xs
xsm
sm
md
lg

“ยีเอส” เดินแผนรุกตลาดนอก ทุ่มงบตั้งฐานผลิตในเมียร์มา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ยีเอส แบตเตอรี่ มุ่งขยายตลาดนอก ทุ่มงบตั้งฐานผลิตในเมียร์มา พร้อมซื้อหุ้นในมาเลเซีย เดินหน้าศึกษาผลิต Lithium Ion รับตลาดไฮบริดไทยเติบโต เร่งเพิ่มกำลังการผลิต 5 ล้านลูกใน 2 ปีข้างหน้า รับยอดขายโต 5%


ประกาสิทธิ์ พรประภา กรรมการด้านการวางแผนกลยุทธ์องค์กร บริษัท สยาม ยีเอส แบตเตอรี่ จำกัด เปิดเผยว่า ปีนี้ ยีเอส แบตเตอรี่ ครบรอบ 50 ปี ในการเข้ามาตั้งโรงงานผลิตและทำตลาดในไทย มีกำลังการผลิต 4 ล้านลูกต่อปี ผ่านช่องทางการจำหน่ายแบบ OEM และ REM โดยครองความเป็นผู้นำอันดับ 1 อย่างต่อเนื่องโดยตลอด

และในปีนี้ ทางบริษัทฯ มีนโยบายที่จะขยายตลาดแบตเตอรี่ทั้งในประเทศและต่างประเทศเพิ่มขึ้น โดยตลาดต่างประเทศได้เข้าไปลงทุนเปิดโรงงานแบตเตอรี่ ที่นิคมอุตสาหกรรมติละวา ประเทศเมียร์มา โดยเล็งเห็นการเติบโตแบบก้าวกระโดดใน 5 ปีที่ผ่านและความต้องการแบตเตอรี่มีเพิ่มมากขึ้น




พร้อมเข้าไปซื้อในโรงงานผลิตแบตเตอรี่ ที่เขตปีนัง ประเทศมาเลเซีย เพื่อรองรับตลาด OEM และตลาด REM ทั้งในประเทศไทย และประเทศเพื่อนบ้านแถบอาเซียน นอกจากนี้ ได้มีการประสานงานกับบริษัทแม่ เพื่อส่งออกไปจำหน่ายประเทศต่างๆ ทั่วโลก ได้แก่ ลาว กัมพูชา อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น จีน และตะวันออกกลาง


ด้านตลาดไทย ได้มีการศึกษาเทคโนโลยีการประกอบแบตเตอรี่ Lithium Ion สำหรับรถไฮบริด และมุ่งทำตลาดแบตเตอรี่ ประเภท Maintenance Free (MF) มากขึ้น เพื่อรองรับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ต้องการความสะดวกสบาย และประหยัดเวลาในการดูแลรักษา โดยหันมาใช้แบตเตอรี่ดังกล่าวมากขึ้น ส่งผลทำให้ยอดขายของ ยีเอส แบตเตอรี่ เติบโตกว่า 50% และเป็นผู้นำในตลาดสินค้า MF, ตลาด ISS สำหรับรถ Iding start stop และตลาดแบตเตอรี่รวมอย่างต่อเนื่อง


สำหรับในปีนี้ ได้ตั้งเป้าการจำหน่ายเพิ่มขึ้นประมาณ 5% และในปี 2019 น่าจะมีอัตราการเติบโตใกล้เคียงกัน ทั้งเพิ่มกำลังการผลิตโรงงาน ยีเอส แบตเตอรี่ เป็น 4.5 ล้านลูกต่อปี สำหรับปี 2018 และในปี 2020 จะเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 5 ล้านลูกต่อปี






ทั้งนี้ คาดว่าตลาดแบตเตอรี่จะมีแนวโน้มการเติบโตเพิ่มขึ้น เป็นผลจากการเติบโตของตลาดรถยนต์ที่มีการแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่ออกสู่ตลาดหลายรุ่น และกำลังซื้อของประชาชนฟื้นตัว ส่งผลให้ยอดขายในปีนี้เติบโต 3.2% หรือประมาณ 900,000 กว่าคัน เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ที่มียอดขายเพียง 872,000 บาท


“แบตเตอรี่เป็นสินค้าที่ใช้คู่กับรถยนต์และต้องหาทดแทนทันทีเมื่อหมดอายุการใช้งานซึ่งการชะลอตัวของเศรษฐกิจอาจส่งผลกระทบในกรณีที่มีรถหยุดการใช้งาน หากมีรถยนต์ใหม่เพิ่มขึ้นทุกปีก็จะส่งผลต่อความต้องการของแบตเตอรี่ในตลาดรวมเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน”



กำลังโหลดความคิดเห็น