คัดกิ่งรักส์ คิคคิคสะระณัง, เฟี้ยวฟ้าว สุดสวิงริงโก้, ดีใจ ดีดีดี, เฮงจ๊อบส์แฮปปี้ไลฟ์ เมคไลฟ์เบทเทอร์...เหล่านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของชื่อ และนามสกุลที่ต้องขออภัยต่อเจ้าของชื่อ ซึ่งมิได้มีเจตนาอื่นใด นอกจากแสดงข้อเท็จจริงให้เห็นว่าชื่อ และนามสกุลเหล่านี้มี หรือเคยมีการใช้อยู่จริง
ล่าสุดทำฮือฮาไปทั้งแผ่นดิน เมื่อมีภาพบัตรประชาชนของชายวัย 44 ปี ระบุชื่อ "หัวหน้า" นามสกุล "คณะปฏิวัติ" (ปัจจุบันไม่ได้ใช้ชื่อนี้แล้ว) จุดประเด็นการตั้งชื่อในสังคมไทยขึ้นอีกครั้ง แม้บางคนจะตั้งเพราะความเชื่อส่วนตัว แต่หลายๆ คนก็นิยมตั้งชื่อโดยถือหลักความเท่นำหน้าความหมาย
ชื่อแปลก ไม่ใช่เรื่องแปลก
กล่าวสำหรับการตั้งชื่อแปลก สะกดยาก อ่านออกเสียงลำบาก ไม่ใช่เรื่องใหม่ในสังคมไทย บางคนพ่อแม่ตั้งให้ตั้งแต่เกิด ในขณะที่บางคนเปลี่ยนชื่อใหม่เพราะถูกทักท้วงจากหมอดู หรือบางคนเปลี่ยนให้ดูเท่ ดูเก๋ โดยกำหนดความหมายของชื่อ นามสกุลในแบบของตัวเอง
ถ้าพูดถึงการเปลี่ยนชื่อกับดารา คนดังในวงการบันเทิงไทย "อิม" คือหนึ่งในดารานักแสดงสาววัยรุ่นที่เปลี่ยนชื่อ และนามสกุลมาแล้วหลายครั้ง ตั้งแต่ อชิตะ สิกขมานา ตามมาด้วย อชิตา วุฒินันท์สุระสิทธิ์, อชิตะ ธนาศาสตนันท์, หนูอิมอิม ก้าวมหัศาจรรย์ และล่าสุดกับ "เฟี้ยวฟ้าว สุดสวิงริงโก้"
เกี่ยวกับเรื่องชื่อ เธอเคยให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อว่า ไม่ได้ตั้งมั่วซั่ว แต่ใช้เวลาในการหาชื่อนี้มานานเกือบ 2 เดือน ประจวบเหมาะกับช่วงนั้นก้าวสู่ปีใหม่พอดี เธอกับพี่ชายจึงคิดอยากทำอะไรใหม่ๆ และการเปลี่ยนชื่อก็เป็นหัวข้อที่น่าสนใจ โดยใช้ศาสตร์ว่าด้วยตัวเลขง่ายๆ มาเป็นหลักในการตั้งชื่อ
พอๆ กับนักแสดงสาวแห่งวิกสามพระรามสี่ "เมจิ" จากชื่อพรศิริ เปลี่ยนมาเป็นพิมพ์อักษิพร และขวัญขิณีย์ ตามลำดับ ล่าสุดกับชื่อ "คัคกิ่งรักส์" นามสกุล "คิคคิคสะระณัง" ที่เคยสร้างความฮือฮามาแล้ว โดยเธอบอกว่า มีอาจารย์ที่นับถือทางศาสตร์ด้านตัวเลขช่วยคำนวณให้ ซึ่งมีความหมายโดยรวมว่า "ทางสายกลาง"
ขณะที่นักแสดงรุ่นใหญ่อย่าง "ผัดไท" ก็เปลี่ยนชื่อมาแล้วหลายครั้ง โดยเหตุผลที่เปลี่ยนนั้นเพราะชื่อเก่ายาวเกินไปเวลาเขียนเป็นภาษาอังกฤษ ไล่มาตั้งแต่ นิลุบล, ศิริมา, พรทวี, กิตติมา และล่าสุดกับชื่อ "ดีใจ ดีดีดี" นอกจากนั้นยังมีนักแสดง และคนดังอีกหลายท่านที่นิยมเปลี่ยนชื่อโดยถือหลักของ "การแก้เคล็ด" แต่ก็ไม่ได้แปลก และสะดุดเท่าชื่อที่หยิบมาเขียนในข้างต้น
อย่างไรก็ดี การมีชื่อที่แปลก และยาวก็สร้างปัญหาให้แก่ผู้ใช้ชื่อนั้นด้วยเหมือนกัน เห็นได้จากกรณีข่าวคนชื่อแปลกที่เคยเป็นข่าวดังเมื่อหลายปีก่อน โดยมีชื่อตามบัตรประชาชนเขียนชื่อ และนามสกุลไว้ว่า "นายเฮงจ็อบแฮปปี้ไลฟ์ เมคไลฟ์เบสเทอร์" สุดท้ายก็ต้องวิ่งโร่ขอเปลี่ยนเป็นชื่อ-นามสกุลเดิมเนื่องจากชื่อที่เปลี่ยนนั้นยาว และเขียนยาก ขณะที่นายอำเภอบอกว่า ชื่อที่พ่อแม่ตั้งให้มีความหมายดีอยู่แล้ว
แปลกได้ แต่ต้องไม่ผิดหลัก
เมื่อเปิดดูกฎเกณฑ์ของการตั้งชื่อของราชการที่กำหนดไว้ ทางสำนักบริหารการทะเบียน กระทรวงมหาดไทยได้ระบุกฎเกณฑ์ในการตั้งชื่อบุคคลไว้เป็นข้อๆ ดังนี้
1. ต้องไม่พ้องหรือมุ่งหมายให้คล้ายพระปรมาภิไธย หรือนามสกุลของพระราชินี หรือราชทินนาม
2. ต้องไม่เป็นคำหยาบ หรือมีความหมายหยาบคาย
3. ต้องไม่มีเจตนาในทางทุจริต
4. ผู้ได้รับหรือเคยได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์โดยมิได้ถูกถอด จะใช้ราชทินนามตามบรรดาศักดิ์เป็นชื่อจริงหรือชื่อรองก็ได้
ส่วนในการตั้งนามสกุลก็มีกำหนดกฎเกณฑ์ไว้เช่นเดียวกัน
1. ต้องไม่พ้องหรือมุ่งหมายให้คล้ายกับพระปรมาภิไธยพระนามของพระราชินี
2. ต้องไม่พ้องหรือมุ่งให้คล้ายกับราชทินนาม เว้นแต่เป็นราชทินนามของตนของบุพการี หรือผู้สืบสันดาน
3. ต้องไม่ซ้ำกับชื่อ-สกุลพระราชทานของพระมหากษัตริย์ หรือชื่อสกุลที่จดทะเบียนไว้แล้ว
4. ต้องไม่มีคำหรือความหมายหยาบคาย
5. มีพยัญชนะไม่เกิน 10 พยัญชนะ เว้นแต่กรณีเป็นราชทินนาม
6. ผู้ที่ไม่ได้รับพระราชทานชื่อ-สกุล ห้ามใช้คำว่า “ณ” นำหน้าชื่อ-สกุล
7. ห้ามเอานามพระมหานคร และศัพท์ที่ใช้เป็นพระปรมาภิไธยมาใช้เป็นชื่อ-สกุล
ดูๆ แล้วกฎเกณฑ์การตั้งชื่อ และนามสกุลก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไร ไม่แปลกที่จะมีชื่อ นามสกุลแปลกๆ ดูสะดุดตาให้เห็นมากมาย ซึ่งแน่นอนว่ามีทั้งคนที่รับได้ และไม่ได้ เพราะมองว่าชื่อที่พ่อแม่ตั้งให้ด้วยความปราถนาดีมีความหมาย และเป็นมงคลต่อชีวิตแล้ว รวมไปถึงชื่อสกุลที่ควรจะภูมิใจในการสืบทอดต่อๆ กันมา
ในขณะที่อีกฝ่ายมองว่า การเปลี่ยนชื่อเป็นสิทธิ์ และความเชื่อของแต่ละคน บางคนตั้งชื่อเพื่อเตือนสติตนเอง หรือสื่อความหมายเฉพาะตัว แต่กระนั้นบางคนก็มองกลางๆ เชิงตั้งคำถาม โดยเฉพาะชื่อสกุลแปลกๆ ว่า "...ลูกหลานจะสืบต่อนามสกุลประหลาดนั้นไหม เขาจะภูมิใจกับบรรพชนที่เริ่มต้นสิ่งนี้หรือเปล่า..."
อย่างกรณีการตั้งชื่อสกุล "พรหมจารีย์พินาศ" ที่เคยเป็นข่าวที่ผ่านมา มีการระบุว่าสามารถตั้งได้ เพราะเป็นคำไม่หยาบคาย แต่นายทะเบียนต้องให้คำแนะนำก่อนว่า หากตั้งไปแล้วในอนาคตมีบุตรธิดาอาจจะกระทบต่อจิตใจได้ หากเจ้าตัวยังคงต้องการตั้งชื่อเพื่อเตือนสติตัวเอง นายทะเบียนไม่สามารถกำหนดหรือคัดค้านได้
เปลี่ยนชื่อ ชีวิตเปลี่ยน?
ปฏิเสธไม่ได้ว่า เรื่อง "ชื่อ" เป็นความเชื่อที่ใครหลายคนมองว่า มีผลต่อชีวิต ถ้าชื่อดี ชีวิตก็จะดีตามไปด้วย ในขณะใครหลายคนไม่ค่อยเชื่อในเรื่องนี้เท่าไร ทำให้คำถาม "จริงหรือไม่การเปลี่ยนชื่อทำให้ชีวิตดีขึ้น" ยังคงค้างคาใจคนในไทยสังคมไทยอยู่ไม่น้อย แต่สิ่งที่พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี (ว.วชิรเมธี) ผู้อำนวยการสถาบันวิมุตตยาลัย เคยให้คมธรรมเอาไว้ในช่วงหนึ่งของรายการเช้านี้ที่หมอชิตก็พอจะนำมาสรุปได้เป็นอย่างดีว่า
"การเปลี่ยนชื่อใหม่ไม่ได้ทำให้ชีวิตมีความรุ่งโรจน์โชตนา เพราะถ้าลำพังการเปลี่ยนชื่อจะทำให้เราแต่ละครมีชีวิตที่รุ่งโรจน์ เราก็คงไม่ต้องลงทน ลงแรงเรียนหนังสือ หรือลุกขึ้นทำมาหากินแทบล้มกระดานตาย ทางสายกลางในเรื่องนี้มีอยู่ว่า
1. ถ้าชื่อไม่ไพเราะเพราะพริ้ง เราอยากจะเปลี่ยนก็เปลี่ยนได้ ไม่มีใครว่า แต่ได้โปรดอย่าเข้าใจผิดว่าลำพังการเปลี่ยนชื่อ ทุกอย่างจะดีขึ้น 2. ต้องเปลี่ยนวิธีคิด วิธีคิดแบบใดที่ทำให้เรามีแต่ความวุ่นวาย ต้องเลิกวิธีคิดแบบนั้น 3. ต้องเปลี่ยนพฤติกรรม พฤติกรรมใดก็ตามที่ทำให้ชีวิตเรามีแต่ความเดือดร้อนวุ่นวาย ต้องลด ละ เลิกพฤติกรรมเหล่านั้นอย่างสิ้นเชิง"
ก่อนจะทิ้งท้ายย้ำเตือนเกี่ยวกับเรื่องนี้เอาไว้ว่า "เราอาจเปลี่ยนชื่อกันได้นับร้อยครั้ง นับพันครั้ง แต่หากเราไม่เปลี่ยนวิธีคิด ชีวิตก็ไม่เปลี่ยน"
ขอบคุณภาพประกอบจากอินสตาแกรม@feawfoaw, @meijinaka
มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram
"MGR Online Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!
และสามารถส่งข่าวสารมาได้ที่: manageronlinelive@gmail.com
หรือ Fax 0-2629-4754
