เอ็มจีอาร์ มอเตอริ่ง ได้รับเชิญจากมาสด้า ประเทศไทย เดินทางไปญี่ปุ่น ร่วมงาน MAZDA ASEAN FORUM 2016 และได้มีโอกาสสัมผัสมาสด้า CX-9 ซึ่งจอดอยู่หน้าโรงงาน โฮฟุ เมืองยามากูชิ เลยเก็บภาพมาฝาก ที่สำคัญรถรุ่นนี้ จะนำเข้าจากญี่ปุ่นมาจำหน่ายในบ้านเราประมาณต้นปีหน้า ..ส่วนราคาคงต้องมารอลุ้นกันดู…สำหรับรายละเอียดของตัวรถตามบรรทัดข้างล่างนี้
CX-9 เป็นรถยนต์อเนกประสงค์รุ่นใหญ่ของมาสด้า ที่เปิดตัวออกสู่ตลาดมาเป็นเจเนอเรชั่นที่ 2 แล้ว โดย CX-9 เป็นผลผลิตเปิดตัวออกสู่ตลาดครั้งแรกในปี 2006 ก่อนที่จะมีการเปลี่ยนโฉม หรือโมเดลเชนจ์เมื่อปี 2016
สำหรับในรุ่นใหม่นี้มาพร้อมกับตัวถังที่สวยและสปอร์ตขึ้น โดยที่มีความยาวของระยะฐานล้อเพิ่มขึ้นอีก 2.2 นิ้ว ทำให้สามารถเพิ่มพื้นที่ใช้สอยในห้องโดยสาร โดยเฉพาะ Legroom ที่เบาะนั่งหลังได้เป็นอย่างดี โดยภายในห้องโดยสาร ให้ความสะดวกสบายด้วยเบาะนั่งแถวที่ 2 และ 3 เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการรองรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารรวม 7 ที่นั่ง
ขณะที่ตัวถังภายนอกยังโดดเด่นในด้านการนำเสนอความสปอร์ตตามแบบฉบับ Design Language ของมาสด้าที่เรียกว่า KODO Design พร้อมความยาวตัวถังในระดับ 5,065 มิลลิเมตร ซึ่งสั้นกว่าเดิม 30 มิลลิเมตร และเสริมความสวยสปอร์ตด้วยล้อแมกซ์ที่มีให้เลือกตั้งแต่ขนาด 18 และ 20 นิ้ว
เครื่องยนต์ที่ทำตลาดมีเพียงแบบเดียว และถอดขุมพลังแบบวี6 3,700 ซีซีออกไป แล้วแทนที่ด้วยขุมพลัง 4 สูบ 2,500 ซีซีที่ได้รับการลดขนาดแต่ไม่ลดสมรรถนะเพราะเมื่อบวกกับเทอร์โบแบบ Dynamic Pressure Turbo ปรับบูสต์เอาไว้ที่ 1.2 บาร์ รีดกำลังออกมาได้ 254 แรงม้า ที่ 5,000 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 31.6 กก.-ม. ที่ 2,000 รอบ/นาที แต่เมื่อเติมน้ำมันเกรดธรรมดา-ออกเทน 87 กำลังจะลดลงมาอยู่ที่ 230 แรงม้า
CX-9 เป็นรถยนต์อเนกประสงค์รุ่นใหญ่ของมาสด้า ที่เปิดตัวออกสู่ตลาดมาเป็นเจเนอเรชั่นที่ 2 แล้ว โดย CX-9 เป็นผลผลิตเปิดตัวออกสู่ตลาดครั้งแรกในปี 2006 ก่อนที่จะมีการเปลี่ยนโฉม หรือโมเดลเชนจ์เมื่อปี 2016
สำหรับในรุ่นใหม่นี้มาพร้อมกับตัวถังที่สวยและสปอร์ตขึ้น โดยที่มีความยาวของระยะฐานล้อเพิ่มขึ้นอีก 2.2 นิ้ว ทำให้สามารถเพิ่มพื้นที่ใช้สอยในห้องโดยสาร โดยเฉพาะ Legroom ที่เบาะนั่งหลังได้เป็นอย่างดี โดยภายในห้องโดยสาร ให้ความสะดวกสบายด้วยเบาะนั่งแถวที่ 2 และ 3 เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการรองรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารรวม 7 ที่นั่ง
ขณะที่ตัวถังภายนอกยังโดดเด่นในด้านการนำเสนอความสปอร์ตตามแบบฉบับ Design Language ของมาสด้าที่เรียกว่า KODO Design พร้อมความยาวตัวถังในระดับ 5,065 มิลลิเมตร ซึ่งสั้นกว่าเดิม 30 มิลลิเมตร และเสริมความสวยสปอร์ตด้วยล้อแมกซ์ที่มีให้เลือกตั้งแต่ขนาด 18 และ 20 นิ้ว
เครื่องยนต์ที่ทำตลาดมีเพียงแบบเดียว และถอดขุมพลังแบบวี6 3,700 ซีซีออกไป แล้วแทนที่ด้วยขุมพลัง 4 สูบ 2,500 ซีซีที่ได้รับการลดขนาดแต่ไม่ลดสมรรถนะเพราะเมื่อบวกกับเทอร์โบแบบ Dynamic Pressure Turbo ปรับบูสต์เอาไว้ที่ 1.2 บาร์ รีดกำลังออกมาได้ 254 แรงม้า ที่ 5,000 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 31.6 กก.-ม. ที่ 2,000 รอบ/นาที แต่เมื่อเติมน้ำมันเกรดธรรมดา-ออกเทน 87 กำลังจะลดลงมาอยู่ที่ 230 แรงม้า