ตลาดรถยนต์เอนกประสงค์แบบเอสยูวีในบ้านเรานั้น เติบโตอย่างมีนัยยะขึ้นทุกปี เช่นเดียวกับตลาดโลกที่กระแสความนิยมของรถยนต์เอสยูวีเพิ่มขึ้นมากด้วยเช่นกัน ไม่ว่าเป็นเอสยูวีขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ มีให้เลือกคบหาอย่างหลากหลาย บางแบรนด์มีให้เลือกมากถึง 5 ขนาดด้วยกัน
สำหรับผู้บุกเบิกรถประเภทนี้ในเมืองไทย ต้องยกให้กับ “ฮอนด้า ซีอาร์-วี” ที่สร้างปรากฎการณ์มากมายนับตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกในปี 1996 หรือกว่า 22 ปีทีผ่านมา นับจากโฉมแรกที่เป็นการนำเข้า หลังจากขายดีจนถึงระดับที่ต้องขึ้นไลน์ผลิตในเมืองไทย และสามารถคงระดับยอดขายที่ดีมาได้อย่างต่อเนื่องจนถึงรุ่นปัจจุบัน เจเนอเรชันที่ 5 ซึ่งเปิดตัวไปเมื่อปีที่แล้ว และเราได้เคยนำเสนอบทความไปแล้ว คราวนี้มาลองเจาะเฉพาะรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลกันดูบ้างว่าน่าสนใจขนาดไหน
ดีเซล เด่นประหยัด
สำหรับรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลนั้น ทางฮอนด้าวางตำแหน่งไว้เป็นรุ่นท้อป ขับเคลื่อน 4 ล้อ และรองท้อป ขับเคลื่อน 2 ล้อเท่านั้น โดยบรรจุเครื่องยนต์ขนาด 1.6 ลิตร 4 สูบ i-DTEC เทอร์โบ คอมมอนเรล แบบฉีดตรง ให้กำลังสูงสุด 160 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด
ซึ่งในส่วนของระบบเกียร์นั้นเป็นแบบเกียร์ไฟฟ้า ไม่มีคันเกียร์ แต่จะกลายมาเป็นปุ่มสำหรับการกดเปลี่ยนแทนโดยมีตัวอักษร P, R, N และ D/S ประจำปุ่มเพื่อการเลือกเข้าเกียร์ที่ถูกต้อง ส่วนการจอดขวางรถคันอื่นสามารถทำได้ เพียงปลดล็อกเกียร์ ผ่านทางช่องพิเศษที่อยู่ตรงคอนโซลกลางแล้วขับคันโยกเพื่อให้รถสามารถเข็นได้
เบาะที่นั่งถูกเซตให้เป็นแบบ 7 ที่นั่งพื้นฐาน และเบาะนั่งแถวที่ 3 สามารถพับให้เรียบไปกับพื้นเพื่อเพิ่มเนื้อที่ในการเก็บสัมภาระได้โดยสะดวก พร้อมกับการเสริม แผ่นรองขนาดเล็กช่วยให้การเก็บของได้อรรถประโยชน์มากขึ้นอันเป็นจุดเด่นอีกหนึ่งข้อของ ฮอนด้า ซีอาร์-วี โฉมนี้
อุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ ที่ให้มานั้นครบครันต่อการใช้งาน โดยเฉพาะช่องต่อ USB และที่ชาร์จไฟเพียงพอต่อการใช้งาน พร้อมกับระบบเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้ และในรุ่นรองท้อปจะเป็นหน้าจอขนาด 5 นิ้ว ส่วนรุ่นท้อปเป็นหน้าจอขนาด 7 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay ด้วย ซึ่งการใช้งานนั้นดูง่าย หน้าจอสัมผัสตอบสนองไวทันใจ
พวงมาลัยมาพร้อมกับลูกเล่นที่ครบครัน หน้าจอแสดงผลการขับขี่ตัวใหญ่และแสดงผลที่ครบถ้วนดูง่ายสบายตา พร้อมฟังก์ชั่น เวลากดให้สัญญาณเลี้ยวซ้าย ภาพด้านข้างซ้ายมือของรถจะปรากฎที่หน้าจอทันที เช่นเดียวกับกล้องมองหลังที่แสดงบนหน้าจอกลางพร้อมเส้นวัดระยะ ช่วยเสริมด้านความปลอดภัยได้เป็นอย่างดี ลูกเล่นครบในระดับที่ไม่น้อยหน้ารถยุโรปเลยทีเดียว
ขับนิ่ง นั่งสบายทุกตำแหน่ง
ฮอนด้า ซีอาร์-วี เจเนอเรชั่นที่ 5 นี้ ได้รับการประกาศให้เป็นรถยนต์ยอดเยี่ยมแห่งปีจากสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย ประจำปี 2017 แน่นอนว่ารางวัลที่ได้จะมีเพียงรถคันเดียวเท่านั้น ทำคะแนนเหนือคู่แข่งอย่าง โตโยต้า ยาริส เอทีฟ, นิสสัน โน้ต, เมอร์เซเดส-เบนซ์ อี-คลาส,จีแอลซี คูเป้, บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์5 และ ฮอนด้า ซีวิค แฮชแบค
สำหรับการทดลองขับในคราวนี้จะมุ่งเน้นไปที่เรื่องของการวัดอัตราการบริโภคน้ำมันเฉลี่ย ที่เราค่อนข้างสงสัยตั้งแต่เมื่อครั้งแรกที่ได้สัมผัส โดยการทดลองขับช่วงแรกเส้นทางกรุงเทพฯ-ลพบุรี ไปกลับรวมระยะทางราว 300 กม. ความเร็วที่ใช้เดินทางอยู่ระหว่าง 80-120 กม./ชม. ไม่มีเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด จบทริปมาตรวัดระบุตัวเลขเฉลี่ยที่ 16.7 กม./ลิตร ถือว่า ทำได้ดีสำหรับเครื่องยนต์ดีเซล
ถัดมาลองขับต่อไปเส้นทางที่สองกรุงเทพฯ – หัวหิน ด้วยเป้าหมายคือ จากน้ำมันเต็มถังจะวิ่งได้สักกี่กิโลเมตร โดยการขับมาจนไฟแดงเตือนให้เติมน้ำมันติด ซีอาร์-วี วิ่งได้ระยะทางราว 735 กม. และระยะที่เหลือวิ่งได้อีกราว 60 กม. ตามการคำนวณของสมองกลในรถ แสดงว่าเต็มถังวิ่งได้ราว 800 กม. ทั้งเป็นการขับแบบปกติ เปิดแอร์ตลอด ผู้โดยสาร 4 คน ความเร็วเฉลี่ยระหว่าง 80-140 กม./ชม.
ซึ่งเมื่อจบทริปถึงบ้านเรียบร้อย รอบนี้วัดค่าเฉลี่ยรวมกับค่าเฉลี่ยก่อนหน้าแบบต่อเนื่องกันมา ตัวเลขแสดงผลลัพท์ที่ 17.1 กม.ต่อลิตร ขณะที่การทดลองขับแบบวิ่งในเมืองอย่างเดียว 3 วันย่าน สีลม สยาม สนามหลวง รัชดา ลาดพร้าว สวนลุม บางนา กับระยะทางราว 80 กม. วัดค่าใหม่ ตัวเลขระบุ 11.5 กม./ลิตร ประทับใจจริง
ในส่วนของการขับช่วงล่างเกาะถนนหนึบแน่น มั่นใจทุกย่านความเร็ว(ที่ไม่เกิน 140 กม./ชม.) จะมีเพียงเสียงของเครื่องยนต์ที่ดังเข้ามารบกวนอันเป็นปกติของรถเครื่องยนต์ดีเซล แต่ถ้าเปิดเพลงฟังก็ไม่มีปัญหา ส่วนเสียงลมและยางบดถนนเริ่มดังเมื่อวิ่งด้วยความเร็วระดับ 130 กม./ชม. ขึ้นไป ขณะการนั่งประทับใจผู้โดยสารทั้งแถว 2 และแถว 3 ไม่มีเสียงบ่น แต่ประการใด สมกับการเป็นรถของครอบครัว
สำหรับการใช้งานเกียร์อัตโนมัติรูปแบบใหม่ ส่วนตัวมองว่ายังไม่คุ้นชินจะมีความสับสนอยู่บ้าง แต่หากใช้จนคุ้นแล้วคงไม่มีปัญหา บุคลิกการตอบสนองของเกียร์ ไม่กระชากจะค่อนข้างนุ่มนวล ไม่รู้สึกถึงจังหวะเปลี่ยนเกียร์ โดยสามารถปรับโหมดเป็นสปอร์ต เพื่อความกระฉับกระเฉงในการขับที่มากขึ้น แต่จะไม่ถึงขนาดรถสปอร์ต แค่คิกดาวน์ทันใจขึ้นนิดหน่อย นัยเพื่อให้สอดคล้องกับความเป็นรถเอนกประสงค์ของครอบครัว มิใช่รถแข่ง
อีกจุดหนึ่งที่น่านำเสนอคือ ฟังก์ชั่น เปิด-ปิดฝากระโปรงท้ายได้ด้วยการเตะใต้ท้องรถ โดยไม่ต้องใช้มือแตะใดๆ แค่พกกุญแจเอาไว้ติดตัวก็เพียงพอ เรียกว่าลูกเล่นครบถ้วนดุจดั่งรถยุโรป
เหมาะกับใคร
ครอบครัวขนาด 3-6 คน จะใช้งานได้อย่างสมประโยชน์ที่สุด ทั้งความกว้าง การขับขี่ที่เน้นเรื่องของความประหยัดในการเดินทางยาวๆ ได้ทั้งความสบาย และเอนกประสงค์ครบครัน ในสนนราคาค่าตัว 1.699 ล้านบาท กับเอสยูวีเครื่องยนต์ดีเซล ซีอาร์-วี ตัวเลือกนี้ คุ้มค่ากับราคาที่จ่ายไป