รณรงค์ไม่พนัน รับมือฟุตบอลยูโร 2016 ด้านสถาบันสุขภาพจิตฯ ชี้ หลังเทศกาลบอลคนแห่ขอรับคำปรึกษา เหตุเครียด วิตก มีหนี้สิน คิดฆ่าตัวตาย ด้านวัยโจ๋ เปิดใจเคยตกเป็นทาสพนันนำชีวิตสู่อาชญากร ฝากเตือนสติดูบอลอย่างสร้างสรรค์ไม่ดึงพนันมาทำลายชีวิต
วันนี้ (7 มิ.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่เกาะพญาไท อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เครือข่ายรณรงค์หยุดพนัน ร่วมกับ กองทุนสลากกินแบ่งรัฐบาลเพื่อพัฒนาสังคม สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สายด่วนสุขภาพจิตเลิกพนัน 1323 และนักเรียน นักศึกษา จากสถาบันต่าง ๆ กว่า 150 คน จัดกิจกรรมรณรงค์รับมือปัญหาการพนันช่วงเทศกาลแข่งขันฟุตบอลแห่งชาติยุโรป (ยูโร 2016) ภายใต้แนวคิด “ยูโรยูโน รู้ทันไม่พนันบอล”
ทพญ.กุณฑีรา ตันติรังสี รองผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า กิจกรรมในวันนี้ต้องการสร้างความตระหนักป้องปรามไม่ให้เด็กเยาวชน และประชาชนทั่วไปเป็นเหยื่อของการพนันฟุตบอลในช่วงการแข่งขันฟุตบอลแห่งชาติยุโรป 2016 ซึ่งนับว่ากิจกรรมนี้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของกองทุนฯ คณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาลจึงได้สนับสนุนเงินทุนให้กับมูลนิธิเพื่อนเยาวชนเพื่อการพัฒนา เพื่อการทำสื่อรณรงค์ สปอตโทรทัศน์ สปอตวิทยุ ลงโฆษณาในหน้าหนังสือพิมพ์ ป้ายแบนเนอร์ สติกเกอร์ โปสเตอร์ต่าง ๆ นอกจากนี้ ที่ผ่านมา สำนักงานสลากฯได้สนับสนุนการทำงานของกรมสุขภาพจิตให้บริการศูนย์คำปรึกษาสายด่วนเลิกพนัน 1323 ซึ่งกำลังจะจัดตั้งศูนย์บำบัดฟื้นฟูผู้ติดการพนัน อีกด้วย
พญ.มธุรดา สุวรรณโพธิ์ ผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ และสายด่วนสุขภาพจิตเลิกพนัน 1323 กล่าวว่า จากสถิติการให้บริการสายด่วน 1323 ของกรมสุขภาพจิต ปี 2558 พบว่า มีผู้ขอรับปรึกษาปัญหาพนัน 310 ครั้ง เพศชายมากกว่าเพศหญิง3 เท่า ในจำนวนนี้มีปัญหาพนันบอล 34% ส่วนใหญ่อยู่ในวันทำงาน อายุ 22 - 59 ปี ซึ่งอายุต่ำสุดอยู่ที่ 12 ปี ในกลุ่มผู้ใหญ่จะเล่นพนันบอลหลักแสนบาท ส่วนเด็กเยาวชนอยู่ที่หลักหมื่นบาท การพนันยังส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิต คือ เกิดความเครียดและวิตกกังวล 48.8% รองลงมาคือ ปัญหาด้านหนี้สิน 17.53% ปัญหาครอบครัว 12.37% ปัญหาความรัก 8.59% และที่น่าห่วงคือ ปัญหาการฆ่าตัวตาย 3.55% อย่างไรก็ตาม ช่วงเทศกาลฟุตบอลจะมีการเข้ามาขอรับคำปรึกษาปัญหาพนันมากกว่าช่วงปกติ ดังนั้น จึงขอเตือนคอบอลทั้งหลาย ว่า ไม่ควรไปยุ่งเกี่ยวกับการพนัน หากจะดูบอลต้องดูบอลอย่างสร้างสรรค์ ควรแบ่งเวลาให้เหมาะสม พักผ่อนให้เพียงพอ ไม่ควรอดนอน และควรเปิดใจเข้าหาเมื่อพบว่าคนใกล้ตัวเริ่มมีพฤติกรรมเสี่ยงติดพนันบอล และควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
“การพนันบอลมีรูปแบบใหม่ ๆ เกิดขึ้นมากมาย ไม่ต้องมีเจ้ามือแค่ถือโทรศัพท์ก็เข้าถึงพนันบอลได้แล้ว ส่งผลกระทบตามมาทั้งหนี้สิน ภาวะเครียด หวาดระแวง มีปัญหาสุขภาพกาย สุขภาพจิต ยิ่งมีการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ร่วมด้วยยิ่งอันตราย สะท้อนได้จากช่วงเทศกาลบอลแต่ละโรงพยาบาลต้องเตรียมทีมแพทย์ฉุกเฉินรับมือตลอด 24 ชั่วโมง เนื่องจากส่วนใหญ่จะมีการทะเลาะวิวาท อุบัติเหตุ และหากตรวจสอบข้อมูลตามสถานีตำรวจจะพบว่ามีคดีเหล่านี้เพิ่มมากขึ้นในช่วงเทศกาลฟุตบอล ทั้งนี้ หากมีปัญหาต้องการรับคำปรึกษา สามารถ โทร.มาได้ที่สายด่วน กรมสุขภาพจิต 1323 ตลอด 24 ชั่วโมง” พญ.มธุรดา กล่าว
นายธนากร คมกฤส ผู้อำนวยการเครือข่ายรณรงค์หยุดพนัน กล่าวว่า จากผลการสำรวจของศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน ชี้ชัดว่า เด็กเยาวชนและคนรุ่นใหม่ อายุต่ำกว่า 40 ปี ลงมา เป็นกลุ่มคนที่เล่นพนันฟุตบอลมากที่สุด มีจำนวนกว่า 1 ล้านคน ยิ่งเมื่อมีมหกรรมกีฬาใหญ่ ๆ จะมีนักพนันหน้าใหม่เพิ่มขึ้นอีกมาก เพราะเข้าถึงข้อมูลข่าวสารและช่องทางการเล่นพนันได้ง่าย รวมทั้งอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ปลุกเร้ากระตุ้นให้อยากเล่นพนัน จริงอยู่ว่า การปราบปรามแหล่งพนันอย่างจริงจังของภาครัฐจะมีผลทำให้การเล่นพนันน้อยลง แต่ถ้ายังคงทำอยู่เพียงเท่านี้ก็ไม่พ้นว่าอีก 2 ปีข้างหน้า พอฟุตบอลโลกมา ต้องมาทำอย่างนี้กันอีก เราใช้วิธีวิ่งไล่จับปัญหากันมานาน น่าจะถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนเป็นการดักหน้าปัญหามากกว่า รัฐควรให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการเรียนรู้เพื่อรู้เท่าทันการพนัน อย่าหวังเพียงระบบโรงเรียน หน่วยที่จะช่วยนำพาการเรียนรู้ไปอาจเป็นหน่วยกิจกรรมจิตอาสา หรือภาคประชาสังคม รวมถึงสื่อต่าง ๆ ก็ได้
ด้าน นายบี (นามสมมติ) อายุ 18 ปี เยาวชนจากศูนย์ฝึกอบรมเด็กและเยาวชนชายบ้านกาญจนาภิเษก กล่าวถึงประสบการณ์ที่เคยตกเป็นทาสพนันบอล จนทำให้ชีวิตเปลี่ยนไปสู่อาชญากร ว่า เริ่มเล่นพนันบอลครั้งแรกตอนอายุ 14 ปี เริ่มจากเล่นผ่านโต๊ะพนัน เล่นผ่านออนไลน์ แต่ส่วนใหญ่จะเล่นกันเองในหมู่เพื่อนโดยลงขันกันแล้วนำเงินไปพนันกับเพื่อนต่างกลุ่มใช้เงินในการเล่นตั้งแต่หลักพันถึงหลักหมื่น ส่วนรายได้มาจากการขอพ่อแม่และทำงานรับจ้างตามปั๊มน้ำมัน เล่นอยู่อย่างนี้เกือบปี จนกระทั่งถูกโกง อีกฝ่ายเสียพนันบอลแล้วไม่ยอมจ่าย จึงมีปากเสียงทะเลาะกันรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยความโกรธแค้นจึงใช้ปืนยิงอีกฝ่ายจนเสียชีวิต และมีชาวบ้านหลายรายที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ครั้งนี้
“ผมถูกจับคดีฆ่าคนตายในช่วงวันเกิดของผมพอดี จึงถูกตัดสินโทษจำคุก 2 ปี โดยได้เข้าไปอยู่ที่บ้านกรุณา ซึ่งเป็นเหมือนเรือนจำ 9 เดือน จากนั้นจึงทำเรื่องขอย้ายมาอยู่ที่บ้านกาญจนาฯ ช่วงที่ต้องโทษ ความคิดเปลี่ยนไป มีสติมากขึ้น ได้เรียนรู้อะไรหลายอย่างโดยเฉพาะการพนันที่เป็นปัจจัยทำลายชีวิตผม หลังจากนี้ อีก 4 - 5 เดือน ผมจะพ้นโทษได้กลับไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ ผมจะตั้งใจเรียนเพื่ออนาคต และจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับการพนันทุกชนิด ทั้งนี้ อยากฝากเป็นอุทาหรณ์กับนักพนันทั้งหลาย ว่า การพนันไม่ทำให้ใครรวย มันเป็นเงินจอมปลอม เงินหลอกลวง ฟุตบอลถือเป็นกีฬาที่เราควรดูอย่างสนุกสร้างสรรค์ อย่าเอาพนันเข้ามาเกี่ยว เพราะมันไม่คุ้มกับชีวิต เมื่อไหร่ที่เราเล่นกับการพนัน มันจะไม่สนุกและไม่มีความสุขไปตลอดชีวิต” นายบี กล่าว
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่