ส.อ.ท.เผยยอดส่งออกรถยนต์ ม.ค. 63 ประเดิมต่ำสุดรอบ 7 ปี 9 เดือนจากพิษเศรษฐกิจ คู่ค้าชะลอตัวตามเศรษฐกิจโลก ขณะที่ยอดขายในประเทศลดลง 8.2% เหตุสถาบันการเงินเข้มงวด เผยขณะนี้ค่ายรถยนต์อื่นยังไม่ซ้ำรอย GM
นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ยอดขายรถยนต์ในประเทศเดือนมกราคม 2563 รวมทั้งสิ้น 71,688 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมาคิดเป็น 8.2% ส่วนการส่งออกเดือนมกราคม 2563 รถยนต์สำเร็จรูปรวม 65,295 คัน เท่ากับ 76.69% ของยอดการผลิตเพื่อส่งออก ลดลงจากช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมาคิดเป็น 19.96% ต่ำสุดในรอบ 7 ปี 9 เดือนโดยเป็นการลดเกือบทุกตลาดเนื่องจากเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าชะลอตัว ยกเว้นตลาดตะวันออกกลาง มูลค่าการส่งออก 32,271.37 ล้านบาท ลดลง 20.94%
“ยอดขายรถยนต์ในประเทศที่ลดลงเป็นผลจากการเข้มงวดของสถาบันการเงินในการอนุมัติสินเชื่อ ขณะที่การส่งออกลดลงเพราะเศรษฐกิจคู่ขาถดถอยเป็นไปตามทิศทางของเศรษฐกิจโลกที่ยังคงได้รับแรงกดดันจากปัจจัยต่างๆที่จะทำให้ชะลอตัว ทำให้การผลิตรถยนต์เดือนมกราคม 2563 จำนวน 156,266 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมาคิดเป็น 12.99% แต่เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคม 2562 คิดเป็น 16.44%” นายสรพงษ์กล่าว
ส่วนกรณีบริษัท เจเนอรัล มอเตอร์ส หรือ จีเอ็ม (GM) ประกาศยุติการจำหน่ายรถยนต์ยี่ห้อเชฟโรเลตในประเทศไทย และขายโรงงานผลิตรถยนต์ให้กับเกรทวอล มอเตอร์นั้น เบื้องต้นประเมินว่าไม่ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมรถยนต์ของไทยมากนัก เนื่องจากตลาดได้รับรู้มาก่อนหน้านี้เพราะบริษัทมีการประกาศแผนไว้ชัดเจนต่อเนื่องโดยมีสาเหตุจากการปรับแผนไปสู่ตลาดที่ดีกว่า อาทิ จีน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่เห็นสัญญาณบริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายอื่นจะย้ายฐานการผลิตจากไทยไปประเทศอื่น
“การที่รถยนต์ยี่ห้อเชฟโรเลตช่วงนี้ที่เกิดภาวะดัมป์ราคาขายคิดว่าจะเป็นเพียงสถานการณ์ระยะสั้น เพราะรถยนต์ที่นำมาลดราคาขายเป็นรุ่นที่มีไม่ถึง 1,000 คัน จากสต๊อกที่มีทั้งหมด 4,000 คัน แต่ก็จะติดตามสถานการณ์ใกล้ชิดเพื่อประกอบการพิจารณาประเมินภาพรวมตลาดรถยนต์ในระยะต่อๆ ไป แต่ยังคงเป้าหมายยอดผลิตรถยนต์ปีนี้อยู่ที่ 2 ล้านคัน เป็นยอดผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 1 ล้านคัน และผลิตเพื่อส่งออก 1 ล้านคัน” นายสุรพงษ์กล่าว