xs
xsm
sm
md
lg

“อีซูซุ” ชี้ ตลาดรถขาลง ปิกอัพแข่งดุ ลุยขายมือสองเพิ่ม

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์







เป็นที่คาดกันว่าตลาดรถยนต์ไทยปีนี้จะซบเซาอยู่ในทิศทางขาลง ไม่เว้นแม้แต่ “อีซูซุ” ที่ “โทชิอากิ มาเอคาวะ” กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด ซึ่งเปิดใจให้สัมภาษณ์ถึงตลาดรถยนต์ที่คาดว่าจะเหลือเพียง 930,000 คัน จากปัจจัยลบรุมเร้า แต่ยังมั่นใจยอดขาย ออลนิว อีซูซุดีแมคซ์จะไปได้ดี หลังผลิตได้ครบทุกรุ่นย่อย พร้อมเสริมด้วยการเริ่มทำธุรกิจรถมือสองที่เข้ามาเติมเต็มให้กลุ่มตรีเพชร






ภาพรวมตลาดรถยนต์ปีนี้


อีซูซุได้เคยคาดการณ์ภาพรวมตลาดรถยนต์ปี 2563 ตั้งแต่ปลายปีที่แล้วว่า จะมียอดจำหน่ายรวม 930,000 คัน ลดลงจากปีที่แล้วที่มียอดจำหน่าย 1 ล้าน 7 พันคัน ตั้งแต่ตอนที่ยังไม่เกิดวิกฤตโคโรน่าไวรัส เนื่องจากไตรมาสสุดท้ายของปีที่แล้วมีสัญญาณบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจโลกชะลอตัวอย่างมาก โดยเฉพาะเศรษฐกิจของจีนที่เป็นคู่ค้าสำคัญของไทยและยังส่งผลกระทบกับประเทศต่าง ๆ ด้วย จึงคิดว่าต้องส่งผลต่อเนื่องมาถึงปีนี้


บวกกับเรื่องเงินบาทที่แข็งค่าอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ถึงช่วงนี้จะอ่อนตัวลงเพราะเรื่องโคโรน่าไวรัส แต่คิดว่าน่าจะกลับมาแข็งค่าอย่างเดิม ซึ่งการแข็งค่าของเงินบาทเป็นปัจจัยลบต่อการส่งออก และกระทบต่อการท่องเที่ยวของไทยด้วย รวมถึงปัญหาภัยแล้งที่ไทยประสบอยู่ เรื่องโคโรน่าไวรัส รอดูว่าจะมีวัคซีนออกมาเมื่อไหร่และจะจบอย่างไร หลังจากนั้นน่าจะต้องมีการประเมินตลาดใหม่













ปัญหาไวรัส โคโรน่ากระทบหรือไม่

ปัญหาไวรัสโคโรน่าส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทย แต่สิ่งที่น่ากังวลอีกสิ่งหนึ่งคือ การส่งออกจากไทยไปจีนจะมีผลกระทบอะไรบ้างหรือเปล่า อย่างไรก็ตามทุกคนเคยมีบทเรียนมาแล้วจากการระบาดของโรคซาร์ส และขณะนี้ทั่วโลกก็ให้ความร่วมมือผนึกกำลังกันแก้ไข ดังนั้นเชื่อว่าเรื่องนี้คงจบลงในเวลาไม่นานนัก


ยอดขายรถยนต์อีซูซุ ปีที่แล้วเป็นอย่างไร


ในปี 2562 ที่ผ่านมาอีซูซุมียอดขายรวมรถครบทุกรุ่น 168, 215 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งตลาด 16.7 % ของตลาดรวม แต่ลดลงจากปี 2561 คิดเป็น -5.4% เนื่องจากมีช่วงเวลาที่เปลี่ยนสายการผลิตเป็น “ออลนิว อีซูซุดีแมคซ์” ทำให้อีซูซุไม่มีรถขายอยู่ระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งปีนี้คิดว่าอีซูซุน่าจะได้ส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้น













ทั้งนี้ การเปิดตัว “ออลนิว อีซูซุดีแมคซ์” เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว แม้จะมีกระแสตอบรับที่ดีมาก แต่เพราะการเปลี่ยนโฉมใหม่หมดทางโรงงานต้องใช้เวลาปรับไลน์ผลิต ดังนั้นจึงยังมีรถจำหน่ายไม่ครบทุกรุ่นย่อย จนกระทั่งในเดือนมกราคมปีนี้ จึงผลิตออกมาครบทุกรุ่นได้ อีซูซุจึงสามารถโปรโมทรถรุ่นนี้ได้อย่างเต็มที่ ดังนั้นปีนี้แม้การแข่งขันจะรุนแรงมากขึ้นก็ตาม แต่มั่นใจว่า โดยรวมแล้วผลที่ออกมาน่าจะดีสำหรับอีซูซุในตลาดรถปิกอัพ อย่างไรก็ตามการที่ตลาดรถรวมหดตัวลงอย่างมาก ถ้าอีซูซุสามารถทำยอดขายได้เท่ากับปีที่แล้วถือว่าดีมากแล้ว

คาดการณ์ตลาดปิกอัพปีนี้




เมื่อเทียบขนาดการเติบโตของรถเก๋งกับรถปิกอัพ ปีที่แล้วหลายค่ายเปิดตัวรถเก๋งรุ่นใหม่ก็ยังไม่ทำให้ตลาดรถเก๋งขยายตัวเลย อย่างไรก็ตามการที่ปีนี้ออลนิว อีซูซุ ดีแมคซ์ มาแบบครบไลน์อัพ ทำให้ค่ายรถยนต์อื่นที่มีรถปิกอัพขายน่าจะมีปรับโฉมสู้ในตลาดด้วย ดังนั้นปีนี้ตลาดปิกอัพน่าจะมีขนาดใหญ่กว่าตลาดรถเก๋ง










ปัจจัยบวก-ลบของปีนี้

ปัญหาของรัฐบาลตอนนี้ คือ เรื่องงบประมาณที่รัฐบาลยังไม่สามารถเบิกจ่ายในโครงการต่าง ๆ ที่ตั้งใจไว้ได้ อีซูซุจึงอยากให้รัฐบาลสามารถนำงบประมาณมาใช้ในการลงทุนต่าง ๆ ตามที่รัฐบาลวางแผนไว้ได้ ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจไทยมีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น


ปีที่แล้วด้วยปัญหาเงินบาทแข็งค่า ได้ส่งผลกระทบอย่างมากกับการส่งออก โดยเฉพาะออสเตรเลียซึ่งเป็นตลาดใหญ่สำคัญของอีซูซุ ปีที่แล้วอีซูซุส่งออกทั้งหมดมากกว่า140,000 คันเล็กน้อย แต่ปีนี้จะเริ่มส่งออก ออลนิว อีซูซุดีแมคซ์ ดังนั้นแม้ภาวะแวดล้อมจะไม่เอื้ออำนวย แต่ยอดส่งออกน่าจะเพิ่มกว่าปีที่แล้วเล็กน้อย โดยจะทยอยเปิดตัวในแต่ละประเทศตามความเหมาะสม

แม้ว่าการเปิดตัวรถรุ่นใหม่จะช่วยให้เราขายเพิ่มได้ แต่การที่ไทยเปิดตัว ออลนิว อีซูซุดีแมคซ์ ตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ทำให้ตลาดส่งออกชะลอตัว เพราะประเทศอื่นรู้เช่นเดียวกันว่ามีรุ่นใหม่ ดังนั้นจึงทำให้ไม่ซื้อรถรุ่นก่อนหน้า เพื่อรถรุ่นใหม่เปิดตัว แต่โดยรวมน่าจะดี ซึ่งเราจะเริ่มส่งออกในอีกไม่นานนี้










อีซูซุจะทำEVหรือไม่


อีซูซุมีเทคโนโลยี EV อยู่แล้ว และที่ญี่ปุ่นก็มีการทดลองทำรถ EV ออกมาจำหน่ายแล้วด้วย แต่สำหรับประเทศไทยคิดว่าต้องใช้เวลาอีกสักระยะ เพราะต้องดูว่าสิ่งอำนวยความสะดวกในเรื่อง EV พร้อมแล้วหรือเปล่า อีกทั้งอีซูซุเป็นรถเพื่อการพาณิชย์และเป็นปิกอัพด้วย ไม่ใช่รถยนต์นั่งส่วนบุคคล ดังนั้นการพิจารณาเรื่องรถ EV อาจจะต้องใช้เวลามาก


ส่วนเทคโนโลยีไฮบริดอีซูซุก็มีอยู่แล้ว แต่การจะนำรถออกสู่ตลาดเราต้องดูว่าตรงกับความต้องการของลูกค้าหรือเปล่า ซึ่งยังเป็นเครื่องหมายคำถามอันใหญ่ เพราะวิธีการใช้รถปิกอัพนั้นต่างจากรถเก๋ง ลูกค้าใช้สมบุกสมบันและใช้เป็นระยะเวลายาวนานด้วย ดังนั้นจะเหมาะหรือเปล่าที่จะใช้เครื่องยนต์ไฮบริด


เนื่องจากเครื่องยนต์เบนซินของรถเก๋ง ตอนที่มันหยุดและออกตัวจะได้อัตราเร่งเพิ่มขึ้นทันทีทำให้ลูกค้ารู้สึกได้ แต่เครื่องยนต์ดีเซลของรถปิกอัพจะให้อัตราเร่งสม่ำเสมออยู่แล้ว ลูกค้าอาจจะไม่รู้สึกว่ามันพิเศษยังไง สิ่งที่เรากำลังศึกษาอยู่คือ ความต้องการที่แท้จริงของลูกค้าคืออะไร และเวลาที่เหมาะสมคือช่วงไหน เพื่อเป็นการนำรถออกมาสู่ตลาดในเวลาที่ถูกต้องและเหมาะสม แต่เท่าที่รับทราบมา ลูกค้าอีซูซุยังไม่มีการบ่งบอกว่าต้องการรถไฮบริด











กลยุทธ์อีซูซุในช่วงตลาดซบเซา


ขณะนี้มีปัญหา PM 2.5 เครื่องยนต์ในรถอีซูซุที่ขายทุกรุ่นในปัจจุบันสามารถใช้น้ำมันไบโอดีเซล B20 ได้ เราคิดว่าจะสนับสนุนการใช้น้ำมัน B20 เพราะดีกับทุกฝ่ายทั้ง เกษตรกรผู้ปลูกปาล์ม, ช่วยลดมลพิษ และ มีราคาถูกกว่าน้ำมันดีเซลทั่วไป ดังนั้นจะคุ้มค่าสำหรับผู้ใช้รถ


นอกจากนั้น อีซูซุร่วมกับดีลเลอร์ขยายสู่ธุรกิจรถมือสอง “โอมาคาเสะ คาร์” เป็น New Business Model ของกลุ่มตรีเพชร ซึ่งทำธุรกิจเกี่ยวกับรถยนต์เกือบครบทุกอย่างแล้ว เหลือแค่ธุรกิจรถมือสอง ดังนั้นโอมาคาเสะจึงเป็นจิ๊กซอร์ตัวสุดท้ายที่ใส่ในภาพรวมของเรา โดยเป็นการขายแบบแพลตฟอร์มออนไลน์ ยินดีต้อนรับดีลเลอร์อื่น ๆ ยูสคาร์อื่น ๆ หรือคนทั่วไปที่สนใจมาขายผ่านแพลตฟอร์มของโอมาคาเสะได้แบบไม่จำกัดยี่ห้อ และไม่จำเป็นต้องเป็นรถอีซูซุเท่านั้น






ซึ่งเหตุผลสำคัญในการขยายสู่ธุรกิจรถมือสองคือ เพื่อช่วยยกระดับมาตรฐานราคารถมือสองของอีซูซุให้มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ทำให้ลูกค้าเกิดความเชื่อมั่นในระยะยาว







กำลังโหลดความคิดเห็น