็ไม่ต่างจากโลกของผู้ชาย ที่มักดูแคลนผู้หญิงอายุน้อยที่พยายามจะเข้ากลุ่มกับพวกเขา แต่ด้วยนิสัยที่ไม่ยอมแพ้ของวินนี่ เธอตั้งใจจะไม่ให้ใครมาดูถูก วินนี่วางแผนที่จะขี่มอเตอร์ไซค์ข้ามออสเตรเลียในแบบที่สิงห์มอเตอร์ไซค์ชายคงได้แต่ฝันที่จะทำ











สตาร์ทรถ แล้วบิดไปให้สุดเส้นทางฝันเพียงคนเดียว



ในวันที่เธอได้เป็นเจ้าของรอยัล เอนฟิลด์ บุลเล็ต 350 ซีซี เธอป่าวประกาศว่าเธอจะเป็นผู้สร้างสถิติการเดินทางจากชายฝั่งตะวันตกไปสุดชายฝั่งตะวันออกภายใน 3 สัปดาห์ ตัดผ่านใจกลางออสเตรเลียที่แสนท้าทาย จากเพิร์ธถึงซิดนีย์และกลับในเส้นทางเดิม ไม่ว่าจะเป็นคำตักเตือนหรือคำขู่จากกลุ่มมอเตอร์ไซค์ผู้ชาย ก็ไม่สามารถบั่นทอนวินนี่ได้ ในวันที่ 26 ธันวาคม 1950 วินนี่เริ่มออกผจญภัยครั้งยิ่งใหญ่ ผ่านภูมิประเทศสุดโหดของพื้นที่ห่างไกลในออสเตรเลียกลางฤดูร้อน








ในสมัยนั้น ถนนในประเทศออสเตรเลียมีสภาพย่ำแย่ วินนี่ต้องฝ่าดงพุ่มไม้สุดทรหด เส้นทางเป็นหลุมเป็นบ่อและยาวสุดลูกหูลูกตา ความยากลำบากนี้เป็นบททดสอบที่ท้าทายความสามารถของวินนี่อย่างถึงที่สุด เพียง 2 วันหลังออกเดินทาง วินนี่ร่วงลงจากรถมอเตอร์ไซค์ที่กำลังแล่นลงบนพื้นกรวดทำให้หัวแตก เหตุการณ์เช่นนี้อาจเป็นการจบการเดินทางที่สมเหตุสมผลของใครหลายคนแต่ไม่ใช่กับวินนี่ เธอไม่สนใจคำแนะนำที่ให้เธอเข้าพบแพทย์และกลับบ้านของผู้คนที่เห็นอุบัติเหตุ วินนี่กลับดูไม่เดือดร้อนและมุ่งมั่นมากขึ้นที่จะพิชิตการผจญภัยครั้งนี้





เส้นทางที่อันตรายที่สุดที่วินนี่จะต้องผ่านคือ ที่ราบนูลลาร์บอร์ ทะเลทรายอันร้อนระอุยาว 1,000 ไมล์ ที่มีอุณหภูมิสูงกกว่า 40 องศาเซลเซียสในฤดูร้อน
ท่ามกลางคำครหา วินนี่เดินทางถึง แอดิเลด รัฐเซาท์ออสเตรเลีย ในวันปีใหม่ และภายในวันที่ 5 มกราคมเธอก็เดินทางถึงซิดนีย์ ครึ่งทางของระยะทางทั้งหมด เธอมุ่งหน้าสู่โลกกว้างอีกครั้ง และอีกเพียง 1 อาทิตย์ ในวันที่ 16 มกราคม 1951 วินนี่ก็กลับถึงบ้านที่เพิร์ธ โดยเธอพิชิตการเดินทางเป็นระยะทาง 5,504 ไมล์ ภายใน 15 วัน ซึ่งหมายความว่าเธอขี่มอเตอร์ไซค์ถึง 366 ไมล์ ต่อวันโดยเฉลี่ย








การเดินทางครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต

การเดินทางครั้งแรกของเธอเปรียบดั่งเชื้อเพลิงที่ขับเคลื่อนไฟแห่งความกระหายการผจญภัย วินนี่ตั้งเป้าหมายใหม่คือการขี่มอเตอร์ไซค์วนรอบประเทศออสเตรเลีย โดยมีจอร์จ พ่อของเธอขี่รอยัล เอนฟิลด์ บุลเล็ต ร่วมทางไปด้วย ครั้งนี้เธอมีมอเตอร์ไซค์รอยัล เอนฟิลด์คู่ใจคันใหม่ ทั้งคู่ออกจากเพิร์ธในวันที่ 23 กันยายน 1952 มุ่งหน้าไปทางเหนือสู่การผจญภัยครั้งใหม่






ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี กระทั่งถึงพื้นทรายแห่งพาร์ดู เส้นทางที่ไม่มีถนนตัดผ่านและยาวถึง 100 ไมล์ หลังการฝ่าพายุทรายมีชายชาวบ้านคนหนึ่งเข้ามาต่อว่าจอร์จว่าเขาไม่ควรพาลูกสาวมาเสี่ยงชีวิตเช่นนี้ จอร์จต้องใช้ความพยายามอย่างมากเพื่ออธิบายว่าทั้งหมดนี้เป็นแผนการเดินทางของลูกสาวเขา ส่วนตัวเขาเป็นเพียงเพื่อนร่วมทางเท่านั้น





หลังจากผ่านพื้นที่ที่ทรหดที่สุดบนเส้นทาง ทั้งสองคนก็เดินทางถึง แคนส์ ตอนเหนือของรัฐควีนส์แลนด์ในวันที่ 24 ตุลาคม และ บริสเบนในวันที่ 3 พฤศจิกายน ในเส้นทางลงใต้ที่เป็นใจด้วยถนนเรียบตรง วินนี่สามารถเร่งความเร็วมอเตอร์ไซค์ได้จนเท้าลอย ทั้งคู่ถึงซิดนีย์ในวันที่ 7 พฤศจิกายน และท้ายที่สุดกลับถึงเพิร์ธในวันที่ 26 พฤศจิกายน การขี่มอเตอร์ไซค์วนรอบประเทศออสเตรเลียครั้งนี้มีระยะทางเกือบ 10,000 ไมล์ และใช้เวลาถึง 65 วัน







ร่วมรำลึกความกล้าหาญ

ชีวิตของวินนี่ได้สร้างการผจญภัยที่ยิ่งใหญ่ถึงสองครั้ง และยังเป็นแรงบันดาลใจเพื่อท้าทายขีดความสามารถเพื่อออกไปค้นหาสิ่งที่ไม่เคยพบเห็น หลังจากนั้นเธอยังเข้าแข่งรถมอเตอร์ไซค์ ผันตัวมาเป็นนักบินพาณิชย์ และได้เป็นเนวิเกเตอร์ให้แชมป์ของการแข่งขันการบินอีกด้วย



วินนี่เฟร็ด เวลส์ จากไปเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2563 ด้วยวัย 92 ปี เธอคือตำนานความกล้าแกร่ง ความเด็ดเดี่ยว และการบุกเบิกการผจญภัยบนรถมอเตอร์ไซค์ ปฏิเสธไม่ได้ว่าเธอจะยังคงเป็นดาวที่ส่องแสงให้แรงบันดาลใจต่อผู้คนอีกมากมายไปอีกหลายสิบปี



นายวิมัล ซุมบ์ลี หัวหน้าฝ่ายธุรกิจประจำภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก รอยัล เอนฟิลด์ กล่าวว่า “เราขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของวินนี่ สิ่งที่วินนี่ได้ทำเมื่อตอนเธออายุ 22 ปี เป็นเรื่องที่น่ายกย่องและเป็นแรงบันดาลใจอย่างแท้จริง การเดินทางครั้งนั้นคือประวัติการณ์ ความกล้าหาญ และการตัดสินใจที่เด็ดเดี่ยวมากในการเอาชนะระยะทางกว่า 5,500 ไมล์ ภายใน 21 วัน โดยต้องผ่านอุปสรรคมากมาย”


กำลังโหลดความคิดเห็น