บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย เปิดศักราช 2563 เผยโฉมบีเอ็มดับเบิลยู 218i Gran Coupe M Sport ใหม่ พร้อมเสริมแกร่งตระกูลซีรี่ส์ 3 ด้วยรุ่นประกอบในประเทศ ทั้ง 330e M Sport และบีเอ็มดับเบิลยู 320d M Sport
อเล็กซานเดอร์ บารากา ประธาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ประกาศเดินหน้าสร้างความเร้าใจในตลาดตลอดปี 2020 โดยประเดิมด้วยการเปิดตัวรถใหม่ครบทั้งบีเอ็มดับเบิลยู มินิ และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด นำทัพโดยบีเอ็มดับเบิลยู 218i Gran Coupe M Sport ใหม่ บีเอ็มดับเบิลยูซีรี่ส์ 3 รุ่นประกอบในประเทศ มินิ คูเปอร์ เอส คันทรีแมน ไฮทริม (ระบบเกียร์ส่งกำลังใหม่) และบีเอ็มดับเบิลยู S 1000 RR ใหม่ เสริมการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
"ในทุกปี เรามุ่งมั่นสร้างความสำเร็จใหม่ ๆ อันน่าจดจำ ที่นอกจากจะนำเราเข้าใกล้เป้าหมายทางธุรกิจยิ่งขึ้นแล้ว ยังรวมถึงความสำเร็จในการสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้า และการพัฒนาสังคมด้วยนวัตกรรมล้ำสมัยทั้งในด้านรถไฟฟ้า การเชื่อมต่อทางดิจิทัล และการพัฒนาอย่างยั่งยืน ความมุ่งมั่นของเราในการมอบพลังแห่งการเลือกให้แก่ลูกค้าส่งผลให้บีเอ็มดับเบิลยูสามารถครองตำแหน่งผู้ผลิตยานยนต์รายแรกและรายเดียวในประเทศไทยที่นำเสนอตัวเลือกและได้ส่งมอบเทคโนโลยีที่หลากหลายที่สุด ทั้งในระบบเครื่องยนต์สันดาปภายใน ระบบส่งกำลังปลั๊กอินไฮบริด และระบบขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% มาตั้งแต่ปี 2558"
สำหรับในประเทศไทย บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ได้ฝ่าฟันกับอุปสรรคทางเศรษฐกิจทั้งในประเทศและในระดับโลก สู่ภาพรวมของผลประกอบการที่แข็งแกร่ง ด้วยสถิติส่งมอบรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูและมินิจำนวน 12,954 คัน ลดลงเล็กน้อยจากปีก่อนหน้าที่ 1% แต่นับว่าเป็นอัตราที่ดีกว่าตลาดโดยรวมในช่วงเวลาเดียวกัน
บีเอ็มดับเบิลยูปิดฉากปี 2562 ด้วยอดการส่งมอบรถยนต์รวม 11,750 คัน โดยทำภาพรวมผลงานอยู่ในระดับเดียวกับเซกเมนต์รถยนต์พรีเมียม ปี 2562 ยังเป็นปีที่บีเอ็มดับเบิลยูสร้างผลงานล้ำหน้าในเซกเมนต์รถหรูด้วยยอดขายจากบีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 7, บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 8, บีเอ็มดับเบิลยู X7 และบีเอ็มดับเบิลยู i8 ที่เติบโตโดยรวมที่ 39% เมื่อเทียบปีต่อปี และสำหรับรถยนต์ที่ผ่านการใช้งานแล้วตามโปรแกรม BMW Premium Selection มีอัตราการเติบโตที่ 16% เมื่อเทียบปีต่อปี ในขณะเดียวกัน มินิ ยังสร้างปีแห่งปรากฏการณ์ด้วยยอดส่งมอบรถยนต์ 1,204 คัน โตขึ้นถึง 15% จากปีก่อนหน้า นับเป็นยอดการเติบโตที่สูงที่สุดเมื่อเทียบกับตลาดมินิทั่วโลก
“ทั้งบีเอ็มดับเบิลยูและมินิพร้อมสานต่อความสำเร็จในปี 2563 จากกลยุทธ์ทางธุรกิจที่วางแผนเพื่อการเติบโตในอนาคตซึ่งช่วยให้สร้างผลงานอย่างน่าพอใจ ไม่ว่าจะเป็นการมาถึงของบีเอ็มดับเบิลยู X7 ที่เปิดโอกาสเติบโตสำคัญในเซกเมนต์ SAV หรู ในขณะที่บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 7 รุ่นปรับโฉมใหม่ที่เปิดตัวไปเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ก็ยังคงสร้างแรงกระตุ้นต่อเนื่องให้กับเซกเมนต์เช่นเดียวกัน ด้านมินิ ทำผลงานฉลองการครบรอบ 60 ปีได้อย่างงดงาม โดยการเปิดตัวมินิ คูเปอร์ เอสอี ที่แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของเราที่จะผลักดันมินิสู่ยนตรกรรมแห่งอนาคต โดยไม่ละทิ้งตัวตนอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์” บารากา กล่าว
ผลการดำเนินธุรกิจในระดับโลกของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ยังคงสร้างสถิติความสำเร็จสูงสุดอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 9 ติดต่อกันในปี 2562 ที่ผ่านมา ด้วยยอดการส่งมอบรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู มินิ และโรลส์-รอยซ์รวมทั้งหมด 2,520,307 คัน เพิ่มขึ้นกว่าปีก่อนหน้า 1.2% ถือเป็นอีกหนึ่งปีที่บีเอ็มดับเบิลยูและบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราดทำยอดขายทั่วโลกสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ส่วนกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าก็เติบโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยได้ส่งมอบรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) และรถยนต์พลังงานไฟฟ้าจากทั้งบีเอ็มดับเบิลยูและมินิไปแล้วถึง 500,000 คัน
รถยนต์ในกลุ่มยานยนต์ไฟฟ้าของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ปได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปัจจุบันมีสมาชิกในไลน์อัพรวมทั้งหมด 12 รุ่น ซึ่งยอดขายจากทั้งบีเอ็มดับเบิลยู และมินิได้เติบโตขึ้น 2.2% จากยอดการส่งมอบ 145,815 คันในปีที่ผ่านมา และได้ตั้งเป้าขยายทัพรถยนต์ในกลุ่มยานยนต์ไฟฟ้าให้ครบ 25 รุ่นภายในปี 2566 โดยกว่าครึ่งของจำนวนนี้จะเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้าล้วน 100%
สำหรับปี 2563 นี้ ลูกค้า จะได้ยลโฉมขบวนรถยนต์ใหม่จากบีเอ็มดับเบิลยู นำโดยบีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 2 Gran Coupe ใหม่ล่าสุด ที่มาพร้อมกับความแปลกใหม่เฉพาะตัวและสุนทรียะเหนือชั้นที่มอบทุกอารมณ์การขับขี่ รวมไปถึงบีเอ็มดับเบิลยู 330e M Sport รุ่นประกอบในประเทศที่เสริมขุมพลังขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า และบีเอ็มดับเบิลยู 320d M Sport ที่ทรงพลังและประหยัดน้ำมันยิ่งกว่าเคย ซึ่งรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 3 ทั้ง 2 รุ่นนี้ พิสูจน์ให้เห็นถึงความเป็นเลิศและศักยภาพแห่งการประกอบรถยนต์ในประเทศของโรงงานที่ระยองโดยบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย
สนนราคาของ บีเอ็มดับเบิลยู 218i Gran Coupe M Sport ใหม่ ราคาจำหน่าย: 2,399,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และโปรแกรมบำรุงรักษา BSI Standardบีเอ็มดับเบิลยู 320d M Sport ใหม่ (ประกอบภายในประเทศ) ราคาจำหน่าย: 2,549,000 บาท (พร้อมโปรแกรมบำรุงรักษา BSI Standard) และบีเอ็มดับเบิลยู 330e M Sport ใหม่ (ประกอบภายในประเทศ)ราคาจำหน่าย: 2,799,000 บาท (พร้อมโปรแกรมบำรุงรักษา BSI Standard)
ด้าน มินิ คูเปอร์ เอสอี ใหม่ ราคาจำหน่าย: 2,290,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม โปรแกรมบำรุงรักษา MSI Standard) ,มินิ คูเปอร์ เอส คันทรีแมน ไฮทริม (ระบบเกียร์ส่งกำลังใหม่) ราคาจำหน่าย: 2,499,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และโปรแกรมบำรุงรักษา MSI Standard)
บีเอ็มดับเบิลยู S 1000 RR ใหม่ ราคาจำหน่าย: 1,020,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและแพ็คเกจ BMSI Standard) สำหรับสี Racing Red 1,050,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและแพ็คเกจ BMSI Standard) สำหรับสี Light White /Racing Blue Metallic / Racing Red