xs
xsm
sm
md
lg

ปอร์เช่-แอสตันมาร์ตินเปิดแผนรถไฟฟ้า ลือสนั่นBMWส่งซี่รี่ส์3ขย้ำเทสลาโมเดล3

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

รถต้นแบบ มิชชั่น อี ที่ปอร์เช่เตรียมดัดแปลงทำรถไฟฟ้า กำหนดคลอดปี 2019
เทสลามีสะดุ้ง เมื่อค่ายรถหรูแถวหน้า ทั้งปอร์เช่และแอสตัน มาร์ติน ออกมาเปิดเผยโครงการผลิตรถไฟฟ้ากันอย่างเอิกเกริก มิหนำซ้ำยังมีข่าวว่าบีเอ็มดับเบิลยูเตรียมเปิดตัวซีรี่ส์ 3 เวอร์ชันไฟฟ้าในเดือนกันยายนนี้ โดยเล็งประกบคู่ชนเทสลา โมเดล 3 โดยตรง

แม้เครื่องยนต์หกสูบกระบอกสูบนอนของปอร์เช่อาจเป็นเครื่องยนต์ที่ดีที่สุดที่มีการผลิตกันในวันนี้ แต่ค่ายรถหรูจากเมืองเบียร์กำลังเล็งลดการพึ่งพิงการสันดาปภายใน และตั้งเป้าผลิตรถไฟฟ้าออกขายครึ่งหนึ่งของกำลังผลิตทั้งหมดภายในปี 2023

รถไฟฟ้ารุ่นแรกของปอร์เช่จะเป็นมิชชั่น อี กำหนดคลอดปี 2019 ตามด้วยครอสโอเวอร์และอีกหลายรุ่น โอลิเวอร์ บลูม ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร (ซีอีโอ) บอกว่า ทั้งมิชชั่น อีและครอสโอเวอร์รุ่นใหม่จะผลิตในโรงงานผลิตแห่งใหม่ในซูฟเฟนเฮาเซน ซึ่งมีกำลังการผลิตประมาณ 60,000 คันต่อปี

แต่ข่าวใหญ่กว่านั้นก็คือมาคัน รถที่ขายดีที่สุดของปอร์เช่ในขณะนี้ จะผลิตออกมาในเวอร์ชันไฟฟ้าอย่างเดียวตั้งแต่ปี 2022 เพื่อช่วยปูทางสำหรับรถไฟฟ้ารุ่นอื่นๆ ที่จะตามมาในปีต่อไป

สำหรับบรรดาสาวกของ 911 นั้นหมดกังวลได้ เพราะปอร์เช่ยังไม่มีแผนดัดแปลงเป็นรถไฟฟ้าอย่างน้อยที่สุดในขณะนี้

ข้ามมาที่ค่ายแอสตัน มาร์ตินจากอังกฤษกันบ้าง รถไฟฟ้ารุ่นแรกจะออกจากสายการผลิตในปี 2019 โดยมีการยืนยันแล้วว่า จะเป็น RapidE รถสปอร์ต 4 ประตูที่รอคอยกันมานาน แต่จะผลิตออกมาในจำนวนจำกัดเพียง 155 คันเท่านั้น และออกแบบโดยอิงกับ Rapide AMR ที่กำลังจะเปิดตัวเร็วๆ นี้

ข่าวที่ได้รับการยืนยันก่อนหน้านี้คือ วิลเลียมส์ แอดวานซ์ เอนจิเนียริ่ง จะเป็นพันธมิตรหลักในโครงการเปลี่ยนจากเครื่องยนต์เบนซิน วี12 ขนาด 6 ลิตรเป็นมอเตอร์และแบตเตอรี่

วิลเลียมส์ แอดวานซ์ เอนจิเนียริ่งเป็นบริษัทที่แตกออกมาจากทีมฟอร์มูล่า วัน ที่ผลิตแบตเตอรี่ให้ฟอร์มูล่า อี หรือรถแข่งเครื่องยนต์ไฟฟ้า และก่อนหน้านี้เคยเป็นพันธมิตรทำคอนเซ็ปต์คาร์ C-X75 กับจากัวร์

อนึ่ง แรกเริ่มนั้น RapidE ถูกวางไว้ว่า จะเป็นโครงการความร่วมมือกับเลออีโค พันธมิตรด้านเทคโนโลยีจากเมืองจีน แต่สุดท้ายแผนการผลิตต้องถูกพับไปหลังจากเลออีโคขอถอนตัว

แม้ความเคลื่อนไหวนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนเซ็กคันด์ เซ็นจูรี่ที่มีเป้าหมายในการทำให้บริษัทรักษาศักยภาพการทำกำไรต่อไปอีก 100 ปี แต่ซีอีโอ แอนดี้ ปาล์มเมอร์ ยืนยันว่า เครื่องยนต์สันดาปภายในยังคงเป็นหัวใจของรถแอสตัน มาร์ตินเหมือนที่เป็นมาตลอดกว่าหนึ่งศตวรรษ

สำหรับ RapidE นั้นจะสะท้อนวิสัยทัศน์ ความปรารถนา และศักยภาพในการตอบรับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การนำเสนอรถสายพันธุ์ใหม่ที่เป็นตัวตนที่แท้จริงของแอสตัน มาร์ติน และเพื่อความสุขของลูกค้า

ช่วงปลายเดือนมิถุนายน สื่อเมืองนอกยังตีข่าวครึกโครมว่า บีเอ็มดับเบิลยูจะเปิดตัวซีรี่ส์ 3 เวอร์ชันไฟฟ้าในงานแฟรงก์เฟิร์ต ออโต้ โชว์เดือนกันยายนนี้ และมีกำหนดลงตลาดอเมริกาในรุ่นปี 2019

ต้นตอของข่าวนี้ที่ทางบีเอ็มดับเบิลยูยังไม่ได้ออกมายืนยันหรือปฏิเสธคือ หนังสือพิมพ์ฮันเดลส์บลัตต์ของเยอรมนี ที่ยังบอกอีกว่า ซีรี่ส์ 3 ไฟฟ้าจะวิ่งได้ระยะทางอย่างน้อย 400 กิโลเมตร

จริงๆ แล้วข่าวนี้เริ่มแพร่งพรายมาตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2016 จากนิตยสารออโต้ เอ็กซ์เพรสของอังกฤษ

ข่าวล่าสุดจากสื่อเมืองเบียร์ยังระบุว่า บีเอ็มดับเบิลยูจงใจส่งซีรี่ส์ 3 ประกบโมเดล 3 ของเทสลาโดยตรง

ทั้งนี้ ต้องไม่ลืมว่า บีเอ็มดับเบิลยูเป็นหนึ่งในบริษัทรถรายใหญ่ที่ถูกเทสลาที่ถือเป็นหน้าใหม่ในวงการ แซงหน้าในแง่มูลค่าตลาดเมื่อเร็วๆ นี้ หลังจากราคาหุ้นของบริษัทรถไฟฟ้าดาวรุ่งแห่งนี้โจนทะยานกว่า 70% ตั้งแต่ต้นปี

อีลอน มัสก์ ประธานเทสลา เพิ่งทวิตสดๆ ร้อนๆ ว่า โมเดล 3 ล็อตแรกจะออกจากโรงงานประกอบในวันศุกร์ (7) หรือเร็วกว่ากำหนดสองสัปดาห์ และเริ่มจัดส่งได้ตั้งแต่วันที่ 28 เดือนนี้

เทสลาตั้งราคาโมเดล 3 เริ่มต้นที่คันละ 35,000 ดอลลาร์ สูสีกับราคาซีรี่ส์ 3 รุ่นที่ถูกที่สุดคือ 320i ที่เริ่มต้นที่ 33,450 ดอลลาร์ ส่วนระยะทางคาดว่าจะวิ่งได้ 215 กิโลเมตรจากการชาร์จแต่ละครั้ง นอกจากนั้นยังมีข่าวว่า มีลูกค้าสั่งจองรถรุ่นนี้ถึงประมาณ 400,000 ราย

ข่าวซี่รี่ส์ 3 เวอร์ชันไฟฟ้าดูน่าเชื่อถือพอควร เนื่องจากรถรุ่นนี้เป็นหนึ่งในรุ่นยอดนิยมของบีเอ็มดับเบิลยู แต่ที่สื่อต่างๆ เซอร์ไพรส์คือ ไม่คิดว่า จะเร็วขนาดนี้

แม้รู้กันมานานแล้วว่า บีเอ็มดับเบิลยูมีแผนการใหญ่เกี่ยวกับรถไฟฟ้า เฉพาะปีที่ผ่านมามีการลงทุนไปแล้ว 5,870 ล้านดอลลาร์ และบริษัทยืนยันว่า จะขึ้นสายผลิตมินิ อีวี และครอสโอเวอร์ X3 ระบบไฟฟ้าทั้งหมดในปี 2019 และ 2020 ตามลำดับ และ iNext ในปี 2021 ซึ่งจะเป็นคู่แข่งโดยตรงกับเทสลา โมเดล S แต่ซีรี่ส์ 3 จะเป็นหมัดเด็ดกรุยทางให้รถไฟฟ้ารุ่นต่อๆ ไปของบีเอ็มดับเบิลยู ซึ่งเป็นไปได้ว่า อาจเป็นซีรี่ส์ 5 และซีรี่ส์ 7 รวมทั้งอาจทำให้รถไฟฟ้าโดยรวมขยับเข้าใกล้ความเป็นรถกระแสหลักมากขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น