xs
xsm
sm
md
lg

Benz GLS600 Maybach อัพเกรดความหรูเพื่อคนพิเศษ

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์









เรียกว่าเป็นธรรมเนียมปฏิบัติสำหรับ Mercedes-Benz ไปแล้วที่รถยนต์รุ่นหรูสุดๆ ของพวกเขาในแต่ละประเภทตัวถังจะต้องมีเวอร์ชันหรู (ที่สุด) อย่าง Maybach ออกมาเสริมตลาด โดยล่าสุดคือ การนำเจนเนอเรชั่นที่ 3 ของ SUV ระดับหรูรุ่น GL-Class ที่ในปัจจุบันเปลี่ยนมเป็นรหัส GLS-Class มาต่อยอดเป็นความสวยและหรูแบบสุดๆ ในรหัส GLS600 Maybach




แน่นอนว่าพื้นฐานของตัวรถเป็นการต่อยอดมาจาก GLS-Class เจนเนอเรชั่นที่ 3 รหัส X167 ซึ่งเพิ่งเปิดตัวออกสู่ตลาดในงานนิวยอร์ก มอเตอร์โชว์ เดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยรถยนต์รุ่น GLS นั้นถือเป็นตัวลุยรุ่นใหญ่ที่เน้นทำตลาดในสหรัฐอเมริกาด้วยตัวถังแบบ 5 ประตูที่มีความยาวถึง 5,207 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อ 3,135 มิลลิเมตร









ประเด็นหลักของการเปลี่ยนแปลงสำหรับรุ่นนี้เน้นไปที่เรื่องของรูปลักษณ์ภายนอก ทั้งกระจังหน้าทรงใหม่ที่มีขนาดใหญ่และยาวจนถึงกันชนหน้า ตัวถังในสไตล์ทูโทนแบบแบ่งส่วนบนและส่วนล่างของตัวถังในแนวนอน และใช้สีแดง-ดำ หรือเงิน-ดำเป็นตัวเลือกเหมือนกับที่คุ้นเคยกันดีกับรุ่น Maybach 57 หรือ 62 พร้อมล้อแม็กสุดสปอร์ตที่มีขนาด 22 นิ้วมาให้จากโรงงาน แต่ถ้าต้องการเพิ่มขนาดก็ทำได้แค่จ่ายเงินเพิ่ม ล้อ 23 นิ้วก็พร้อมให้คุณเป็นเจ้าของ ขณะที่ด้านท้ายก็เพิ่มความหรูและแตกต่างอีกนิดหน่อยกับชุดกันชนท้ายใหม่












ในแง่ของความสะดวกสบายถือเป็นสิ่งที่เวอร์ชัน Maybach จะต้องจัดเต็มเพื่อให้เหนือกว่า GLS รุ่นธรรมดา และจากการที่ใช้ระบบช่วงล่างแบบ AIRMATIC หรือถุงลม ทำให้ระบบสามารถทำอะไรได้หลากหลายขึ้น เช่น เวลามีการเปิดประตูหลังออกมาในขณะที่รถกำลังจอด ระบบจะอนุมานว่าจะต้องมีคนนั่งหลังลงจากรถ ดังนั้น จะมีการสั่งให้ Running Board ที่เป็นแผ่นกระดานความยาวขนาด 2.06 เมตร และกว้าง 21 เซ็นติเมตรเคลื่อนตัวออกมาเพื่อเป็นบันไดให้คนนั่งหลังก้าวออกจากรถอย่างสะดวก และจะเลื่อนเก็บเข้าไปภายใน 1.5 วินาทีหลังประตูถูกปิด อีกทั้งตัวรถจะลดความสูงลงอีก 25 มิลลิเมตร













ส่วนในห้องโดยสารจะเน้นไปที่ด้านหลังเป็นหลักเพราะเป็นพื้นที่ของผู้โดยสารคนสำคัญ กับเบาะนั่งแบบ Captain Seat ที่สามารถปรับเอนกึ่งนอนได้และมีแผงคอนโซลขนาดใหญ่กั้นกลางเพื่อความเป็นส่วนตัว และเป็นพนักวางแขนที่มีการตกแต่งอย่างสวยงามทั้งการใช้ลายไม้และการใช้หนังคุณภาพสูงที่ผ่านการตัดเย็บด้วยช่างฝีมือ











การขับเคลื่อนเป็นหน้าที่ของเครื่องยนต์เบนซินตัวแรงในรหัส M177 เป็นบล็อกวี8 4,000 ซีซี ที่มีการติดตั้งระบบ EQ Boost ที่คล้ายกับมอเตอร์ฟ้าของระบบไฮบริดเข้าไป โดยเครื่องยนต์สามารถผลิตกำลังออกมาได้ 558 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 73.4 กก.-ม. และมีมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 22 แรงม้า และ 26.1 กก.-ม.เป็นตัวช่วยขับเคลื่อน และส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะรุ่น 9G-Tronic สู่การขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อ ใช้เวลาเพียง 4.9 วินาทีสำหรับอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง และมีความเร็วสูงสุด 250 กิโลเมตร/ชั่วโมง

















สำหรับแฟนๆ ความหรูของ Mercedes-Benz ที่ต้องการอะไรที่มากกว่ารุ่นปกติ งานนี้ทางเลือกใหม่เปิดตัวออกมาแล้ว ส่วนราคาคาดว่าจะอยู่ที่ 200,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือ 6 ล้านบาทแบบยังไม่รวมภาษีนำเข้าของบ้านเรา


















กำลังโหลดความคิดเห็น