หลังจากเปิดตัวเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว สำหรับ “ออลนิว อีซูซุดีแมคซ์ พลานุภาพ...พลิกโลก!” ล่าสุดถึงเวลาที่อีซูซุได้จัดทริปพาสื่อมวลชนมาลองขับ ออลนิว อีซูซุดีแมคซ์ ใหม่ล่าสุด โดยพาไปแอ่วเหนือลัดเลาะเส้นทางขึ้น-ลงเขา ชมที่เที่ยวบนเส้นทางเชียงใหม่ – เชียงดาว รวมระยะทางมากกว่า 250 กม.
กิจกรรมดังกล่าวนอกจากได้ลองขับรถอีซูซุดีแมคซ์ ใหม่แล้ว ยังได้เก็บและชิมสตรอว์เบอร์รีสดกลางสวน , ไหว้พระวัดถ้ำเชียงดาว, ชมวิวหลักล้านของดอยหลวงเชียงดาวแบบเต็มตาท่ามกลางลมหนาวเบา ๆ และไม่พลาดการแชะ & แชร์รูปสวย ๆ กลางสวนดอกไม้ แหล่งเช็คอินสุดชิคล่าสุดของเชียงใหม่
ปิกอัพ “ออลนิว อีซูซุดีแมคซ์ พลานุภาพ...พลิกโลก!” ภายนอกออกแบบใหม่หมด ตัวรถมีมิติที่ใหญ่และบึกบึนยิ่งขึ้น ให้ความรู้สึกทรงพลังแต่ยังปราดเปรียว พร้อมฟังก์ชั่นใหม่ อาทิ ไฟหน้า Isuzu Vision Bi-LED ไฟ Multifunctional Daylight แบบ Built-in และไฟตัดหมอก LED ไฟท้าย Dual-Sonic LED กันชนท้าย Integrated Bumper เป็นหนึ่งเดียวกับตัวรถ และล้อที่ลงตัวกับดีไซน์รถ โดยรวมแล้วจึงเป็นรถที่โดดเด่นสะดุดตา โดยเฉพาะเมื่อขับกันเป็นขบวนเหมือนการเดินทางครั้งนี้
เมื่อจัดแบ่งรถกันเป็นที่เรียบร้อยก็ได้เวลาออกเดินทางสำหรับคณะสื่อมวลชน โดยใช้เส้นทางสายแม่ริม ส่วนการขับนั้นรถคันเรามี 3 สื่อ ก็เลยสลับกันขับเป็นช่วง ๆ โดยเอ็มจีอาร์ มอเตอริ่ง รับไม้แรก สำหรับรถที่เราขับเป็นรุ่น Vcross ขับเคลื่อน 4 ล้อ หลังขึ้นนั่งหลังพวงมาลัยปรับเบาะ ปรับกระจก เป็นที่เรียบร้อย ก็เริ่มออกเดินทางกัน โดยมีพัฒนเดช อาสาสรรพกิจ เป็นผู้นำทาง
การขับขี่รู้สึกได้เลยว่าขับสบายขึ้นกว่ารุ่นเดิม การทรงตัวรถนิ่งขึ้น ไม่กระเทือน โดยเฉพาะวิ่งในเมือง คล่องแคล่ว พวงมาลัยไม่เบาไม่หนักกำลังดี วงเลี้ยวแคบดี แม้ผู้เขียนจะไม่ชอบขับรถใหญ่ แต่พอได้ขับก็ขับง่าย ไม่ได้มีความรู้สึกว่ามันใหญ่ พอมาใช้ความเร็วสูงนิดหน่อยก็ต้องบอกว่า อัตราเร่งมารวดเร็วทันใจ ขับแบบสบาย ๆ เลย
เพื่อจะไปเติมพลังอาหารกลางวันที่ “ฮิมน้ำแม่จะ” เส้นทางเป็นช่วงตัดเข้าสู่เส้นโป่งแยง-สะเมิง เป็นทางโค้งขึ้นเขาตลอดระยะทาง จึงเป็นโอกาสให้ทุกคนได้รับรู้ถึงสมรรถนะและช่วงล่างที่ยอดเยี่ยมของเครื่องยนต์ อีซูซุ 3.0 และ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์เรียกพลังลุยได้ตั้งแต่รอบต่ำ ให้กำลังปีนไต่สูง เข้าโค้งได้มั่นใจยิ่งกว่าเดิม ระบบกันสะเทือนที่พัฒนาขึ้นด้วยเทคโนโลยีใหม่ช่วยให้รถมีความนุ่มนวลและนั่งสบายขึ้นจริง ๆ
นอกจากนี้ภายในห้องโดยสารใหม่ยังกว้างขวาง นั่งสบาย ไม่อึดอัดทั้งด้านหน้า ด้านหลัง วัสดุที่ใช้ดูพรีเมียมมากกว่ารุ่นเดิม พร้อมฟังก์ชั่นการใช้งานที่ครบครัน ใช้งานง่าย สัมผัสได้ถึงความหรูหรา สะดวกสบาย จึงเป็นรถที่เหมาะสำหรับทุกการเดินทาง
หลังมื้อกลางวันยังเป็นการขับลุยขึ้นเขาต่อเนื่องเพื่อให้ไปถึงยังจุดหมาย “ไร่สตรอว์เบอร์รีวงค์วาน” เจ้าแรกในอำเภอสะเมิงใต้เพื่อไปเก็บและชิมสตรอว์เบอร์รีสีแดงหอมหวานจากต้น ลิ้มลองเมนูเด็ดตำสตรอว์เบอร์รี่รสชาติกลมกล่อม ควบคู่กับสตรอว์เบอร์รีปั่นที่ให้ความสดชื่นสุด ๆ นอกจากนี้ที่ไร่ยังจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากสตรอว์เบอร์รี่หลายรูปแบบให้เลือกซื้อหาเป็นของฝากกันอีกด้วย
จากนั้นขับต่อกันยาว ๆ ไปยัง “วัดถ้ำเชียงดาว” ซึ่งตั้งอยู่เชิงเขาของดอยหลวงเชียงดาว จุดเด่นอยู่ที่ด้านในของบริเวณวัดมีถ้ำขนาดใหญ่ที่มีพระพุทธรูป และศาลพ่อหลวงคำแดง ที่มาของเรื่องราวในตำนานที่กลายเป็นความเชื่อ ความศรัทธาในความศักดิ์สิทธิ์ของถ้ำหลวงเชียงดาว รวมทั้งตื่นตาตื่นใจกับหินงอกหินย้อยที่สามารถจินตนาการเป็นรูปต่าง ๆ ได้มากมาย
แล้วจึงขับต่อไปอีกเล็กน้อยสู่ที่พัก “อาซาเลีย วิลเลจ รีสอร์ท” ที่อยู่ท่ามกลางขุนเขา วิวสวยและมีสไตล์เป็นเอกลักษณ์ด้วยการนำวัสดุจากธรรมชาติและบรรยากาศของท้องถิ่นมาตกแต่ง ที่สำคัญมองเห็นวิวหลักล้านของดอยหลวงเชียงดาวได้อย่างชัดเจน
พวกเราอำลาทริปนี้กับการแวะเที่ยวสวนดอกไม้ละแวกแม่ริมที่กำลังเป็นกระแสดังอยู่ในโซเชียล ที่นี่เดิมเป็นชุมชนที่ปลูกดอกมากาเร็ต รวมถึงดอกคัตเตอร์ขายอยู่แล้ว และเพิ่งเปิดเป็นธุรกิจใหม่ให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา โดยเก็บค่าเข้าคนละ 50 บาท ก่อนจะส่งต่อรถ
“ออลนิว อีซูซุดีแมคซ์ พลานุภาพ...พลิกโลก!” ที่โดดเด่นทั้งรูปลักษณ์ สมรรถนะ ประโยชน์ใช้สอย และความประหยัดน้ำมัน ตอกย้ำความเป็นรถที่เหนือกว่าคำว่าปิกอัพให้สื่อมวลชนอีกกลุ่มได้มาเก็บความประทับใจ ความสุข และความสนุกของการขับรถเที่ยวในเส้นทางเชียงใหม่-เชียงดาวที่ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกหลายแห่งที่รอการค้นพบ