ยานน์ มาร์เดนโบโร แชมป์ จีที อะคาเดมี ปี 2554 ชีวิตเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงและกำลังโลดแล่น เป็นนักแข่งดาวรุ่งรายการ All Japan F3 Championship รวมถึงแข่งในรุ่น GT 300 ในทีม บี-แม็กซ์ เอ็นดีดี พี เรซซิ่ง รายการซุปเปอร์จีที
จริงไหมที่บอกว่า การเป็นแชมป์ ทำให้ชีวิตคุณเปลี่ยนแปลงไป
สำหรับผมชีวิตเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เพราะก่อนการแข่งขัน ก็เป็นนักศึกษา ชอบเล่นเกม ลึกๆเป็นคนชอบรถ ก็อยากเป็นนักแข่งรถ แต่ก็ไม่รู้จะไปหาใคร ไม่รู้จักใคร ต้องมีคนสนับสนุน โอกาสจะเป็นนักแข่งรถริบหรี่เหลือเกิน ตอนนั้นอายุ 19 เรียนด้านวิศวกรรมมอเตอร์สปอร์ต ซึ่งหลังจากได้เป็นแชมป์จีที อะคาเดมี ปี 2011 ชีวิตก็เปลี่ยนไปทันที ได้เข้าโปรแกรมการพัฒนาสู่การเป็นนักแข่งรถมืออาชีพ ตอนนี้ อายุ 25 ปีแล้ว เมื่อมองย้อนไปก็จะเห็นชัดว่าชีวิตเปลี่ยนไปอย่างมากเหลือเกิน ตั้งแต่ต้องย้ายมาอยู่ นิวแฮมตัน เพื่อฝึกฝนทักษะ นับจากนั้นตอนนี้ก็ได้ลงแข่งในรายการใหญ่ๆ หลาย รายการ เช่น Super GT All Japan F3 Championship ตอนนี้ชีวิตส่วนใหญ่ก็อยู่ที่ญี่ปุ่น อยู่ได้ประมาณ 6 เดือนแล้ว สำหรับผมอาจเรียกได้ว่าฝันเป็นจริง นับจากนี้ไปก็มีหน้าที่ทำฝันที่เป็นจริงและทำให้ดีที่สุด ผมก็จะทำอย่างดีที่สุด ทำทุกวิถีทางที่จะทำให้เส้นทางคืออาชีพนักแข่ง ที่ผมเลือกนี้ อยู่กับผมให้นานที่สุด
เป้าหมายของคุณจากนี้คืออะไร
ผมมีเป้าหมายที่จะก้าวไปสู่การเป็นนักแข่ง Formula 1 แต่ก็ต้องยอมรับว่าไม่ได้จะไปถึงได้ง่าย ๆ ซึ่งหากถึงเวลาที่ต้องปรับเป้าหมายจริงๆ ผมก็มีเป้าหมายสอง นั่นคือ การอยู่ในอาชีพนักแข่งรถมืออาชีพต่อไป จนกว่าขาของผมจะไปไม่ไหว ซึ่งกว่าจะถึงก็คงอายุสัก 40 ปีกว่าๆ ตอนนี้ก็ต้องดูแลร่างกายให้ฟิต แข็งแรง เสมอ
บทบาทของคุณใน จีที อะคาเดมี
หลักๆ บทบาทของผม คือมาให้คำแนะนำการขับแข่ง และ ให้แรงบันดาลใจกับผู้เข้าแข่งขัน การแข่งขันในปีนี้ ผมว่ามีการพัฒนาการที่ดีมากๆ แต่ละคนเตรียมความพร้อมมาดี มีความแข็งแรงทั้งด้านร่างกายและทักษะ การขับก็เก่งขึ้น ก็เชื่อว่ามาจากการศึกษาข้อมูล และการติดตามข่าวของโครงการนี้
อยากฝากอะไรไปถึงคนรุ่นใหม่ๆ จะได้สานฝันให้เป็นจริงเหมือนคุณ
ผมว่า ถ้าคุณมีความฝันอยากเป็นนักแข่งรถจริงๆ มีความหวังที่อยากจะเป็นนักแข่งรถ หากไม่รู้ว่าจะไปเริ่มต้นจากที่ไหน ก็แนะนำให้มาเริ่มต้นที่ นิสสัน จีที อะคาเดมี เพราะรายการนี้ ให้โอกาสสำหรับคนที่ไม่มีโอกาส คุณไม่รู้หรอกว่า คุณจะไปได้ไกลแค่ไหน ส่วนใหญ่คนที่เข้ามาโปรแกรมจีที อะคาเดมี แล้ว เขาจะพบว่า สิ่งสำคัญไม่ใช่ที่การแข่งขันเพื่อที่จะชนะ แต่อยู่ที่ตัวคุณนั้นไปไกลได้แค่ไหน แน่นอนว่า คุณจะต้องเต็มที่กับทุกๆ บททดสอบ ซึ่งคนที่สามารถไปถึงจุดที่ดีกว่า ไกลกว่าผู้เข้าแข่งขันคนอื่นๆ นั่นก็หมายถึงรางวัลที่คุณจะได้รับตามมาจากสิ่งที่คุณได้ทำเต็มที่แล้ว ซึ่งมันสุดยอดและคุ้มค่ามาก เพราะมันจะเปลี่ยนชีวิตของคุณ เหมือนกับที่ผมได้ประสบมา แม้แต่ผมเองยังจำไม่ได้เลยว่า ชีวิตวันนั้นกับวันนี้มันเป็นอย่างไร มันเปลี่ยนไปมากเหลือเกิน สำหรับผมนี่คือรายการที่ดีที่สุดในโลก เรียกได้ว่ามันโครตคุ้มจนคุณไม่อยากที่จะพลาดมันไปเลย สำหรับผมอยากจะให้แรงบันดาลใจกับคนที่ฝันเหมือนผม อยากเป็นนักแข่งเหมือนผม ให้ฝ่าฟันและเข้าสู่นิสสัน จีที อะคาเดมี ให้ได้ และหากมีการแข่งขันที่ไหนก็พยายามศึกษาดู พยายามดูแลตนเอง ฟิตร่างกายให้พร้อม หาทางพาตนเองมาสู่รายการนี้ให้ได้ บอกอีกครั้งว่ามันคุ้มค่าที่ได้เข้ามาเหลือเกิน
ประเทศไหนที่คุณคิดว่ามีแววชนะ
แต่ละประเทศก็จะมีคนที่แข็งแกร่ง แข็งแรงที่น่าจะเป็นผู้ชนะ ผมคงพูดลำบาก แต่ใครจะไปได้ไกลกว่า ก็จะต้องดูการแข่งขัน อย่างไรก็ตามสิ่งที่ผมอยากให้ทุกคนเข้าใจคือ คนที่จะชนะในนิสสัน จีที อะคาเดมี ได้นั้น ไม่ได้หมายถึงคนที่ขับได้เร็วที่สุดกว่าคนอื่น ส่วนใหญ่คนที่ชนะรายการนิสสัน จีที อะคาเดมี คือ คนที่แสดงให้คณะกรรมการตัดสินเห็นว่า เขามีพัฒนาการที่ยอดเยี่ยมทุกครั้งที่เข้าสู่สนามทดสอบ เมื่อได้รับความเห็นไปก็สามารถปรับปรุงพัฒนาตนให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ
มีอะไรจะบอกผู้เข้าแข่งขัน จีที อะคาเดมี
สิ่งที่อยากจะบอกให้พวกเขาทราบถึงหัวใจและชีวิตของแข่งขัน โดยเฉพาะในวันสุดท้ายที่ในปีนี้ มีการลงแข่งขันเป็นทีม และมีการเปลี่ยนคนขับแข่ง ซึ่งจะต้องทำให้ดีต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงที่มีการเข้าพิท ช่วงนี้เราอาจจะทำให้เสียโอกาส และได้โอกาส ซึ่งเวลาแต่ละวินาทีมันมีความหมายมาก แต่ละทีมต้องทำให้ดีที่สุด สำหรับคนที่พลาดโอกาส สิ่งที่อยากจะบอกคือ หากตั้งใจ มุ่งมั่น ก็อย่าล้มเลิกความมุ่งมั่นง่ายๆ สำหรับคนที่เข้ามาถึงรอบสุดท้ายก็เหมือนกัน คุณจะต้องแสดงให้เห็นว่า คุณคือคนที่เขากำลังล่าตัว กำลังต้องการให้เป็นนักแข่งคนต่อไป
ชีวิตที่เปลี่ยนไปของ ยานน์ มาร์เดนโบโร ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย แต่เกิดจากความตั้งใจ มุ่งมั่น ที่จะเป็นนักแข่งรถให้ได้ ด้วยการฝ่าฟันทุกอุปสรรคเพื่อได้มันมา และเขาก็ทำได้ ...ชีวิตกำลังก้าวเดินไปตามฝัน..เป็นกำลังใจให้เขาไปสู่ฝันอันสูงสุด...คิดว่าไม่น่าจะยาก....สำหรับเด็กหนุ่มคนนี้ ..
จริงไหมที่บอกว่า การเป็นแชมป์ ทำให้ชีวิตคุณเปลี่ยนแปลงไป
สำหรับผมชีวิตเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เพราะก่อนการแข่งขัน ก็เป็นนักศึกษา ชอบเล่นเกม ลึกๆเป็นคนชอบรถ ก็อยากเป็นนักแข่งรถ แต่ก็ไม่รู้จะไปหาใคร ไม่รู้จักใคร ต้องมีคนสนับสนุน โอกาสจะเป็นนักแข่งรถริบหรี่เหลือเกิน ตอนนั้นอายุ 19 เรียนด้านวิศวกรรมมอเตอร์สปอร์ต ซึ่งหลังจากได้เป็นแชมป์จีที อะคาเดมี ปี 2011 ชีวิตก็เปลี่ยนไปทันที ได้เข้าโปรแกรมการพัฒนาสู่การเป็นนักแข่งรถมืออาชีพ ตอนนี้ อายุ 25 ปีแล้ว เมื่อมองย้อนไปก็จะเห็นชัดว่าชีวิตเปลี่ยนไปอย่างมากเหลือเกิน ตั้งแต่ต้องย้ายมาอยู่ นิวแฮมตัน เพื่อฝึกฝนทักษะ นับจากนั้นตอนนี้ก็ได้ลงแข่งในรายการใหญ่ๆ หลาย รายการ เช่น Super GT All Japan F3 Championship ตอนนี้ชีวิตส่วนใหญ่ก็อยู่ที่ญี่ปุ่น อยู่ได้ประมาณ 6 เดือนแล้ว สำหรับผมอาจเรียกได้ว่าฝันเป็นจริง นับจากนี้ไปก็มีหน้าที่ทำฝันที่เป็นจริงและทำให้ดีที่สุด ผมก็จะทำอย่างดีที่สุด ทำทุกวิถีทางที่จะทำให้เส้นทางคืออาชีพนักแข่ง ที่ผมเลือกนี้ อยู่กับผมให้นานที่สุด
เป้าหมายของคุณจากนี้คืออะไร
ผมมีเป้าหมายที่จะก้าวไปสู่การเป็นนักแข่ง Formula 1 แต่ก็ต้องยอมรับว่าไม่ได้จะไปถึงได้ง่าย ๆ ซึ่งหากถึงเวลาที่ต้องปรับเป้าหมายจริงๆ ผมก็มีเป้าหมายสอง นั่นคือ การอยู่ในอาชีพนักแข่งรถมืออาชีพต่อไป จนกว่าขาของผมจะไปไม่ไหว ซึ่งกว่าจะถึงก็คงอายุสัก 40 ปีกว่าๆ ตอนนี้ก็ต้องดูแลร่างกายให้ฟิต แข็งแรง เสมอ
บทบาทของคุณใน จีที อะคาเดมี
หลักๆ บทบาทของผม คือมาให้คำแนะนำการขับแข่ง และ ให้แรงบันดาลใจกับผู้เข้าแข่งขัน การแข่งขันในปีนี้ ผมว่ามีการพัฒนาการที่ดีมากๆ แต่ละคนเตรียมความพร้อมมาดี มีความแข็งแรงทั้งด้านร่างกายและทักษะ การขับก็เก่งขึ้น ก็เชื่อว่ามาจากการศึกษาข้อมูล และการติดตามข่าวของโครงการนี้
อยากฝากอะไรไปถึงคนรุ่นใหม่ๆ จะได้สานฝันให้เป็นจริงเหมือนคุณ
ผมว่า ถ้าคุณมีความฝันอยากเป็นนักแข่งรถจริงๆ มีความหวังที่อยากจะเป็นนักแข่งรถ หากไม่รู้ว่าจะไปเริ่มต้นจากที่ไหน ก็แนะนำให้มาเริ่มต้นที่ นิสสัน จีที อะคาเดมี เพราะรายการนี้ ให้โอกาสสำหรับคนที่ไม่มีโอกาส คุณไม่รู้หรอกว่า คุณจะไปได้ไกลแค่ไหน ส่วนใหญ่คนที่เข้ามาโปรแกรมจีที อะคาเดมี แล้ว เขาจะพบว่า สิ่งสำคัญไม่ใช่ที่การแข่งขันเพื่อที่จะชนะ แต่อยู่ที่ตัวคุณนั้นไปไกลได้แค่ไหน แน่นอนว่า คุณจะต้องเต็มที่กับทุกๆ บททดสอบ ซึ่งคนที่สามารถไปถึงจุดที่ดีกว่า ไกลกว่าผู้เข้าแข่งขันคนอื่นๆ นั่นก็หมายถึงรางวัลที่คุณจะได้รับตามมาจากสิ่งที่คุณได้ทำเต็มที่แล้ว ซึ่งมันสุดยอดและคุ้มค่ามาก เพราะมันจะเปลี่ยนชีวิตของคุณ เหมือนกับที่ผมได้ประสบมา แม้แต่ผมเองยังจำไม่ได้เลยว่า ชีวิตวันนั้นกับวันนี้มันเป็นอย่างไร มันเปลี่ยนไปมากเหลือเกิน สำหรับผมนี่คือรายการที่ดีที่สุดในโลก เรียกได้ว่ามันโครตคุ้มจนคุณไม่อยากที่จะพลาดมันไปเลย สำหรับผมอยากจะให้แรงบันดาลใจกับคนที่ฝันเหมือนผม อยากเป็นนักแข่งเหมือนผม ให้ฝ่าฟันและเข้าสู่นิสสัน จีที อะคาเดมี ให้ได้ และหากมีการแข่งขันที่ไหนก็พยายามศึกษาดู พยายามดูแลตนเอง ฟิตร่างกายให้พร้อม หาทางพาตนเองมาสู่รายการนี้ให้ได้ บอกอีกครั้งว่ามันคุ้มค่าที่ได้เข้ามาเหลือเกิน
ประเทศไหนที่คุณคิดว่ามีแววชนะ
แต่ละประเทศก็จะมีคนที่แข็งแกร่ง แข็งแรงที่น่าจะเป็นผู้ชนะ ผมคงพูดลำบาก แต่ใครจะไปได้ไกลกว่า ก็จะต้องดูการแข่งขัน อย่างไรก็ตามสิ่งที่ผมอยากให้ทุกคนเข้าใจคือ คนที่จะชนะในนิสสัน จีที อะคาเดมี ได้นั้น ไม่ได้หมายถึงคนที่ขับได้เร็วที่สุดกว่าคนอื่น ส่วนใหญ่คนที่ชนะรายการนิสสัน จีที อะคาเดมี คือ คนที่แสดงให้คณะกรรมการตัดสินเห็นว่า เขามีพัฒนาการที่ยอดเยี่ยมทุกครั้งที่เข้าสู่สนามทดสอบ เมื่อได้รับความเห็นไปก็สามารถปรับปรุงพัฒนาตนให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ
มีอะไรจะบอกผู้เข้าแข่งขัน จีที อะคาเดมี
สิ่งที่อยากจะบอกให้พวกเขาทราบถึงหัวใจและชีวิตของแข่งขัน โดยเฉพาะในวันสุดท้ายที่ในปีนี้ มีการลงแข่งขันเป็นทีม และมีการเปลี่ยนคนขับแข่ง ซึ่งจะต้องทำให้ดีต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงที่มีการเข้าพิท ช่วงนี้เราอาจจะทำให้เสียโอกาส และได้โอกาส ซึ่งเวลาแต่ละวินาทีมันมีความหมายมาก แต่ละทีมต้องทำให้ดีที่สุด สำหรับคนที่พลาดโอกาส สิ่งที่อยากจะบอกคือ หากตั้งใจ มุ่งมั่น ก็อย่าล้มเลิกความมุ่งมั่นง่ายๆ สำหรับคนที่เข้ามาถึงรอบสุดท้ายก็เหมือนกัน คุณจะต้องแสดงให้เห็นว่า คุณคือคนที่เขากำลังล่าตัว กำลังต้องการให้เป็นนักแข่งคนต่อไป
ชีวิตที่เปลี่ยนไปของ ยานน์ มาร์เดนโบโร ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย แต่เกิดจากความตั้งใจ มุ่งมั่น ที่จะเป็นนักแข่งรถให้ได้ ด้วยการฝ่าฟันทุกอุปสรรคเพื่อได้มันมา และเขาก็ทำได้ ...ชีวิตกำลังก้าวเดินไปตามฝัน..เป็นกำลังใจให้เขาไปสู่ฝันอันสูงสุด...คิดว่าไม่น่าจะยาก....สำหรับเด็กหนุ่มคนนี้ ..