รถในตระกูล แซด Z ของบีเอ็มดับเบิลยูนั้นเริ่มต้นขึ้นในปี 1989 ด้วยคุณลักษณะแบบสองประตูหลังคาเปิดได้ ซึ่งหากให้นับตั้งแต่เริ่มต้นในปัจจุบันจะเข้าสู่เจเนอเรชันที่ 6 ของรถในแบบโรดสเตอร์นี้ แต่หากนับเฉพาะการเป็นแซด 4 โมเดลรหัส จี 29 นี้จะถือว่าเป็นเจเนอเรชันที่ 3 ซึ่งเปิดตัวสู่สายตาชาวโลกเมื่อปี 2018
สำหรับประเทศไทย นั้น เปิดตัว แซด 4 พร้อมกันสองเครื่องยนต์คือ แบบ 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร และแบบ 6 สูบ ขนาด 3.0 ลิตร โดยเปิดตัวเมื่อปี 2019 ซึ่งเซกเมนท์นี้ถือว่าเป็น Niche Market ที่มีลูกค้าเฉพาะกลุ่ม ยอดขายไม่เยอะเท่ากับรถตลาด แต่ถือว่าเป็นภาพลักษณ์ที่สร้างให้ค่ายใบพัดสีฟ้านั้นมีความโดดเด่นและชัดเจนในความเป็นสปอร์ต โดยทีมงาน เอ็มจีอาร์ มอเตอริ่ง มีโอกาสได้สัมผัสกับเจ้า BMW Z4 M40i ขอนำมาเล่าสู่กันฟังว่าขับแล้วเป็นอย่างไร
หัวใจ6 สูบ เทอร์โบ
BMW Z4 M40i พกพาหัวใจแบบ 6 สูบแถวเรียง พิกัด 3.0 ลิตรเบนซิน ทวิน พาวเวอร์เทอร์โบ ที่ให้กำลังสูงสุด 340 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนล้อหลัง พร้อมส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม. อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 4.5 วินาที อัตราการบริโภคน้ำมันเคลมไว้ที่ 14.3 กม./ลิตรตามมาตรฐานอีโคสติกเกอร์
ในส่วนของการออกแบบภายนอกนั้น มากับหลังคาอ่อนแบบพับเก็บได้ด้วยไฟฟ้า ซึ่งสามารถเปิด-ปิดได้ในเวลาเพียง 10 วินาทีขณะวิ่งที่ความเร็วไม่เกิน 50 กม./ชม. โดยไม่มีรุ่นหลังคาแข็งจำหน่ายแต่อย่างใด สิ่งเดียวที่น่าห่วงของการใช้หลังคาผ้าใบนั่นก็คือ การโดนแกล้งด้วยการกรีดหรือการขับไปแล้วโดนกิ่งไม้ขูด ซึ่งจะทำความเสียหายที่ไม่น่าเกิดขึ้นให้กับหลังคาได้
ไฟหน้าถือว่ามีความโดดเด่นมาด้วยชุดไฟแบบ Adaptive LED ปรับลำแสงตามการหมุนของพวงมาลัยได้ ระบบช่วงล่างของตัว M40i เป็นแบบ Adaptive ปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการผ่านโหมดการขับขี่ในตัวรถ และระบบเฟืองท้ายแบบ M Sport ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นออฟชันที่ใส่ให้เฉพาะรุ่นนี้เท่านั้น
ส่วนออฟชันเด่นอื่นๆ เช่น ชุดเบรก M Sport สีน้ำเงินดูแปลกตาตัดกับรถสีแดงเป็นอย่างยิ่ง , ระบบปลดล็อกประตูอัจฉริยะ ที่ใช้งานได้ง่ายดายจริง, ระบบไฟนำทางเข้าบ้านหลังดับเครื่องยนต์ ช่วยให้ปลอดภัยเวลาเดินไปเปิดประตูบ้าน และ ล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว ลายดูสปอร์ตดี
การออกแบบภายในคงเอกลักษณ์ของความเป็นบีเอ็มดับเบิลยูเอาไว้เหมือนเช่นเดิม เบาะนั่งหนังแท้ปรับไฟฟ้าขนาดใหญ่นั่งสบาย พร้อมตัวปรับหนุนหลังแบบไฟฟ้าสำหรับเบาะผู้โดยสารอีกด้วย และจุดเด่นอีกประการสำหรับรุ่น M40i คือเข็มขัดนิรภัยมากับดีไซน์ M
แสงไฟในห้องโดยสารยามค่ำคืนสามารถปรับเปลี่ยนได้ 11 รูปแบบ 6 สี ระบบความบันเทิงเป็นเครื่องเสียงรอบทิศทางจาก Harman Kardon ลำโพง12 ตัว รองรับการเชื่อมต่อผ่านบลูทูธ USBและที่ชาร์จไร้สาย โดยมีระบบ BMW ConnectedDrive ช่วยเพิ่มความอุ่นใจตลอดการเดินทางในทุกเส้นทาง
หนึบและเร้าใจสไตล์บิมเมอร์แท้
ทันทีที่รับรถมา ความรู้สึกแรกคือ หนึบมาก ไม่คาดคิดมาก่อนว่ารถเล็กแบบนี้จะหนึบและแน่น ผิดจากแซด 4 เดิมไปอย่างหน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียว คันเร่งที่ค่อนข้างเบาเท้า เหยียบง่าย ให้ความรู้สึกสบายตลอดการเดินทางคือสิ่งแรกที่สร้างความประทับใจ
การที่ช่วงล่างหนึบและยังสามารถดูดซับแรงสะเทือนได้ดีชนิดที่ท้องไส้ไม่ปั่นป่วน ต้องชื่นชมระบบช่วงล่างแบบ Adaptive M ที่มีเฉพาะในรุ่น M 40i เท่านั้น โดยระบบนี้สามารถปรับเปลี่ยนระดับความแข็งได้ตามความต้องการ ผ่านโหมดขับขี่ โดยโหมดสปอร์ตนั้นจะรู้สึกว่าแข็งขึ้นและเครื่องยนต์จะมีรอบสูงตลอดเวลา ส่วนโหมด comfort ให้ความรู้สึกหนึบและสบายสมกับชื่อโหมดจริงๆ ซึ่งเป็นโหมดที่เราใช้มากกว่า 90% ในการขับรอบนี้
ลองกดคันเร่งออกตัวคิกดาวน์แบบพุ่งสุด หลังติดเบาะ อะดรีนาลีนหลั่งพอเป็นกระษัย ให้ความเร้าใจได้ ตัวรถทรงตัวดีมาก ไม่มีอาการเป้หรือท้ายปัดแต่อย่างใด เรียกว่าเกาะหนึบอย่างแท้จริงๆ สมกับเป็นรถที่เหล่าบิมเมอร์ชื่นชอบ
การกดคันเร่งเพื่อแซงในย่านความเร็วปานกลางจาก 60 กม./ชม. ไปถึงราว 120 กม./ชม. ทำได้อย่างทันท่วงที ไร้อาการรอรอบ การตอบสนองของเครื่องยนต์และการส่งกำลังของเกียร์อัตโนมัติ ทำได้อย่างราบรื่นไร้รอยต่อ ถูกจริตคนที่ชอบขับรถเน้นความสนุกสนานแบบปลอดภัยอย่างแน่นอน
ความเร็วสูงสุดที่เราทำได้โดยทดลองขับในพื้นที่ปิด เข็มไมล์แตะที่ 180 กม./ชม. ตัวรถยังคงนิ่งและทรงตัวดีไม่ต่างจากการวิ่งด้วยความเร็ว 120 กม./ชม. ส่วนแรงสั่นสะเทือนมีบ้างตามลักษณะของพื้นถนน ขณะที่เสียงรบกวนนั้นต้องยอมรับว่า มีเสียงดัง ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติของรถเปิดประทุนหลังคาผ้าใบ แต่ถือว่าทำได้ดีงามกว่ารถคูเป้หลังคาแข็งหลายๆ รุ่น โดยเฉพาะในส่วนของเครื่องยนต์ที่เงียบ เสียงท่อคำรามดังกว่า
การวิ่งแบบเปิดประทุนหากลดกระจกลงมาลมจะเข้ามาตีหน้าเต็มๆ แต่เมื่อปิดกระจกลมนั้นไม่มีเข้ามาประทะใบหน้าเลย จะมีเพียงลมที่มาจากด้านหลังบ้างบางครั้งหากขับด้วยความเร็วที่เกินกว่า 100 กม./ชม. ต้องชมการออกแบบตัวถังและการใช้แผงบังลมช่วยให้อากาศไหลผ่านได้อย่างสะดวก
การบังคับควบคุมพวงมาลัย เบามือในย่านความเร็วต่ำแหละหนักมือเมื่อวิ่งด้วยความเร็วสูง การเข้าโค้งเกาะหนึบและแม่นยำ ไม่มีความกังวลหรือข้อสงสัยแต่อย่างใด
จุดอ่อนของแซด 4 คงเป็นเรื่องของทัศนวิสัย เสาเอ นั้นมีขนาดใหญ่และกระจกบานหน้าค่อนข้างเล็ก สองสิ่งนี้เป็นจุดที่ต้องคำนึงถึงอย่างยิ่ง หากคุณไม่ชอบรถแคบหรือมีสายตาที่ต้องการรถกระจกหน้าบานใหญ่จะได้เห็นชัดๆ แซด 4 ไม่เหมาะกับคุณ
การขับส่วนใหญ่เราเน้นไปที่การใช้งานแบบชีวิตประจำวัน แซด 4 ตอบโจทย์ใช้งานอย่างสนุกสนานได้ทุกวัน ไม่เหนื่อยล้าและขนของได้พอประมาณกระเป๋าเดินทางขนาด 20 นิ้วใส่ได้สบาย โดยอัตราการบริโภคน้ำมันนั้นเฉลี่ยอยู่ในระดับ 8-9 กม./ลิตร
เหมาะกับใคร
นี่คือหนึ่งในรถที่สามารถสะท้อนตัวตนในความเป็น บิมเมอร์ (ชื่อเรียกของกลุ่มคนที่ใช้งานรถบีเอ็มดับเบิลยู) ที่แท้จริงได้อย่างชัดเจนที่สุด ช่วงล่างเกาะหนึบ เครื่องยนต์ที่ตอบสนองทันใจ ขับสนุกในทุกย่านความเร็ว ไม่ต้องแคร์ผู้โดยสารแถวหลัง เพราะมีแค่ 2 ที่นั่ง Z4 M40i คันนี้ใช่สำหรับ บิมเมอร์พันธ์แท้