เปิดตัวอย่างเป็นทางการในตลาดโลกเมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมาสำหรับ เจเนอเรชันที่ 3 ของซีดานระดับหรูของค่ายเบนทลี่ย์ “ฟลายอิ้ง สเปอร์” และเพื่อไม่ให้ลูกค้าชาวเอเชียต้องรอกันนาน ทาง เบนทลี่ย์ เอเชีย แปซิฟิค จัดคิวพิเศษ เปิดผ้าคลุมเป็นครั้งแรกของภูมิภาคนี้ อย่างเป็นทางการในวันที่ 10 ธันวาคม ที่ผ่านมา
เบนทลี่ย์ ฟลายอิ้ง สเปอร์ โฉมล่าสุดนี้ ได้รับการออกแบบใหม่หมดตั้งแต่หัวจรดท้าย โดยยังคงเอกลักษณ์ของความเป็นรถจากอังกฤษเอาได้อย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นเส้นสายต่างๆ ที่สะท้อนความเป็นแบรนด์ของเบนทลี่ย์ ที่มีอายุถึง 100 ปี ในปีนี้ โดยมาพร้อมกับสัญลักษณ์ Flying B ที่ฝากระโปรงหน้า พร้อมกลไกลการเก็บซ่อนด้วยไฟฟ้า ป้องกันการโจรกรรม ไฟหน้าแบบ LED พร้อมโครมไฟคริสตัลดูหรูหรา
ด้านโครงสร้างของ ฟลายอิ้ง สเปอร์ ใช้แพลตฟอร์ม ใหม่หมด ฐานล้อได้รับการขยายให้มีความยาวขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 130 มิลลิเมตร ขณะที่ชิ้นส่วนตัวถังทำมาจากอลูมินัมและวัสดุผสมทั้งคัน แข็งแรงและมีน้ำหนักเบา
เครื่องยนต์เป็นแบบ W12 สูบ ขนาด 6.0 ลิตร กำลังสูงสุด 635 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 900 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติแบบดูอัลคลัชท์ 8 สปีดจาก ZF ทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 333 กม./ชม. และอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 3.8 วินาที ระบบขับเคลื่อนเป็นแบบสี่ล้อตลอดเวลา ที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นขับหลังสองล้อได้ตามลักษณะการขับขี่ที่ต้องการ และเป็นครั้งแรกที่มาพร้อมกับระบบเลี้ยวสี่ล้ออีกด้วย
ระบบช่วงล่างเป็นระบบถุงลมปรับเปลี่ยนได้ตามต้องการและสภาพของการขับขี่ โดยมากับเทคโนโลยี 48 โวลต์ที่สามารถปรับสมดุลของโรลบาร์ช่วงล่างด้านหลังได้อย่างอิสระตามลักษณะของการขับขี่ เพื่อให้ตัวถังมีความนิ่งและบิดตัวน้อยที่สุด
ภายในห้องโดยสารของ ฟลายอิ้ง สเปอร์ ได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมด แต่ยังคงเอกลักษณ์ในด้านความหรูหราเอาไว้เช่นเดิม หน้าจอใหม่ขนาด 12.3 นิ้ว พร้อมระบบพับเก็บได้ เบาะนั่งปรับไฟฟ้า 14 ทิศทาง
เครื่องเสียงมาตรฐาน ลำโพง 10 จุด กำลังขับรวม 650 วัตต์ ส่วนอีกทางเลือกเป็น Bang&Olufsen กำลังขับ 1,500 วัตต์ ผ่านลำโพง 16 ตัว และชุด State of Art เป็นของ Naim ด้วยกำลังขับ 2,200 วัตต์ ลำโพง 18 ตัว พร้อมแอคทีฟ เบสอีก 2 จุด โดยผู้โดยสารทางด้านหลังสามารถรับชมความบันเทิงส่วนตัวได้ผ่านจอที่ติดตั้งทางด้านหลังเบาะหน้าและชุดหูฟังแยกตามตำแหน่งที่นั่ง
เบนทลี่ย์ ฟลายอิ้ง สเปอร์ พร้อมรับจองแต่กว่าจะส่งมอบได้คงต้องรอถึงครึ่งหลังของปี 2020 สำหรับรุ่นพวงมาลัยขวา ส่วนการเปิดตัวในประเทศไทย คาดว่าจะมีขึ้นในช่วงเดือนมีนาคม 2563 หรืองานมอเตอร์โชว์ ส่วนสนนราคายังไม่มีการเปิดเผยแต่อย่างใด
