xs
xsm
sm
md
lg

CLS ใหม่ ปลายมี.ค.เจอกันในไทย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

หน้าตา ภายนอก จะเหมือนกันทั่วโลก ไทยก็หน้าตานี้
อย่างที่กล่าวข้างต้น CLS-CLASS ที่สื่อมวลชนไทยบินไปสัมผัสไม่มีเวอร์ชันที่ขายในไทยให้ลองขับ ทั้งนี้อาจจะเป็นเพราะอยากให้สื่อทั่วโลกลองตัวท็อป ตัวแรง ก็เป็นได้ สำหรับรุ่นที่ขายในไทยเป็น CLS 300 d AMG Premium ซึ่งแน่นอนหน้าตาเหมือนกันทั่วโลก แต่ที่แตกต่างคืออุปกรณ์ภายในที่อาจจะไม่ได้มาครบทุกอย่างเหมือนสเปกต่างประเทศ ซึ่งถ้าจัดมาเต็มราคาคงสูงขึ้นจนเอื้อมถึงยากแน่นอน

นายไมเคิล เกรเว่ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า บริษัทดำเนินงานภายใต้ความมุ่งมั่นที่จะนำเสนอ “สิ่งที่ดีที่สุด” ให้กับลูกค้า โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา รถยนต์ในกลุ่ม ดรีม คาร์ (Dream Car) ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ มีการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลจากการนำเสนอรถรุ่นใหม่ให้กลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบความหรูหราสไตล์สปอร์ตให้ลูกค้าเลือก และปีนี้ บริษัทยังคงให้ความสำคัญกับรถยนต์ในกลุ่มนี้เหมือนเดิม ด้วยการนำเสนอ CLS 300 d AMG Premium รุ่นใหม่ ให้กับลูกค้าคนไทย

ที่ผ่านเมอร์เซเดส-เบนซ์ ได้เปิดตัวรถยนต์ในกลุ่มดรีม คาร์ ไป ทั้งสิ้น 2 รุ่น ในปีที่ผ่านมาคือ E300 Coupe’ AMG Dynamic และ E300 Cabriolet AMG Dynamic ซึ่งส่งผลให้บริษัทฯมียอดขายในกลุ่มนี้เพิ่มขึ้นกว่า 13 % เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้านี้

แต่ถ้าหากนับการส่งมอบตั้งแต่ครั้งแรกจนถึงปัจจุบัน รถยนต์ในกลุ่มดรีม คาร์ ได้ถูกส่งมอบให้กับลูกค้าทั่วโลกแล้วกว่า 3.5 ล้านคัน และรถยนต์ตระกูล CLS จำหน่ายไปแล้วกว่า 375,000 คัน นับตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกของรถยนต์คูเป้
ภายในอาจจะมีปรับสเปก นิดหน่อย สำหรับเวอร์ชั่น
CLS-CLASS ถือเป็นรถยนต์ในกลุ่ม ดรีม คาร์ รุ่นแรกที่เปิดตัวในปีนี้ ซึ่งรถยนต์รุ่นนี้เป็นสปอร์ตอัจฉริยะรุ่นใหม่ล่าสุดของเมอร์เซเดส-เบนซ์ และเป็นรุ่นที่ 3 ของรถยนต์ตระกูลนี้ ที่มีการปรับรูปลักษณ์ให้มีความเรียบง่ายขึ้น แต่ยังแฝงไปด้วยความเร้าอารมณ์และกลิ่นอายความคลาสสิกเหนือกาลเวลาของรถยนต์ CLS รุ่นแรก

สำหรับ CLS 300 d AMG Premium รุ่นที่จะเข้ามาจำหน่ายในไทยประมาณปลายเดือนมีนาคมนี้ จะเป็นการนำเข้าจากประเทศเยอรมนี ก่อนจะประกอบในไทยปลายปี มากับเครื่องยนต์ดีเซลแถวเรียง 4 สูบ พร้อมเทอร์โบคู่และอินเตอร์คูลเลอร์ 2,000 ซีซี 245 แรงม้า 4,200 รอบต่อนาที แรงบิดที่ 500 นิวตันเมตรที่ความเร็ว 1,600-2,400 รอบต่อนาที อัตราเร่งสูงถึง 100 กม./ชม. 6.4 วินาที ระบบเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ 9 G-TRONIC และระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้อย่างรวดเร็ว ควบคุมแรงเหวี่ยงจากการทำงานของเครื่องยนต์ให้ต่ำลง ช่วยให้สมรรถนะการขับขี่นุ่มนวลและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ส่วนหน้าตาภายนอกไม่แตกต่างจากที่สื่อมวลชนไทยได้เห็นจากการลองขับ ณ เมืองบาร์เซโลน่า ประเทศสเปน แต่ภายในของเวอร์ชันไทย ทางเมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) บอกว่า ห้องโดยสารภายในนั้นหรูหรา เรียบง่าย แต่เพิ่มความพิเศษด้วยการติดตั้งไฟระดับที่ช่องลมของเครื่องปรับอากาศ เพื่อเสริมรูปลักษณ์ของช่องลมที่ดูคล้ายเครื่องยนต์ของเครื่องบินเจ็ตให้ดูโดดเด่นและสวยงามมากขึ้น พร้อมลูกเล่นด้วยการเปลี่ยนสีเมื่อมีการปรับอุณหภูมิโดยการกะพริบเป็นเวลาสั้น ๆ เป็นสีแดง เมื่อมีการปรับอุณหภูมิให้อุ่นขึ้นและเป็นสีฟ้าเมื่อปรับอุณหภูมิให้เย็นลง

รวมถึงการออกแบบหน้าปัดสำหรับผู้ขับขี่แบบดิจิทัล ที่ผู้ขับขี่สามารถเลือกรูปแบบการแสดงของแผงหน้าปัดได้ 3 แบบ เพื่อให้เหมาะกับความรู้สึกขณะขับขี่ หรือให้เข้ากับการตกแต่งภายในห้องโดยสาร โดยรูปแบบการแสดงผลทั้ง 3 แบบประกอบไปด้วยแบบคลาสสิก, สปอร์ต และโปรแกรมซีฟ โดยแบบคลาสสิกและแบบสปอร์ตจะมีมาตรวัดจำนวน 2 ตัว ในขณะที่แบบโปรแกรสซีฟจะมีมาตรวัดขนาดใหญ่ตรงกลางและมีมาตรวัดขนาดเล็กอยู่ข้างใน

นอกจากนี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ยังได้มีการออกแบบเบาะที่นั่งสำหรับรถยนต์ตระกูล CLS รุ่นใหม่โดยเฉพาะ พร้อมปรับการจัดวางเบาะที่นั่งของ CLS เป็นแบบ 5 ที่นั่งเป็นครั้งแรก เบาะที่นั่งตอนหลังสามารถพับลงแบบ 40/20/40 ได้เพื่อขยายความจุของกระโปรงหลังที่มีความจุสูงถึง 520 ลิตร เบาะที่นั่งคู่หน้าสามารถปรับระดับด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมหน่วยบันทึกความจำ

พวงมาลัยเพาเวอร์แบบมัลติฟังก์ชันแบบสปอร์ต 3 ก้านท้ายตัด ที่ปรับน้ำหนักตามความเร็วรถด้วยระบบไฟฟ้า หุ้มหนัง nappa พร้อมปุ่มควบคุมแบบ Touch Control ,ระบบ AUDIO 20 GPS และหน้าจอแสดงผลข้อมูลแบบ widescreen cockpit ขนาด 12.3 นิ้วต่อกัน 2 จอ ,ระบบควบคุมและสั่งงานด้วย touchpad,กาบบันไดเรืองแสงพร้อมสัญลักษณ์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ,ชุดคันเร่งและแป้นเบรกแบบสปอร์ต อีกทั้งยังสามารถเลือกสีของไฟเรืองแสงล้อมรอบห้องโดยสารได้ถึง 64 สี
ที่นั่งด้านหลังจะแคบไปนิดหนึ่ง
ด้านความปลอดภัยและเทคโนโลยี สำหรับเวอร์ชันไทย โดดเด่นด้วยระบบ DYNAMIC SELECT ที่มีโหมดการขับขี่อันหลากหลาย ซึ่งทำให้ผู้เป็นเจ้าของสามารถสัมผัสถึงการขับขี่แบบเร้าใจหรือการขับขี่แบบนุ่มสบายตลอดการเดินทางได้ในคันเดียว โดย DYNAMIC SELECT มีโหมดการขับขี่ 5 แบบ คือ ECO ที่ช่วยปรับการขับขี่เข้าสู่ระบบประหยัดน้ำมัน ,INDIVIDUAL ที่สามารถช่วยจดจำรูปแบบการขับขี่ของผู้ขับได้ ,COMFORT ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่รู้สึกผ่อนคลาย สะดวกสบายเหมือนขับรถซาลูน ,SPORT เน้นการเพิ่มความเร้าใจในการขับขี่ให้มากขึ้น และ SPORT + ซึ่งเป็นโหมดที่สามารถใช้สมรรถนะเครื่องยนต์ได้สูงที่สุด และอัตราเร่งดีที่สุด ,ระบบกุญแจ KEYLESS-GO พร้อม HAND-FREE ACCESS,ระบบแสดงผลข้อมูลการขับขี่บนกระจกบังลมหน้า ,ระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ THERMATIC แบบ 2-Zone ,ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Adaptive Highbeam Assist),ระบบปรับโคมไฟหน้ารถตามการเลี้ยวของพวงมาลัย ALS (Active Light System),ระบบช่วยการนำรถเข้าจอดอัตโนมัติ ,ระบบช่วยรักษาระยะห่างจากรถที่อยู่ด้านหน้า ,ระบบนำทาง,ระบบเสียงรอบทิศทาง Burmester Surround Sound System,ฟังค์ชังเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือ Apple Carplay &Android Auto และระบบ Bluetooth สำหรับเชื่อมต่อโทรศัพท์เคลื่อนที่

ทั้งหมดเป็นสเปกของ CLS 300 d AMG Premium เวอร์ชันไทย ที่เตรียมจะมาจำหน่ายปลายเดือนมีนาคม ที่จะถึงนี้ และจะมาโชว์โฉมในงาน “Bangkok International Motor Show 2018 “ด้วย ส่วนราคานั้นยังไม่มีการเปิดเผยอย่างเป็นทางการ แต่รุ่นนำเข้าน่าจะเกือบ 5 ล้านบาท







กำลังโหลดความคิดเห็น