มีดีตรงไหน ทำไมมีแต่คนพูดถึง ฮอนด้า ADV150 สตรีทแอดเวนเจอร์ เอ.ที. รุ่นแรกของเมืองไทย หลังทดลองขี่แล้วเป็นอย่างไร และที่สำคัญคุ้มค่าไหมกับค่าตัว 97,900 บาท
ต้องยกให้เป็นโมเดลใหม่ที่สร้างความคึกคักให้กับวงการสองล้อเมืองไทยประจำปีนี้ก็ว่าได้ครับ สำหรับเจ้า ฮอนด้า ADV150 สตรีทแอดเวนเจอร์ เอ.ที. ที่เพิ่งเปิดตัวไปสดๆ ร้อนๆ ไม่กี่วันที่ผ่านมา
คึกคักขนาดที่ว่า เพียงแค่ 2 วันแรก สามารถสร้างปรากฏการณ์ยอดจองถล่มเซ็นทรัลเวิลด์ ในงาน A.T. Fun Fest 2 สูงสุดถึง 555 คัน มากกว่าเป้าหมายที่ทาง เอ.พี.ฮอนด้า ตั้งไว้ถึง 185 เปอร์เซ็นต์
“รถคันนี้ต้องใช้คำว่า ไม่ต้องพูดเยอะ เจ็บคอ”
ผมยังจำได้ดี นี่คือประโยคแรกของ พี่บอย-อัครเดช โรจน์สิรวรพัฒน์ ผู้จัดการทั่วไป ส่วนงานสื่อสารการตลาดและผลิตภัณฑ์ บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด กล่าวทักทายสื่อมวลชนในงานแถลงข่าวเปิดตัว ADV150 ในเชิงความหมายว่า
โมเดลใหม่รุ่นนี้เป็นที่สนใจของทุกคน ข้อมูลผลิตภัณฑ์ไม่ต้องพูดเยอะ เพราะเชื่อว่าน่าจะรับทราบกันดีอยู่แล้ว
ฟังเหมือนคุย แต่ก็จริงอย่างที่แกบอกครับ
ด้วยความที่กระแสตอบรับดีมากๆ นับตั้งแต่เปิดตัวรอบปฐมทัศน์ของโลกเมื่อประมาณกลางปีที่ประเทศอินโดนีเซีย
ในส่วนของสเป็ก ข้อมูลรายละเอียดต่างๆ นั้น มีให้เห็นบนหน้าเว็บไซต์ แฟนเพจ รวมถึงสื่อโซเชียลมีเดียในโลกออนไลน์แบบครบถ้วนสมบูรณ์ตลอดช่วง 3 เดือนกว่า ที่ผ่านมา
ขณะเดียวกัน ยิ่งตอกย้ำการรับรู้ของเหล่าสาวกนักบิดยิ่งขึ้น เนื่องจากในช่วงนี้เองกำลังถูกจัดแสดงอยู่ในงานโตเกียว มอเตอร์โชว์ 2019 ที่ประเทศญี่ปุ่น แถมยังเป็นการเผยโฉมครั้งแรกอีกด้วย
แน่ล่ะว่ามาถึงเวลานี้ แทบจะไม่ต้องอธิบายกันเพิ่มเติมให้เสียเวลา แฟนคลับค่ายปีกนกในไทยต่างตั้งตารอคอยแค่ว่า เมื่อไรจะถึงกำหนดทำตลาดในบ้านเราบ้างเท่านั้นเอง!
และพอได้ฤกษ์เปิดตัวพร้อมวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ก็อย่างที่เราเห็น ตัวเลขยอดจองสะท้อนฟีดแบ็กการตอบรับที่ดีเกินคาด ชนิดทำได้สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้เกือบสองเท่า
อย่างไรก็ตาม ระดับเจ้าตลาดสองล้อเมืองไทย ผู้ไม่เคยหยุดนิ่งในการผลักดันนวัตกรรมใหม่ๆ ให้กับผู้บริโภค สเต็ปต่อไปจะต้องทำอย่างไรให้เกิดกระแสการพูดถึง ADV150 อย่างต่อเนื่องเพิ่มขึ้นไปอีก
นั่นจึงเป็นที่มาครับ ในวันเดียวกันนั้นเอง เช้าเปิดตัว พอถึงช่วงบ่ายจึงเชิญสื่อมวลชนไปร่วมขับขี่ทดสอบกันต่อ ที่ศูนย์ฝึกขับขี่ปลอดภัย ฮอนด้า กรุงเทพฯ แถวรามคำแหง
รูปลักษณ์เด่น ดีไซน์แกร่งล้ำสมัย
ก่อนพูดถึงความประทับใจหลังการขับขี่ ขอเริ่มต้นด้วยแนวคิดการพัฒนาสักเล็กน้อยครับ
ฮอนด้า ADV150 คือ รถสตรีทแอดเวนเจอร์ เอ.ที. (Street Adventure A.T.) ได้รับการพัฒนาภายใต้คอนเซปต์ “Discover New Excitement ชีวิตมีสองด้าน ใช้มันส์ซะ” รูปร่างหน้าตาภายนอกถ่ายทอด DNA มาจาก X-ADV สกู๊ตเตอร์รุ่นใหญ่สายลุยของฮอนด้า
อย่างที่บอก หลายคนที่ติดตามข่าว คงพอรู้อยู่แล้วว่านี่คือโมเดลใหม่ที่ใช้พื้นฐานเฟรมและเครื่องยนต์บล็อกเดียวกับ ฮอนด้า PCX150
อย่างไรก็ดี พอเห็นตัวจริงแล้วต้องบอกว่ามีส่วนคล้ายอยู่บ้างเหมือนกัน แต่เฉพาะแค่ในแง่ของมิติขนาดตัวรถเท่านั้นนะ ส่วนอารมณ์คาร์แรคเตอร์เป็นคนละเรื่องกันเลย
อธิบายให้ชัด PCX150 จะออกแนวเรียบหรูดูพรีเมียมครับ ขณะที่ ADV150 ยังคงความไฮเอนด์และทันสมัยเช่นเดิม แต่จะเติมเต็มอารมณ์ความสนุกยิ่งขึ้น รูปลักษณ์โฉบเฉี่ยวขึ้น ดูมีความเป็นไลฟ์ไสตล์มากขึ้น
ควบคุมมั่นใจ นั่งสบาย คล่องตัว
เข้าเรื่องสำหรับการทดสอบครั้งนี้ ค่ายปีกนกใช้พื้นที่เต็มศูนย์ฝึกขับขี่ทีเดียวครับ ด้วยการวางรูปแบบผสมผสานต้องการให้สัมผัสสมรรถนะรอบด้าน ทั้งการสลาลอมวิ่งซิกแซก การทำความเร็วผ่านโค้งสั้น-ยาว กว้าง-แคบ มีทางตรงสำหรับอัตราเร่ง รวมถึงการเบรก
เหนืออื่นใดที่ขาดไม่ได้ กับการวิ่งผ่านลูกระนาดปูนขนาดใหญ่ที่แข็งกระด้าง สูงหนา และวางถี่
ลองขี่ให้รู้กันไปเลยครับว่า ถ้าเอาไปลุยตามสภาพการใช้งานจริง อุปสรรคสุดโหดหลากหลายขนาดนี้ ADV150 จะไหวมั้ย?
จากจำนวนรายชื่อผู้เข้าร่วมการทดสอบยาวเป็นหางว่าว สวนทางกับเวลาอันจำกัด ทุกคนจะได้ขับขี่เป็นจำนวน 3 รอบ โดยรอบแรกจะมีครูฝึกเป็นผู้นำเส้นทางให้ ส่วนอีก 2 รอบที่เหลือ จัดเต็มกันไปตามความสามารถของแต่ละคน
หลังได้ลองขี่แล้วเป็นอย่างไร ตำแหน่งท่านั่งให้ความสบายและสูงขึ้น เมื่อเทียบกับ PCX150 ส่งผลให้การพลิกรถทำได้คล่องตัวขึ้น
องศาแฮนด์บังคับกว้างและขนานกับแนวหัวไหล่ผู้ขับขี่ การควบคุมมั่นใจทำได้แม่นยำ ช่วงล่างหน้า-หลัง เพิ่มระยะยุบ(มากที่สุดในเซ็กเม้นต์ เอ.ที.150) สามารถซับแรงกระแทกได้ดีกว่าฝาแฝดแนวเรียบหรูอย่างรู้สึกได้
อัตราเร่งจากขุมพลังเครื่องยนต์ eSP ขนาด 150 ซีซี 4 จังหวะ ระบบหัวฉีด PGM-FI ระบายความร้อนด้วยน้ำ ได้รับการปรับจูนให้ตอบสนองแรงบิดดีขึ้น
ในส่วนนี้ว่ากันตามตรงผมว่ายังไม่ค่อยชัดเจนเท่าไหร่ อาจด้วยภาระน้ำหนักตัวรถที่เพิ่มขึ้นประมาณ 3 กิโลกรัม จากโครงสร้างเฟรมที่ได้รับการเสริมความแกร่งตามจุดยึดต่างๆ ตลอดจนออฟชั่นที่เพิ่มเข้ามา อย่างดิสก์เบรกหลัง การเลือกใช้หน้ายางขนาดใหญ่ขึ้น โช็กหลังมีซับแท้งค์แยก เป็นต้น
ขณะที่ฟังก์ชั่นอื่นๆ หน้าจอแสดงผลดิจิทัล Full LCD เต็มระบบ ไฟส่องสว่าง LED รอบคัน กุญแจคีย์เลส ช่องเสียบชาร์จสมาร์ทโฟน ชิลด์หน้าปรับได้ 2 ระดับ นับว่าจัดมาให้สมราคา
สรุปในภาพรวมหลังลองขี่ 3 รอบถ้วน! ต้องขอยืมมุขหลวงปู่เค็ม
“รอบแรกไม่เท่าไหร่ รอบต่อไปอยากขี่กลับบ้านเลยครับ”
ฮอนด้า ADV150 ผมยกให้เป็นสกู๊ตเตอร์เอสยูวีที่น่าจะใช้งานได้อเนกประสงค์เหมาะสมกับท้องถนนเมืองไทย อย่างไรก็ตาม ทั้งหลายทั้งปวงอย่าเพิ่งเชื่อ
เอ.พี.ฮอนด้า เตรียมเปิดรอบทดสอบทั่วไป ฟรี! โดยไม่มีค่าใช้จ่าย สำหรับทุกคนที่สนใจในวันที่ 2 - 3 พฤศจิกายนนี้ ที่ศูนย์ขับขี่ปลอดภัยฮอนด้า กรุงเทพฯ ถ.รามคำแหง ตั้งแต่เวลา 13.00 - 17.00 น.
พูดเยอะก็เจ็บคอ อยากให้ไปลองพิสูจน์ด้วยตัวเอง.