ต่อจากการปรับโฉมของ มาสด้า 3 หรือ Axela ในตลาดญี่ปุ่น คราวนี้ทางมาสด้าขยับตัวตลาดรถยนต์ครอบครัว หรือกลุ่ม D-Segment ด้วยการปรับโฉม หรือไมเนอร์เชนจ์ ให้กับมาสด้า 6 ทั้งตัวถังซีดาน และแวกอน มาพร้อมหน้าตาที่สดใหม่ และเทคโนโลยีใหม่อย่าง GVC หรือ G-Vectoring Control system
แม้ว่าเจเนอเรชั่นที่ 3 ของมาสด้า 6 จะเปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2012 แต่ทว่าที่เห็นอยู่นี้ก็ยังไม่ใช่การเปลี่ยนโฉม หรือโมเดลเชนจ์ โดยทางมาสด้า นำ 6 ใหม่มาเปิดตัวพร้อมกับรูปลักษณ์ที่ได้รับการปรับปรุงรอบคันทั้งไฟหน้า กระจังหน้า และกันชนหน้าใหม่ ส่วนด้านท้ายก็มีการปรับปรุงในส่วนของรายละเอียดของชุดไฟท้ายและกันชนใหม่ เพื่อให้เกิดความสะดุดตาขึ้น
ประเด็นที่ถือเป็นจุดเด่นสำหรับมาสด้า 6 ใหม่ คือ การใช้เทคโนโลยี SKYACTIV-Vehicle Dynamics ด้วยการเพิ่มระบบที่เรียกว่า GVC เข้าไป โดยจะเป็นการตรวจสอบและควบคุมการทำงานของตำแหน่งพวงมาลัยและการเปิดของลิ้นปีกผีเสื้อของเครื่องยนต์ในขณะที่เข้าโค้งด้วยความเร็ว อีกทั้งยังลดการส่งแรงบิดจากเครื่องยนต์ไปยังเพลาล้อหน้า เพื่อช่วยในเรื่องของการกระจายน้ำหนักซึ่งจะส่งผลต่อการยึดเกาะและการทรงตัวในขณะเข้าโค้งได้ดีขึ้น
ทางเลือกของเครื่องยนต์ที่จะวางขายในตลาดเท่าที่มีการเปิดเผยในตอนนี้เป็นสเปกของยุโรป ซึ่งจะคล้ายกับรุ่นก่อนปรับโฉม แบ่งเป็นเบนซินและเทอร์โบดีเซลอย่างละ 2 รุ่นบนพื้นฐานของขุมพลังแบบ 4 สูบเรียง โดยแบบแรกจะมีให้เลือก 2 กำลังขับเคลื่อนจากเครื่องยนต์ 2,000 ซีซี คือ 145 และ 162 แรงม้า ส่วนแบบหลังใช้ขุมพลัง 2,200 ซีซี Skyactiv-D มีกำลัง 150 และ 175 แรงม้า ซึ่งในรุ่นเทอร์โบดีเซลจะมีเทคโนโลยีใหม่ เช่น Transient Control มาใช้ ซึ่งจะช่วยลดอาการ Lag ของเทอร์โบ และปรับปรุงการตอบสนองของชุดลิ้นปีกผีเสื้อที่ไวขึ้น ส่วนอีกอย่างคือ NSS หรือ Natural Sound Smoother ช่วยลดอาการน็อกของเครื่องยนต์เทอร์โบดีเซลในระหว่างการสตาร์ท และเร่งความเร็วในช่วงรอบต่ำ
มาสด้า 6 รุ่นปรับโฉมอัดเทคโนโลยีลงทำตลาดในยุโรปแล้ว โดยตั้งราคาเอาไว้ที่ 19,795-28,895 ปอนด์ หรือ 989,000-1,440,000 บาท
