ด้วยความสงสัยว่า เข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุดปลอดภัยกว่าเข็มขัดนิรภัยรอบสะโพกหรือแบบ 2 จุดหรือไม่ วิศวกรของวอลโว่ คาร์จึงตั้งทีมสอบสวนอุบัติเหตุเกี่ยวกับรถวอลโว่ที่ติดตั้งเข็มขัดนิรภัยทั้งสองประเภท เพื่อศึกษาอุบัติเหตุและสาเหตุของการบาดเจ็บเพื่อให้เข้าใจข้อดีและข้อเสียของสายรัดไหล่ที่เพิ่มเข้ามา
เกือบ 50 ปีให้หลัง แนวทางในการสอบสวนอุบัติเหตุหยั่งรากลึกในวอลโว่และบริษัทรถอื่นๆ เช่น บีเอ็มดับเบิลยูและเดมเลอร์ เพื่อค้นหาวิธีหลีกเลี่ยงการชนหรือลดความรุนแรงของการชน แม้เทคโนโลยีความปลอดภัยพัฒนาขึ้นอย่างมาก แต่ทีมเหล่านี้ยังคงมีบทบาทสำคัญในกระบวนการพัฒนาและการสร้างสรรค์นวัตกรรมต่างๆ เช่น แกนพวงมาลัยแบบยุบตัวได้ และเบาะหลังปรับเอนได้
มาลิน เอคคอล์ม ผู้อำนวยการวอลโว่ คาร์ เซฟตี้ เซ็นเตอร์ บอกว่า แม้ทุกวันนี้มีอุบัติเหตุน้อยลง แต่การเรียนรู้จากอุบัติเหตุยังเป็นสิ่งสำคัญจำเป็น
เช่นเดียวกับวอลโว่ สองค่ายรถเมืองเบียร์อย่างบีเอ็มดับเบิลยูและเดมเลอร์ ตั้งทีมสอบสวนอุบัติเหตุในปี 1976 และ 1969 ตามลำดับ และแม้หลายอย่างในวงการยานยนต์เปลี่ยนไป แต่ภารกิจของทีมเหล่านี้ยังคงเดิมคือ เก็บข้อมูลให้ได้มากที่สุดเพื่อทำให้รถยนต์แห่งอนาคตปลอดภัยยิ่งขึ้น
คาร์ล ชุลแมน ศัลยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านการป้องกันการบาดเจ็บจากศูนย์วิจัยการบาดเจ็บวิลเลียม เลห์แมนของมหาวิทยาลัยไมอามี่ บอกว่า ทีมวิจัยอุบัติเหตุทำงานคล้ายหน่วยซีเอสไอในซีรี่ส์ดัง แต่แทนที่จะสืบสวนสถานที่เกิดเหตุในคดีอาชญากรรม ทีมวิจัยอุบัติเหตุจะไปยังสถานที่ที่รถชนทันทีที่ได้รับแจ้งเหตุ เก็บหลักฐานและสัมภาษณ์ผู้เกี่ยวข้องเพื่อให้รู้ชัดเจนที่สุดว่า เกิดอะไรขึ้น
บีเอ็มดับเบิลยูทำงานร่วมกับศูนย์วิจัยแห่งนี้มาตลอด 10 ปีที่ผ่านมาเพื่อศึกษาอุบัติเหตุและการบาดเจ็บในอเมริกา
นักวิจัยในทีมวิจัยอุบัติเหตุจะทำงานร่วมกับหน่วยงานรัฐบาลในท้องถิ่น เพื่อให้ได้รับแจ้งเมื่อเกิดอุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับรถของบริษัท ทีมของวอลโว่นั้นประจำอยู่ในสำนักงานใหญ่ของบริษัทในโกเทนเบิร์ก สวีเดน ทำหน้าที่สอบสวนอุบัติเหตุในพื้นที่โดยรอบเป็นหลัก ส่วนทีมของเดมเลอร์มีขอบเขตการปฏิบัติงาน 120 ไมล์ (193 กิโลเมตร) ทางใต้ของเยอรมนี สำหรับทีมของบีเอ็มดับเบิลยู เดิมทีปฏิบัติภารกิจในบาวาเรีย แต่ปัจจุบัน ย้ายไปปักหลักวิเคราะห์การชนในอเมริกาผ่านการเป็นพันธมิตรกับศูนย์เลห์แมน และเดินทางด้วยเครื่องบินไปยังสถานที่เกิดเหตุทั่วอเมริกา
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ ทีมงานจะเก็บข้อมูลสภาพอากาศ สภาพถนน ความรุนแรงในการชน เพื่อนำไปจำลองการชนในสภาพแวดล้อมห้องปฏิบัติการ นอกจากนี้ยังสัมภาษณ์คนขับและผู้โดยสาร จัดทำรายงานการรักษาพยาบาลแบบไม่เปิดเผยชื่อเกี่ยวกับการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุรถชนส่งให้นักวิจัย โดยบริษัทรถเหล่านี้ยืนยันว่า จะสอบสวนอุบัติเหตุเฉพาะกรณีที่ได้รับการยินยอมจากผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดเท่านั้น
เอคคอล์มเผยว่า ทีมของวอลโว่วิเคราะห์อุบัติเหตุ 40,000 กรณีในสวีเดน ขณะที่เดมเลอร์สอบสวนอุบัติเหตุในเยอรมนีอย่างน้อย 3,800 กรณี และบีเอ็มดับเบิลยู 457 กรณีในอเมริกา
ขณะที่หลักฐานที่รวบรวมจากสถานที่เกิดเหตุช่วยให้ทีมซีเอสไอจับคนร้ายได้ แต่สำหรับทีมวิจัยอุบัติเหตุนั้นใช้หลักฐานที่เก็บรวบรวมมาเพื่อระบุสาเหตุของอุบัติเหตุและการบาดเจ็บแต่ละกรณี และนำไปเป็นข้อมูลในการพัฒนาฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยในการออกแบบรถรุ่นใหม่ๆ
จากการพิจารณาฐานข้อมูลอุบัติเหตุที่ย้อนกลับไปได้ถึงปี 1970 และการรวมข้อมูลจากสำนักงานความปลอดภัยทางหลวงแห่งชาติของสหรัฐฯ รวมทั้งหน่วยงานรัฐในประเทศอื่นๆ ทำให้ทีมความปลอดภัยของวอลโว่พบรูปแบบการบาดเจ็บที่หลังเมื่อรถไถลออกนอกถนนด้วยความเร็ว และผลลัพธ์คือรถใหม่ทุกรุ่นของวอลโว่จะมีพื้นที่รับและกระจายแรงกระแทกใต้เบาะเพื่อดูดซับแรงกระแทกและป้องกันการบาดเจ็บที่หลัง
เช่นเดียวกัน หลังศึกษาการชนของรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ที่เกี่ยวข้องกับการบาดเจ็บข้อต่อบริเวณคอ เดมเลอร์ได้พัฒนาพนักพิงศีรษะที่จะขยับไปข้างหน้าเมื่อรถมีแรงกระแทกในระดับหนึ่ง เพื่อเพิ่มการรองรับศีรษะและคอของผู้โดยสารและคนขับ
ในอเมริกา ชุลแมนบอกว่า พบอุบัติเหตุจำนวนมากที่เกิดจากอาการป่วยของคนขับ เช่น คนขับที่เป็นลมชักหรือหัวใจวายขณะขับรถและไม่สามารถควบคุมรถได้ และขณะนี้ บีเอ็มดับเบิลยูและศูนย์เลห์แมนกำลังร่วมกันพัฒนาวิธีป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว รวมทั้งป้องกันคนขับและรถคันอื่นๆ หากไม่สามารถหลีกเลี่ยงสถานการณ์นั้นได้
แม้รถมีความปลอดภัยมากขึ้น แต่ผู้ผลิตยืนยันว่า แนวทางการสอบสวนอุบัติเหตุยังมีคุณค่าและความสำคัญ เนื่องจากทำให้ได้ข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการบรรลุเป้าหมายในการทำให้โลกปราศจากอุบัติเหตุจากรถยนต์
ปีเตอร์ บาวเออร์ หัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์ของบีเอ็มดับเบิลยู นอร์ธ อเมริกา ทิ้งท้ายว่า ความหวังของทีมคือการเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันอุบัติเหตุมากกว่าการลดสถิติการบาดเจ็บ ซึ่งหมายความถึงการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและการวิจัยจากสถานที่เกิดเหตุ