มาสด้ากระตุ้นตลาดให้กับคอมแพ็กต์คาร์ยอดนิยมของตัวเองอย่าง 3 หรือ Axela ในตลาดญี่ปุ่น เปิดตัวรุ่นปรับโฉมหรือไมเนอร์เชนจ์ ซึ่งนอกจากจะมีหน้าตาที่สดใหม่แล้ว ยังมีการติดตั้งเทคโนโลยีใหม่เพิ่มเข้าไปที่เรียกว่า G-Vectoring Control เช่นเดียวกับระบบความปลอดภัยอื่นๆ
3 รุ่นนี้ถือเป็นเจนเนอเรชั่นที่ 3 ของรถยนต์รุ่นนี้ที่มาสด้ามีการปรับชื่อเรียกรุ่นจาก 323 มาเป็น 3 ตั้งแต่ปี 2003 โดยตัวรถเปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2013 มีทั้งตัวถังซีดานและแฮทช์แบ็กเหมือนกับที่ผ่านมา ส่วนรุ่นใหม่ในแบบไมเนอร์เชนจ์นั้น เท่าที่มีการเปิดเผยออกมา ความต่างในแง่ของรูปร่างหน้าตานั้น สัมผัสได้ตั้งแต่ไฟหน้าทรงใหม่ ที่ได้รับการออกแบบให้รับกับกันชนใหม่ด้วย ส่วนด้านท้ายสวยสปอร์ตกับไฟท้ายแบบเดิม แต่ปรับปรุงรายละเอียดการจัดวางของตำแหน่งไฟใหม่
ในส่วนของไฟหน้านั้นมีการติดตั้งเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามา เป็นแบบอัตโนมัติ Adaptive LED Headlight สามารถทำงานในระดับความเร็ว+/- 40 กิโลเมตร/ชั่วโมง ซึ่งระบบจะมีการปรับแสงไฟอัตโนมัติตามรูปแบบการขับขี่ และยังโหมดที่เรียกว่า Highway Mode จะปรับการทำงานส่องสว่างในการขับขี่กลางคืนให้สามารถส่องได้ไกลขึ้น เมื่อความเร็วของตัวรถเกิน 95 กิโลเมตร/ชั่วโมง
ส่วนระบบความปลอดภัยที่เรียกว่า Advanced Smart City Brake system ก็มีการอัพเกรดในแง่การทำงานทั้งการตรวจจับรถยนต์ที่อยู่บนท้องถนนและคนเดินถนน โดยจะเปลี่ยนการจับภาพที่อยู่ข้างหน้ามาเป็นกล้องแบบ Forward-Sensing แทนการใช้สัญญาณอินฟาเรด และจะทำงานในช่วงความเร็ว 4-80 กิโลเมตร/ชั่วโมง
นอกจากนั้นยังมีระบบ SKYACTIV-Vehicle Dynamics ที่มีจุดเด่นอยู่ที่ G-Vectoring Control ซึ่งก็คือ การใช้เครื่องยนต์เพิ่มประสิทธิภาพของระบบช่วงล่าง และการควบคุมรถให้ดีขึ้น โดยเป็นครั้งแรกของโลกที่มีการใช้ระบบควบคุมแรงบิดเครื่องยนต์ตามการหมุนของพวงมาลัย การช่วยคำนวณการถ่ายเทน้ำหนักลงสู่ล้อแต่ละข้างตามการเหยียบคันเร่งหรือชะลอความเร็ว รวมทั้งลดการเคลื่อนของพวงมาลัยเพื่อรักษารถให้อยู่ในเลนได้ง่ายขึ้น
สำหรับเครื่องยนต์ที่เปิดตัวออกมาในเวอร์ชัน JDM สำหรับขายในญี่ปุ่นนั้น มีเบนซิน 4 สูบ 1,500 ซีซี เทอร์โบดีเซล 105 แรงม้า ที่เป็นเครื่องยนต์ใหม่สำหรับญี่ปุ่น มีทั้งรุ่นเกียร์ธรรมดาและอัตโนมัติ 6 จังหวะ ส่วนเครื่องยนต์เทอร์โบดีเซล 2,200 ซีซีที่มีอยู่แล้วก่อนหน้านี้ก็ยังขายต่อไปควบคู่กับรุ่นเบนซิน 1,500 ซีซี โดยมีให้เลือกทั้งแบบขับเคลื่อนล้อหน้า หรือ 4 ล้อตลอดเวลา
ส่วนตลาดยุโรปจะมีทั้งรุ่นเบนซิน 1,500 ซีซี 100 แรงม้า และ 120แรงม้า ตามด้วย 2,000 ซีซี 165 แรงม้า พร้อมเทอร์โบดีเซล 1,500 ซีซี 105 แรงม้า และ2,200 ซีซี 150 แรงม้า
อย่างไรก็ตาม รถรุ่นนี้ ทางมาสด้าได้เชิญสื่อมวลชนไทยรวมทดสอบระหว่างวันที่ 25-28 กรกฎาคม นี้ ณ ประเทศญี่ปุ่น และผู้จัดการมอเตอร์ริง ก็เป็นหนึ่งสื่อรวมทดสอบมาสด้า 3 ไมเนอร์เชนจ์ ด้วย และจะมารายงานให้ฟังกันอีกที