บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ปอร์เช่อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย จัดกิจกรรม Porsche x Ladies media a chillaxing trip to Nakornpathom เปิดประสบการณ์การขับรถยนต์ปอร์เช่หลากรุ่นแบบเอ็กซ์คลูซีฟกับกลุ่มนักข่าวผู้หญิงจากหลายสื่อ พร้อมท่องเที่ยวพักผ่อนเชิงอนุรักษ์และทำกิจกรรมแบบใกล้ชิดธรรมชาติ โดยเอเอเอสฯ ได้ขนทัพรถปอร์เช่รุ่นเด่นให้ได้ทดสอบและขับขี่กันอย่างเต็มอิ่มถึง 4 รุ่น ได้แก่ คาเยนน์ อี-ไฮบริด (Cayenne E-Hybrid), มาคันน์ (Macan), พานาเมร่า 4 อี-ไฮบริด (Panamera 4 E-Hybrid) และ 718 บ็อกซเตอร์ (718 Boxster)
กิจกรรมทดสอบสมรรถนะของกลุ่มนักข่าวกลุ่มผู้หญิงเริ่มต้นในช่วงสาย ณ ศูนย์บริการ Porsche Centre Bangkok โดยนักข่าวทุกคนจะจับฉลากกันก่อนว่าได้ขับรถรุ่นอะไร และได้นั่งกับใคร สำหรับผู้เขียนจับได้รถปอร์เช่ มาคันน์ พร้อมคู่หูเป็นสาวจากหนังสือ A-CAR ที่สำคัญธีมของทริปนี้ ทางปอร์เช่ ให้ทุกคนใส่เสื้อผ้าสีชมพูและสีแดง ภาพที่เห็นจึงออกแนวแดง ๆ ชมพู ๆ
หลังจากนั้นทั้งหมดมุ่งหน้าสู่จังหวัดนครปฐมแบบสบายๆ เมื่อเริ่มออกเดินทาง ได้ทดสอบการขับขี่ในเมือง บนทางด่วน ก็ต้องบอกว่าอัตราเร่งมาแบบรวดเร็วทันใจ คล่องแคล่ว ขับง่าย พวงมาลัยให้น้ำหนักกำลังดีไม่หนักหรือเบามือจนเกินไป ก่อนจะเปลี่ยนโหมดการขับขี่มาเป็นสไตล์สปอร์ตเพื่อทดสอบสมรรถนะที่ความเร็วเพิ่มมากขึ้น รถปอร์เช่ มาคันนท์ ไม่ทำให้ผิดหวัง ยังให้ความรู้สึกของการขับขี่ที่ไม่ทิ้งลวดลายความสนุกในสไตล์ปอร์เช่ ขณะที่ช่วงล่างให้การยึดเกาะถนนในสไตล์หนึกแน่น ปลอดภัย
พวกเราใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมง คาราวานปอร์เช่ได้มาถึงยังจุดหมายปลายทางที่ อ. นครชัยศรี ณ Dubua Café คาเฟ่และแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติรูปแบบใหม่ในอาณาบริเวณพื้นที่กว่า 50 ไร่ที่โอบล้อมไปด้วยทุ่งดอกบัวสลับสี ทีมงานเอเอเอสฯ ชวนเหล่านักข่าวสตรีเปลี่ยนบรรยากาศจากการขับขี่รถสปอร์ตสมรรถนะสูง มาปั่นจักรยานตามเส้นทางธรรมชาติ ลัดเลาะไปตามโซนกิจกรรมต่างๆ พร้อมแวะให้อาหารในฟาร์มสัตว์เลี้ยงหลากชนิดทั้ง กระต่าย, ม้า, ควาย และไก่
เมื่อปั่นจักรยานและทำกิจกรรมกันจนได้ที่ก็ถึงเวลาอาหารกลางวันเราแวะที่ร้าน หมีมีหมี่ หนึ่งในร้านอาหารยอดนิยมของ Dubua Café เพื่อลิ้มรสอาหารเมนูซิกเนเจอร์ของทางร้าน ในบรรยากาศที่โอบล้อมไปด้วยร่มเงาของต้นไม้ใหญ่และฝูงไก่พันธุ์ซิลค์กี้ขนปุกปุยสุดน่ารักที่เดินเล่นอวดโฉมให้เรานั่งมองอย่างเพลิดเพลินในขณะรับประทานอาหาร หลังจากอิ่มหนำกับอาหารและบรรยากาศเป็นที่เรียบร้อยก็ถึงเวลาอำลา Dubua Café เหล่านักข่าวสตรีก็กลับขึ้นมาประจำการบนรถปอร์เช่เพื่อมุ่งหน้ากลับกรุงเทพฯ ใช้เวลาอีกราว 1 ชั่วโมงเศษ คาราวานปอร์เช่ก็ฝ่าการจราจรอันคับคั่งในช่วงบ่ายแก่ๆ มาถึง ศูนย์บริการ Porsche Centre Bangkok โดยสวัสดิภาพ
สำหรับ ปอร์เช่ มาคันน์ ใหม่ โดดเด่นด้วยภาพลักษณ์ที่สปอร์ต เฉียบคม และล้ำสมัย รายละเอียดปลีกย่อยมากมายล้วนแล้วแต่สะท้อนให้เห็นถึง DNA ของรถสปอร์ตสายพันธุ์แท้จากปอร์เช่
การออกแบบรูปลักษณ์โดยรวมคงความเรียบหรู เน้นความต่อเนื่องโค้งมนกลมกลืนตลอดคัน มุมมองด้านหน้าโฉบเฉี่ยวชวนมองในสไตล์เดียวกับเอสยูวีรุ่นพี่อย่าง คาเยนน์ (Cayenne) และท้ายรถโดดเด่นด้วยแนวไฟท้าย three-dimensional LED พร้อมไฟเบรกแบบสี่ลำแสงที่บ่งบอกเอกลักษณ์ความเป็นรถปอร์เช่ยุคใหม่ ที่โดดเด่น และสง่างาม
ภายในห้องโดยสาร มาพร้อมนวัตกรรมเทคโนโลยีดิจิทัลล้ำสมัย ประกอบด้วยระบบความบันเทิง และติดต่อสื่อสาร เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด ควบคุมและสั่งการผ่านหน้าจอสัมผัสขนาด 10.9 นิ้ว full-HD เช่นเดียวกับ พานาเมร่า (Panamera) และคาเยนน์ (Cayenne) นอกจากนี้ผู้ขับยังสามารถปรับตั้งอินเทอร์เฟซให้เหมาะสมตามความต้องการได้อย่างอิสระ รองรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ หรือโทรศัพท์เคลื่อนที่โดยไร้ข้อจำกัด สะดวกสบายด้วยออดิโออินเทอร์เฟซ (audio interfaces) ถึง 2 รูปแบบ และระบบสั่งงานด้วยเสียง intelligent voice control
นอกจากนี้ยังเพิ่มเติมอุปกรณ์พิเศษหลากหลายรายการ อาทิ พวงมาลัย GT sports ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากรถสปอร์ตระดับเรือธงอย่างปอร์เช่ 911 (Porsche 911) พร้อมชุดสวิทช์เลือกโปรแกรมการขับขี่ และสวิทช์ Sport Response สำหรับ มาคันน์ ที่เลือกติดตั้งชุดแต่งเพิ่มสมรรถนะ รวมไปถึงอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมากมาย อาทิ ระบบไล่ฝ้ากระจกบังลมหน้า ระบบฟอกอากาศ ioniser ทำงานร่วมกับชุดกรองฝุ่นละออง particulate air filter ติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน เพื่อคุณภาพและความสะอาดบริสุทธิ์ของบรรยากาศภายในห้องโดยสาร
ปอร์เช่ มาคันน์ รุ่นนี้ ให้สมรรถนะความแรงจากขุมพลังเบนซิน 4 สูบ เทอร์โบชาร์จ ความจุกระบอกสูบ 2.0 ลิตร ผ่านการปรับแต่งรูปทรงของห้องไหม้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจุดระเบิด ให้พละกำลังสูงสุด 252 แรงม้า (185 กิโลวัตต์) แรงบิดสูงสุดถึง 370 นิวตันเมตร เมื่อประกบกับเกียร์อัตโนมัติอัจฉริยะคลัทช์คู่ 7 จังหวะ PDK ส่งผลให้ยนตรกรรมสปอร์ตเอสยูวี สามารถเร่งความเร็วออกตัวจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายในระยะเวลาเพียง 6.7 วินาที และพุ่งทะยานจนถึงระดับความเร็วสูงสุดที่ 227 กิโลเมตร/ชั่วโมง พร้อมอัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงตามค่าการทดสอบมาตรฐานที่ 12.3 กิโลเมตร/ลิตร หรือ 8.1 ลิตร/100 กิโลเมตร
การทำตลาดในประเทศไทย ปอร์เช่ มาคันน์ เคาะราคาที่ 4.9 ล้านบาท
รถยนต์ปอร์เช่ที่ใช้ในกิจกรรม
พรีเมียม SUV แห่งยุคที่ติดตั้งขุมพลัง E-performance พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกใหม่ล่าสุดผสมผสานการบังคับควบคุมสไตล์สปอร์ต ให้เป็นหนึ่งเดียวกับประสิทธิภาพการทำงานสูงสุดเครื่องยนต์ V6 ขนาดความจุกระบอกสูบ 3.0 ลิตร (340 แรงม้า/250กิโลวัตต์) เสริมพลังด้วยระบบขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้า (136แรงม้า/100 กิโลวัตต์) ให้พละกำลังสูงสุดรวมกว่า 462 แรงม้า (340 กิโลวัตต์) แรงบิดสูงสุดถึง 700 นิวตันเมตร ด้วยแนวคิดในการพัฒนาแบบเดียวกับปอร์เช่ 918 สไปเดอร์ (Porsche 918 Spyder)อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย 29.4 กิโลเมตรต่อลิตร อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 78 กรัมต่อกิโลเมตร อัตราการใช้พลังงานไฟฟ้าที่ 20.6กิโลวัตต์ชั่วโมงต่อระยะทาง 100 กิโลเมตร (ราคาเริ่มต้น 6.3ล้านบาท)
พานาเมร่า 4 อี-ไฮบริด (Panamera 4 E-Hybrid)
รถสปอร์ตซาลูนสุดหรู ที่มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4ล้อและศักยภาพในการขับเคลื่อนด้วยกำลังไฟฟ้า เพียงอย่างเดียวกว่า 50 กิโลเมตร พละกำลังสูงสุดกว่า 462 แรงม้าด้วยการทำงานของระบบมอเตอร์ไฟฟ้า เจเนอเรชั่นใหม่ซึ่งคิดค้นและพัฒนาขึ้นโดยปอร์เช่ ผสานพลังร่วมกับเครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบสมรรถนะสูง ปอร์เช่ พานาเมร่า 4 อี-ไฮบริด มีอัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงที่ประหยัดถึง 40กิโลเมตรต่อลิตร (ราคาเริ่มต้น9.4ล้านบาท)
718 บ็อกซเตอร์ (718 Boxster)
รถสปอร์ตโร้ดสเตอร์ที่สานต่อเทคโนโลยีเครื่องยนต์4สูบเรียงนอนในตำนาน โดดเด่นด้วยระบบอัดอากาศเทอร์โบชาร์จแบบแปรผัน เครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร พละกำลังสูงสุดถึง 300 แรงม้า สำหรับอัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยอยู่ที่13.5 – 14.4 กิโลเมตรต่อลิตร ไม่เพียงเท่านี้ระบบตัวถังใหม่ไม่ว่าจะเป็นฝากระโปรง กระจกบังลมหน้า ภายในของหลังคาประทุน รวมไปถึงชุดแผงหน้าปัทม์ และคอนโซลที่ได้รับการดีไซน์ขึ้นใหม่ทั้งหมด(ราคาเริ่มต้น 6.8ล้านบาท)