xs
xsm
sm
md
lg

สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 11 ก.ค. 2561

- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 200 จุดเมื่อคืนนี้ (11 ก.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าที่ทวีความรุนแรงขึ้นระหว่างสหรัฐฯ และจีน หลังจากรัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มอีก 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อวานนี้ โดยความวิตกกังวลในเรื่องดังกล่าวได้ฉุดหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมร่วงลงอย่างหนัก ซึ่งรวมถึงหุ้นโบอิ้ง และแคทเธอร์พิลลาร์ ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงาน ร่วงลงหลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ทรุดตัวลงถึง 5%

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดที่ 24,700.45 จุด ร่วงลง 219.21 จุด หรือ -0.88% ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,774.02 จุด ลดลง 19.82 จุด หรือ -0.71% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,716.61 จุด ลดลง 42.59 จุด หรือ -0.55%

- ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (11 ก.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของสงครามการค้าที่ทวีความรุนแรงขึ้นระหว่างสหรัฐฯ และจีน หลังจากรัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มอีก 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อวานนี้

ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 1.3% ปิดที่ 381.40 จุด ซึ่งเป็นการร่วงลงหนักสุดนับตั้งแต่วันที่ 25 มิ.ย. ปีนี้

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมัน ปิดที่ 12,417.13 จุด ลดลง 192.72 จุด หรือ -1.53% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศส ปิดที่ 5,353.93 จุด ลดลง 80.43 จุด หรือ -1.48% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอน ปิดที่ 7,591.96 จุด ลดลง 100.08 จุด หรือ -1.30%

- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงหนักสุดในรอบ 2 สัปดาห์เมื่อคืนนี้ (11 ก.ค.) หลังจากรัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มอีก 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของสงครามการค้าที่ทวีความรุนแรงขึ้น

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,591.96 จุด ลดลง 100.08 จุด หรือ -1.30%

- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์ก ปิดร่วงลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ (11 ก.ค.) เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน รวมทั้งรายงานที่ว่าซาอุดิอาระเบีย เพิ่มกำลังการผลิตในเดือนที่แล้ว เพื่อสกัดราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้น และข่าวลิเบีย ประกาศเปิดสถานีส่งออกน้ำมันอีกครั้งเมื่อวานนี้

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. ร่วงลง 3.73 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 5% ปิดที่ 70.38 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ซึ่งเป็นการร่วงลงหนักสุดนับตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 2560

สัญญาน้ำมันดิบเบรนต์ส่งมอบเดือน ก.ย. ดิ่งลง 5.46 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 6.9% ปิดที่ 73.40 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (11 ก.ค.) เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ได้สร้างแรงกดดันต่อตลาด ขณะเดียวกัน นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายในช่วงเวลาที่การทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ทวีความรุนแรงมากขึ้น หลังจากรัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มอีก 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อวานนี้

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ส.ค. ร่วงลง 11 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 0.9% ปิดที่ 1,244.40 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือน ก.ย. ลดลง 27 เซ็นต์ หรือ 1.68% ปิดที่ 15.817 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือน ต.ค. ร่วงลง 11.2 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 1.32% ปิดที่ 835 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือน ก.ย. ลดลง 60 เซ็นต์ ปิดที่ 937.00 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์

- ดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์ก เมื่อคืนนี้ (11 ก.ค.) หลังจากทางการสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นหนึ่งในข้อมูลที่บ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อนั้น พุ่งขึ้นเกินคาดในเดือน มิ.ย. ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนเชื่อว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามแผนในปีนี้ ขณะเดียวกัน นักลงทุนจับตาการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน หลังจากรัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มอีก 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 112.03 เยน จากระดับ 111.29 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9962 ฟรังก์ จากระดับ 0.9924 ฟรังก์

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ระดับ 1.1672 ดอลลาร์สหรัฐฯ จากระดับ 1.1749 ดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะระดับ 1.3205 ดอลลาร์สหรัฐฯ จากระดับ 1.3215 ดอลลาร์สหรัฐฯ และดอลลาร์ออสเตรเลีย อ่อนค่าลงมาอยู่ที่ระดับ 0.7370 ดอลลาร์สหรัฐฯ จากระดับ 0.7402 ดอลลาร์สหรัฐฯ

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ปิดที่ 24,700.45 จุด ลดลง 219.21 จุด -0.88%
ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ปิดที่ 2,774.02 จุด ลดลง 19.82 จุด -0.71%
ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ปิดที่ 7,716.61 จุด ลดลง 42.59 จุด, -0.55%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมัน ปิดที่ 12,417.13 จุด ลดลง 192.72 จุด -1.53%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศส ปิดที่ 5,353.93 จุด ลดลง 80.43 จุด -1.48%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอน ปิดที่ 7,591.96 จุด ลดลง 100.08 จุด -1.30%
ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดีย ปิดที่ 36,265.93 จุด เพิ่มขึ้น 26.31 จุด, +0.07%
ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ปิดที่ 3,249.08 จุด ลดลง 25.75 จุด, -0.79%
ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ปิดที่ 1,688.77 จุด เพิ่มขึ้น 1.64 จุด, +0.10%
ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซีย ปิดที่ 5,893.36 จุด เพิ่มขึ้น 11.60 จุด, +0.20%
ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ปิดที่ 28,311.69 จุด ลดลง 370.56 จุด, -1.29%
ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ปิดที่ 7,333.73 จุด เพิ่มขึ้น 100.44 จุด, +1.39%
ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ปิดที่ 2,777.77 จุด ลดลง 49.86 จุด, -1.76%
ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ปิดที่ 2,280.62 จุด ลดลง 13.54 จุด, -0.59%
ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลีย ปิดที่ 6,215.60 จุด ลดลง 42.50 จุด, -0.68%
ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลีย ปิดที่ 6,300.20 จุด ลดลง 42.60 จุด, -0.67%
ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ปิดที่ 10,676.84 จุด ลดลง 80.05 จุด, -0.74%
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ปิดที่ 21,932.21 จุด ลดลง 264.68 จุด, -1.19%


กำลังโหลดความคิดเห็น